หลงรักทนายคนเลว นิยาย บท 267

บทที่ 267 จุดประสงค์อะไร

เป้ยฉายเวยมาถึงแล้ว แต่หนานฉิงยังไม่มา เธอคุ้นชินกับสถานการณ์แบบนี้ดี ไม่ได้เหนือความคาดหมายใดๆเลย

หลังจากที่รอมาจนเกือบจะชั่วโมงแล้ว หนานฉิงก็ถือกระเป๋าชาแนลรุ่นใหม่ล่าสุดเดินเอ้อระเหยลอยชายเข้ามา แม้ปากจะพูดว่าขอโทษ แต่หน้าตากลับไม่มีแววสำนึกผิดเลยสักนิด

“เวยเวยขอโทษด้วยนะ ให้เธอรอนานเลย”

“ไม่เป็นไร” เป้ยฉ่ายเวยยกมุมปากแล้วตอบกลับไป

หนานฉิงรอให้พนักงานเลื่อนเก้าอี้ให้ถึงได้นั่งลงไป เมื่อมองรอยยิ้มอ่อนๆบนใบหน้าเป้ยฉ่ายเวย ในตาก็ฉายแววมาดร้ายขึ้นมาเพียงชั่วแวบเดียว นังคนชั้นต่ำ เมื่อวานเข้าโรงแรมกับอาเจ๋อ ยังจะมีหน้ามายิ้มให้เธออย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อนอยู่อีก

สงสัยเธอจะประเมินความต่ำทรามของเป้ยฉ่ายเวยต่ำไปสินะ ใบหน้าเธอยังประดับด้วยรอยยิ้มหวานๆ “เวยเวยเธออยากดื่มอะไร เดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง”

“ไม่ล่ะ แค่น้ำเปล่าก็พอ” เป้ยฉ่ายเวยชี้ไปยังน้ำเปล่าที่วางอยู่ตรงหน้าตนเอง

หนานฉิงจึงไม่ปริปากพูดอะไร สั่งน้ำผลไม้ให้ตัวเองแก้วหนึ่งพนักงานถึงได้เดินจากไปพร้อมกับออเดอร์ เธอจดจ้องเป้ยฉ่ายเวยอยู่นาน นานจนเป้ยฉ่ายเวยรู้สึกอึดอัด ถึงได้ละสายตากลับมา

พูดออกมาราวไม่รู้เรื่องทั้งยังดูน่าสงสาร “เวยเวยต้องขอโทษจริงๆนะ เธอออกจากโรงพยาบาลฉันก็ไม่ได้ไปรับ คือช่วงนี้ฉันยุ่งมากจริงๆ”

“ไม่เป็นไร ฉันโอเคดี” เมื่อครู่เหมือนเป้ยฉ่ายเวยเห็นความเกลียดชังภายในแววตาของหนานฉิงเพียงชั่วแวบนึง หรือเธอจะตาฝาดไปเองนะ?

เมื่อหนานฉิงได้ยินว่าเป้ยฉ่ายเวยสบายดี ก็เผยรอยยิ้มยินดีออกมา “แบบนั้นก็เยี่ยมเลยล่ะ ฉันก็คิดว่าร่างกายเธอจะยังไม่หายดี โชคดีมากๆเลยนะเวยเวย”

“ใช่แล้ว” เป้ยฉ่ายเวยดึงสติกลับมา โชคดีที่เธอไม่ถูกจางเจิ้งกวางขืนใจ ไม่อย่างนั้นตอนนี้เธอคงไม่สามารถมานั่งพูดคุยกับหนานฉิงได้หรอก “หนานฉิง เธอเรียกฉันมาพบวันนี้มีอะไรหรือเปล่า?”

เธอเอาแต่รู้สึกได้ถึงความรู้สึกไม่สบายใจบางอย่าง

เล็บที่ทำมาสวยงามของหนานฉิงสะท้อนเข้ากับแสงอาทิตย์จนเป็นประกายขึ้นมา เธอเคาะนิ้วลงที่โต๊ะเบาๆ เบิกดวงตาที่แสร้งทำเป็นใสซื่อผสมปนเปไปกับความสับสนได้อย่างแนบเนียน ยิ้มฝืนๆถามออกมาว่า “เวยเวย หลายวันมานี้อาเจ๋อไม่อยู่ที่บริษัทเลย เธอรู้ไหมว่าเขาอยู่ที่ไหน?”

“ฉันไม่รู้” เป้ยฉ่ายเวยรู้สึกเครียดขึ้นมาทันที ใช้ใบหน้าเรียบนิ่งตอบกลับไป

หนานฉิงไม่ได้ทำท่าเคลือบแคลงเธอ พูดขึ้นอย่างเสียดายว่า “เฮ้อ ฉันก็นึกว่าเธอจะรู้ซะอีก ช่วงนี้อาเจ๋อไม่มาหาฉันเลย ฉันก็ไม่รู้ว่าเขาไปที่ไหน แต่เมื่อวานฉันได้ยินมาว่าเขาไปที่ไนท์ซิตี้คลับ เธอว่ามันเป็นไปได้ไหม?”

