บทที่ 478 ตบกันอย่างเอาเป็นเอาตาย
เป้ยฉ่ายเวยดึงมุมปาก ความรู้สึกเก่าๆเริ่มตีรวนกลับมา เมื่อย้อนกลับไปมองตัวเองในอดีต ก็รู้สึกราวกับตัวเองเป็นคนโง่คนหนึ่ง
เพราะเป็นหนานฉิง เธอถึงได้รู้สึกผิดอยู่สี่ปีเต็มๆ
เพราะเป็นหนานฉิง เธอถึงได้ยอมถอยให้ตลอด แม้แต่จะตอบโต้หนานฉิงสักครั้งเป้ยฉ่ายเวยยังไม่กล้า
ตอนนี้กลับมาบอกกันว่า ความรู้สึกอันมีค่าที่เคยมีให้กันความจริงแล้วกลับเป็นแค่ฟองอากาศที่ว่างเปล่าน่ะหรือ?
เป้ยฉ่ายเวยไม่รู้ว่าในใจกำลังรู้สึกยังไงอยู่
อาจจะเป็นความรู้สึกผิดหวัง หรือไม่ก็เสียใจ แต่ที่มากไปกว่านั้นก็คือความรู้สึกหลุดพ้น
มุมปากของเป้ยฉ่ายเวยยกขึ้นเป็นรอยยิ้มที่ดูใจกว้าง
เมื่อหางตาของหนานฉิงเหลือบไปเห็นรอยยิ้มของเธอ ก็โมโหขึ้นมาทันที
ยื่นมือออกไปเตรียมตวัดใส่หน้าเป้ยฉ่ายเวยโดยที่ไม่ให้ได้ตั้งตัว
“เธอมันชั้นต่ำ....โอ๊ย.....” หนานฉิงกรีดร้องเสียงแหลม เมื่อถูกเป้ยฉ่ายเวยรวบข้อมือเอาไว้อย่างแน่นหนา
”
เป้ยฉ่ายเวยหรี่ตาลง “เธอคิดว่าฉันจะยอมนิ่งเป็นรูปปั้นไม่ด่าไม่ตบเธอกลับจริงๆหรอ?”
“ปล่อย!นังบ้า นังคนชั้นต่ำ!” หนานฉิงตกใจกับสายตาไม่แยแสของเป้ยฉ่ายเวย ดวงตามีเสน่ห์คู่นั้นจ้องเธอด้วยแววตาดำดิ่ง ไอเย็นๆรอบตัวเริ่มแผ่ออกมาโดยไม่ทราบสาเหตุ
หนานฉิงสั่นเทา จากนั้นก็ผลักเป้ยฉ่ายเวยออกทันที
เป้ยฉ่ายเวยทำเพียงแค่ดึงแขนเสื้อขึ้น ไม่ได้เข้าไปใกล้หนานฉิงอีก
อพาร์ทเม้นแห่งนี้มีสองห้องนอนและหนึ่งห้องโถง
ตอนนี้ไม่ว่าจะถูกลักพาตัวมาด้วยเหตุผลอะไร แต่ถึงยังไงก็ยังได้รับการปฏิบัติที่ดี อย่างน้อยตอนนี้เธอก็สามารถเลือกอยู่ห้องใดห้องหนึ่งได้เพื่อไม่ต้องมาเจอผู้หญิงน่ารังเกียจคนนี้
หนานฉิงจ้องเป้ยฉ่ายเวยที่กำลังเดินไปทางห้องๆหนึ่งอย่างอกผายไหล่ผึ่งด้วยสายตาลุกเป็นไฟ ความเกลียดชังที่มีอยู่ค่อยๆหมักหมมขึ้นมา
เป็นความผิดของเป้ยฉ่ายเวยทั้งหมด เป้ยฉ่ายเวยแย่งคนรักของเธอไป ยังมีหน้ามาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อีก ทั้งยังปล่อยให้ไอ้เด็กเวรนั่นค่อยๆยึดครองตำแหน่งสำคัญในใจของอาเจ๋อ ทำให้อาเจ๋อไม่อยากแต่งงานกับเธอ
เพราะฉะนั้นเป้ยฉ่ายเวยต้องได้รับโทษจนถึงตาย!