เป้ยฉ่ายเวยรู้สึกได้ถึงแววตาราวกับกำลังขุดหาอะไรบางอย่างของหนานฉิงที่คอยเอาแต่กวาดมองมาที่เธอไม่หยุด ราวกับต้องการที่จะได้ยินคำตอบอะไรจากปากของเธอ แต่เธอไม่แน่ใจว่าหนานฉิงรู้เรื่องมามากแค่ไหน แต่ที่แน่ๆคงจงใจถามคำถามนี้

เธอเงยหน้าขึ้นสบตา มองหนานฉิงอย่างนิ่งๆแล้วพูดว่า “ฉันไม่รู้ แล้วถ้าเรื่องที่เธอจะพูดกับฉันเป็นเรื่องของเขา ฉันต้องขอโทษด้วยนะ ฉันไม่อยากฟัง”

“เวยเวย ทำไมเธอต้องโมโหด้วยล่ะ?” หนานฉิงแสร้งทำเป็นแปลกใจ ทั้งยังเศร้าใจ แต่ถ้อยคำที่พูดออกมากลับดูร้ายกาจ “ทั้งที่คนที่ควรจะโกรธต้องเป็นฉันไม่ใช่หรอ? เธอกับอาเจ๋อเข้าโรงแรมด้วยกัน คนที่โดนสวมเขาก็คือฉันไง หรือเธอคิดว่าฉันพูดอะไรผิดล่ะ?”

เสียงเติ้งที่ดังขึ้นเบาๆ เป็นเพราะมือที่วางอยู่บนโต๊ะของเป้ยฉ่ายเวยตกลงกระแทกกับเก้าอี้ หนานฉิงรู้เรื่องเมื่อวานจริงๆด้วย ในเวลานี้ เธอก็ไม่รู้ว่าควรตอบกลับไปอย่างไรดี

ให้บอกหนานฉิงว่าเพราะเธอโดนวางยา ฉูเจ๋อหยางเลยมาช่วยตัวเองไว้พอดี? พูดออกไปแบบนี้ แม้แต่ตัวเธอเองก็ยังไม่อยากเชื่อเลย แล้วคิดว่าคนอื่นจะเชื่อหรอ

แต่ในความเป็นจริงเธอกับฉูเจ๋อหยางเข้าโรงแรมด้วยกัน เรื่องที่ไม่ควรเกิดมันก็เกิดขึ้นแล้ว

หนานฉิงมองสีหน้าเรียบนิ่งของเป้ยฉ่ายเวย เธอก็กัดฟันกรอด แต่เพื่อเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ เธอจึงต้องอดทนเอาไว้

เธอล้วงหยิบของบางอย่างออกมาจากกระเป๋า กดปุ่มเปิด จากนั้นก็พูดขึ้นอย่างเศร้าใจ “เวยเวย ฉันไม่คิดเลยจริงๆว่าเธอจะต่ำจนถึงขั้นนี้แล้ว เธอเป็นเพื่อนที่ฉันสนิทที่สุดในช่วงมหาลัย แต่ฉันกลับถูกเพื่อนสนิทอย่างเธอหักหลังโดยการคบหากับแฟนของฉัน เธอไม่ละอายใจบ้างเลยหรอ?”

เพราะเป้ยฉ่ายเวยรู้สึกผิด ถึงแม้หนานฉิงจะบิดเบือนเรื่องจริงไปบ้าง แต่เธอก็ไม่ได้แก้ตัวให้ตัวเองใดๆ “หนานฉิง ฉันรู้ว่าถึงฉันจะอธิบายอะไรไปก็คงไม่มีประโยชน์ แต่ว่าฉันรับประกันฉันจะไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกแล้ว”

เพราะว่าอีกไม่นานเธอก็ต้องไปแล้ว คงไม่ไปทำให้ความสัมพันธ์พวกเขายุ่งเหยิงอีก

รับประกัน? เหอะๆ เธอจะไม่เชื่ออะไรจากปากของเป้ยฉ่ายเวยอีกแล้ว หนานฉิงแสร้งตีหน้า เล่นละครก็ต้องเล่นให้เนียน “เวยเวย ฉันแค่อยากรู้ว่าทำไมเธอถึงทำอย่างนั้น เธอก็รู้ทั้งรู้ว่าฉันรักอาเจ๋อแค่ไหน”

“ฉัน.......” เป้ยฉ่ายเวยมองหนานฉิงที่เศร้าสร้อย ในใจยิ่งรู้สึกผิดเข้าไปใหญ่ เอาตามจริงเธอรู้จักฉูเจ๋อหยางก่อนหนานฉิงอีก ก็แค่ผิดที่ผิดเวลาก็เท่านั้น