เมื่อเห็นเป้ยฉ่ายเวยกำลังจะเดินเข้าห้อง หนานฉิงก็ไม่รู้ว่าเอาเรี่ยวแรงมาแต่ไหน วิ่งโซซัดโซเซเข้าไปกระชากแขนของเป้ยฉ่ายเวยเอาไว้จากด้านหลัง “อย่าพึ่งไป! เธอจะยังไปไหนไม่ได้! คืนอาเจ๋อมาให้ฉัน....เอาเขาคืนมาให้ฉัน....”
เป้ยฉ่ายเวยขมวดคิ้ว รีบจับข้อมือของเธอที่ฟาดสะเปะสะปะอย่างพัลวันเอาไว้
แต่ไม่รู้ว่าหนานฉิงเอาแรงมาแต่ไหนเยอะแยะ ท่าทางเมามายที่ดูไร้เรี่ยวแรงก่อนหน้า ตอนนี้กลับมีแรงกระโจนใส่เป้ยฉ่ายเวยจนล้มลงได้ จากนั้นก็ตบตีอย่างไม่คิดชีวิต
ทั้งจิกกัดทั้งข่วนใบหน้าของเป้ยฉ่ายเวย
“โอ๊ย....เธอบ้าไปแล้วหรือไง!” เป้ยฉ่ายเวยร้องเสียงแหลม โทสะที่มีอยู่ในใจระเบิดออกมาทันที เธอจับหนานฉิงเอาไว้พร้อมทั้งกัดฟันกรอด จากนั้นก็เริ่มสู้กลับ
ไม่นาน การสู้กันอย่างสมน้ำสมเนื้อระหว่างทั้งสอง ก็เริ่มอุตลุดขึ้นมา
“แอ๊ด”
เสียงเปิดประตูที่ดังขึ้นเบาๆ ไม่สามารถดึงดูดความสนใจจากเธอทั้งสองได้
แววตาทึมๆของเสิ่นลั่งย้อมไปด้วยแววประหลาดใจ ต่อมามุมปากก็ยกยิ้มขึ้น แล้วปรบมือเสียงดัง “แปะๆๆ.....ผมนี่อิจฉาฉูเจ๋อหยางจริงๆ ถึงขนาดทำให้ผู้หญิงสวยๆสองคนตบกันอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อแย่งเขา ช่างยอดเยี่ยมเสียจริง!”
เป้ยฉ่ายเวยยื่นมือออกไปผลักหนานฉิงที่นั่งอยู่บนตัวออก สภาพน่าเวทนาของใบหน้าขาวกระจ่างใสก็ปรากฏแก่สายตา เพราะมีรอยจิกรอยข่วนประทับอยู่บนนั้น บางจุดถึงขนาดมีเลือดซิบออกมานิดหน่อย
“สิ่นลั่ง” เมื่อเห็นหน้าค่าตาผู้ชายตรงหน้าชัดเจน ดวงตาของเป้ยฉ่ายเวยก็หรี่ลงอย่างดุร้าย
นัยน์ตาของเสิ่นลั่งวาวโรจน์ จ้องมองมาราวกับจะสะกดจิต “ยังไม่เข้าใจอีกหรอ? ฉูเจ๋อหยางน่ะไม่ธรรมดาเลยนะ เขาวางแผนไว้แล้วว่าต่อให้ต้องขัดแข้งขัดขาใครต่อใครมากมาย แต่แค่เขาทำทีเป็นมีความสัมพันธ์คลุมเครือกับคุณ เท่านี้ก็ปกป้องผู้หญิงที่เขารักจากคนพวกนั้นได้แล้ว ซึ่งสรุปได้ว่า เขาใช้คุณหรือแม้แต่ลูกของคุณเป็นโล่ป้องกันภัยให้หนานฉิงยังไงล่ะ เข้าใจหรือยัง?”
ใบหน้าของเป้ยฉ่ายเวยฉาบไปด้วยสีซีด สีหน้าแสดงออกว่าไม่อยากจะเชื่อ
เธอไม่อยากเชื่อคำพูดของเสิ่นลั่ง แต่ความมั่นอกมั่นใจและแววตาเยาะเย้ยในดวงตาของเขามันจริงจังจนเหมือนพูดความจริง ทำเอาเธออดไม่ได้ที่จะเชื่อคำพูดของเขา
อีกอย่างฉูเจ๋อหยางก็.....
ทำตัวคลุมเครือกับเธอจริงๆนั่นแหละ
เมื่อลองย้อนกลับไปคิดถึงคำพูดของเขาที่จู่ๆก็ขอเธอแต่งงานโดยไม่ทราบสาเหตุ ตอนนั้นเธอรู้สึกว่ามันกะทันหันเกินไป พอตอนนี้ลองมาคิดดูอีกครั้ง หรือนี่จะเป็นวางแผนที่เขาวางเอาไว้ล่วงหน้าจริงๆ?
ลำคอแห้งผาก หัวใจปวดหน่วง
เป็นความเจ็บปวดราวกับมีไฟแผดเผา แต่ร่างกายกลับรู้สึกหนาวเหน็บราวกับยืนอยู่ท่ามกลางน้ำแข็ง เธอไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี
สุดท้าย เป้ยฉ่ายเวยก็ได้ยินเสียงที่ดูโลเลของตัวเองดังขึ้นมา “ฉูเจ๋อหยาง เขาเป็นใครกันแน่”
เสิ่นลั่งพ่นคำพูดออกมาเบาๆแค่หนึ่งคำ
คำที่ทำให้นัยน์ตาของเป้ยฉ่ายเวยต้องสั่นไหว
นั่นมันหนึ่งในคนเก่าคนแก่ที่ยังคงมีชีวิตอยู่หลังจากการเปิดประเทศแล้ว ทั้งมีชื่อเสียงเกียรติยศ ทั้งสูงศักดิ์ และตระกูลก็ยังเป็นหนึ่งในตระกูลแถวหน้าของประเทศอีกด้วย
“ฉูเจ๋อหยางคือหลานแท้ๆของท่านฉูยังไงล่ะ” เสิ่นลั่งยืดตัวตรง “ที่เขามาเมืองจิ่นอัน ดูเหมือนจะมาเป็นแค่ทนายต๊อกต๋อยใช่ไหมล่ะ แต่ความเป็นจริงแล้วเขาพาลูกน้องมาด้วยเป็นโขยง เพื่อมาปฏิบัติหน้าที่แก่ประเทศชาติ เขาตั้งใจแน่วแน่แล้วว่าจะไม่รักใครไปตลอดทั้งชีวิต จึงรู้จักใช้ประโยชน์จากทุกอย่าง ถึงจะน่าดูแคลนไปหน่อยที่เขาใช้ประโยชน์จากความรู้สึกของผู้หญิงและเด็กคนหนึ่ง แต่ว่ามันก็เป็นหนึ่งในภารกิจของคนกลุ่มนั้นน่ะนะ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย พวกเขาไม่เสียดายอะไรทั้งนั้นล่ะ!”
ประโยคสุดท้าย เขาพูดพร้อมกับตบบ่าของเธอหนักๆ
คำพูดของเสิ่นลั่ง ทำให้ความคิดที่เคยสังสัยว่าฉูเจ๋อหยางจะเคยลำบากหรือเปล่าพัดกระจายหายไปหมด
คำพูดของเขาทำให้เธอเริ่มเชื่อไปแปดสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลงรักทนายคนเลว
ตอนที่ 291-460 หายไปไหน...