ถึงจะอย่างนั้นมันก็แก้ไขไม่ได้แล้ว ความจริงที่ว่าฉูเจ๋อหยางกับหนานฉิงรักกันก่อนก็ยังเป็นความจริงอยู่วันยังค่ำ เธอคิดว่าหลังจากที่พวกเขาเลิกกัน เธอจะมีโอกาส แต่ไม่รู้เลยว่าหนานฉิงจะกลับมา

“เพราะเธออิจฉาฉันเธอเลยคบกับอาเจ๋องั้นหรอ? เวยเวยไม่คิดเลยว่าเธอจะเป็นคนแบบนี้” หนานฉิงไม่รอให้เป้ยฉ่ายเวยปริปากพูด โยนความผิดไปให้เธอเต็มๆ

“ขอโทษ” เป้ยฉ่ายเวยก้มหน้าลงจึงไม่ทันได้เห็นแววตาเคียดแค้นของหนานฉิง หลังจากเกิดเรื่องจางเจิ้งกวาง เธอก็ไม่ได้รู้สึกติดค้างอะไรกับหนานฉิงอีก แต่หลังจากเกิดเรื่องเมื่อวาน เธอก็ไม่สามารถทำใจให้สบายได้เลย

เมื่อหนานฉิงได้ยินคำที่อยากจะฟัง จึงปิดสิ่งที่อยู่ในมือลงแล้วเอากลับไปใส่กระเป๋าไว้ดั่งเดิม ความเจ็บปวดเสียใจบนใบหน้าก็หายไปแล้วเหมือนกัน ดึงเอาทิชชู่แผ่นหนึ่งออกมาชับหางตา เมื่อเห็นแววตาที่ดูงงงวยของเป้ยฉ่ายเวย ก็แสยะยิ้มออกมา “ทำไม ไม่เห็นฉันร้องไห้แล้วเลยรู้สึกผิดหวังงั้นหรอ?”

“ไม่ใช่ หนานฉิง นี่เธอ.....” เป้ยฉ่ายเวยทึ่งกับอารมณ์ที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วของหนานฉิง

หนานฉิงไม่ได้พูดอะไร เพราะพนักงานมาเสิร์ฟน้ำผลไม้พอดี เธอเลยยกน้ำผลไม้ขึ้นมาจิบ จากนั้นก็ค่อยๆวางลง เมื่อพนักงานเดินออกไปแล้ว

ถึงได้เอ่ยปากพูดด้วยเสียงเย็นเหยียบ “ฉันทำไม? เป้ยฉ่ายเวยในเมื่อเธอทำเรื่องหน้าไม่อายได้ถึงขนาดนี้ ฉันคงพูดอะไรไม่ได้แล้ว แต่ว่านะเป้ยฉ่ายเวยเธอบอกมาซิว่าเธอยังสามารถต่ำไปได้ถึงขั้นไหนหรอ”

เมื่อเป้ยฉ่ายเวยได้ฟังคำที่ดูถูกเหยียดหยามจากหนานฉิง เธอก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วมุ่น น้ำเสียงเธอจึงหนักลงไปด้วย “หนานฉิง ฉันบอกเธอได้แค่ว่าเรื่องเมื่อวานมันเป็นเหตุสุดวิสัย ฉันรับรองว่าต่อไปจะไม่มีเรื่องแบบี้เกิดขึ้นอีก”

“เธอกำลังสัญญางั้นหรอ? เป้ยฉ่ายเวยเธอพูดแบบนี้มากี่ครั้งแล้ว แต่ว่านะ ในทุกๆครั้งฉันก็จะเห็นเธอเดินออกมาจากที่พักของอาเจ๋อตลอด และครั้งนี้ถึงกับทนไม่ไหวจนต้องเข้าโรงแรม เธอคิดว่าฉันจะเชื่อเธอได้ยังไง”

หนานฉิงนิ่งไป แต่จู่ๆก็ขยับกายเข้ามาใกล้ แววตาเกลียดชังจดจ้องมาที่ดวงตาของเธอ “หรือว่าเธอจะเป็นผู้หญิงมักมาก เธอว่าไอ้งั่งอย่างหลี่จื่อเชียนจะรู้ไหมว่าถูกเธอสวมเขาให้ซะแล้ว”

“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับจื่อเชียน รบกวนเธออย่าดึงคนอื่นเข้ามาเกี่ยวด้วย” เป้ยฉ่ายเวยไม่อยากดึงหลี่จื่อเชียนเข้ามาพัวพัน น้ำเสียงเธอจึงดูจริงจังขึ้นมา

หนานฉิงส่งเสียงหึออกมา “ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ ที่เธอเริ่มแข็งกระด้างแบบนี้ เธอแม่พระไม่ใช่หรอ เธอเป็นคนดีไม่ใช่หรือไง เป้ยฉ่ายเวยเธอนี่ช่างเป็นผู้หญิงที่แสดงละครตบตาคนอื่นได้น่าสงสารที่สุดแล้ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลงรักทนายคนเลว