หลงรักทนายคนเลว นิยาย บท 480

บทที่ 480 ยังมีหลักฐาน

เมื่อได้รับสายโทรศัพท์จากเสิ่นลั่ง เจ๋อหยางก็ยกยิ้มขึ้นราวกับได้ยกภูเขาออกจากอก

ได้ผลจริงๆด้วย!

“นายใหญ่ แล้วตอนนี้ต้องไปบริษัทหัวเทียนไหม?” เจี่ยงเสี่ยวเล่อคลายเน็กไทออก แล้วเอ่ยถามขึ้น

ฉูเจ๋อหยางส่ายหน้า “พาฉันไปหาลิ่วเอ่อร์ก่อน”

เจี่ยงเสี่ยวเล่อชะงัก

จากนั้นก็รีบสั่งให้คนไปเตรียมรถเอาไว้

ลิ่วเอ่อร์ถูกกักขังในครั้งนี้ ไม่ได้รับการผ่อนปรนเหมือนครั้งก่อนๆ ครั้งนี้ไม่เพียงแต่ถูกคนของฉูเจ๋อหยางจับได้เองกับมือ ทั้งยังไม่ได้ถูกขังอยู่ในห้องขังธรรมดาทั่วไปด้วย

วินาทีที่เห็นหน้าฉูเจ๋อหยาง ท่าทางเซื่องซึมของลิ่วเออร์ ก็พลันแปรเปลี่ยนเป็นดุร้ายขึ้นมา

จากนั้นก็หัวเราะร้ายๆออกมา “ฉูเจ๋อหยาง ในที่สุดแกนึกถึงฉันสักทีนะ ที่นี่ไม่เลวเลย ดีกว่าที่ฉันเคยอยู่มากเลยล่ะ คงต้องขอบคุณแกมากๆ!”

ฉูเจ๋อหยางเอนกายไปด้านหลัง “ของอยู่ไหน!”

“ของงั้นหรอ! เหอะ ตอนนี้ฉันก็แค่คนติดคุก ของทุกอย่างที่มีอยู่ก็เป็นของที่พวกแกนำมาให้ทั้งนั้น แล้วมาถามหาของอะไรกับฉันอีก?” ลิ่วเออร์เสียงดัง ทำเป็นไม่เข้าใจที่เขาพูด

ฉูเจ๋อหยางหรี่ตามอง “ฉันไว้ชีวิตแกมาจนถึงตอนนี้ ไม่ใช่เพื่อมาฟังแกพูดไร้สาระ ถ้าคิดได้ก็รีบเอาของมาให้ฉันเดี๋ยวนี้ ฉันไม่ได้มีเวลาว่างมาเสียเวลากับแก!”

ลิ่วเอ่อร์มองเขานิ่งๆ นานพอสมควร ถึงได้พูดกลั้วยิ้มออกมา “ฉันตัวคนเดียว ไม่มีเรื่องอะไรให้ต้องเป็นกังวล ถ้าหากฉันไม่ให้มันกับแก แล้วแกจะทำอะไรได้? ฉูเจ๋อหยาง แกมั่นใจขนาดนั้นเลยหรอว่าฉันจะยอมร่วมมือกับแก?”

ฉูเจ๋อหยางยืดตัวตรง “ดูเหมือนเราคงไม่จำเป็นต้องพูดอะไรให้มากความแล้ว!”

ลิ่วเอ่อร์ยังคงนิ่ง แต่ทว่าระหว่างคิ้วและดวงตากลับฉายแววความไม่เข้าใจในสิ่งที่ฉูเจ๋อหยางพูด

เขายอมง่ายๆอย่างนี้เลยหรอ?

ไม่ ไม่มีทางเป็นไปได้!

“อ่อ ใช่สิ แกคงลืมไปว่าแกยังมีญาติอยู่ที่เมืองก่างเฉิงสินะ?” ตอนที่ฉูเจ๋อหยางใช้มือที่ไขว้หลังเอาไว้เปิดประตูเพื่อจะออกไป จู่ๆก็พูดทิ้งท้ายออกมาเบาๆ

ลิ่วเอ่อร์หน้าเปลี่ยนสี “เดี๋ยวก่อน!”

ผ่านไปสิบนาที ฉูเจ๋อหยางก็กลับออกมาจากสถานีตตำรวจด้วยรอยยิ้มมุมปาก

และด้านหลัง ก็มีรถสีดำคันหนึ่งขับตามมาตลอดทางอย่างเงียบๆ

เจี่ยงเสี่ยวเล่อมองไปทางด้านหลัง “นายใหญ่ รถคันหลังขับตามเรามาสักพักใหญ่แล้ว นายคิดว่าเป็นใคร?”

“หนานเทียนหยางไง!” ฉูเจ๋อหยางที่กำลังหลับตาทำสมาธิอยู่ พูดขึ้นเรียบๆ

เจี่ยงเสี่ยวเล่อหัวเราะฮิๆ “จมูกไวแฮะ คงรู้ว่าตัวเองใกล้จะจบเห่แล้วล่ะสิ”

“เดี๋ยวอีกสักพักนายไปเอาของที่นั่นนะ หลังจากได้ของมาแล้วก็ส่งมอบเลยทันที อย่าปล่อยให้เขาได้มีโอกาสหายใจหายคอ” ฉูเจ๋อหยางเอ่ยพูดอย่างแน่วแน่

เจี่ยงเสี่ยวเล่อพยักหน้า ด้วยสีหน้าจริงจัง

ต่อมา รถก็ขับมาถึงคฤหาสน์ เจี่ยงเสี่ยวเล่อปลีกตัวเข้าทางประตูลับด้านหลัง

จากนั้นวันทั้งวัน เจี่ยงเสี่ยวเล่อก็ไม่ได้ออกมาเจอใครอีกเลย

ณ ตระกูลหนาน หลังจากที่หนานเทียนหยางทำแฟลชไดร์ฟอันนั้นหายไป เขาก็หัวเสียอย่างเห็นได้ชัด ส่งคนไปลองเชิงทางลิ่วเอ่อร์อยู่กี่ครั้ง ก็ถูกกันไว้ไม่ให้เข้าทุกครั้ง

ฉูเจ๋อหยางขังลิ่วเอ่อร์ไว้ในห้องที่เสมือนทำมาจากเหล็กที่แน่นหนา จนไม่สามารถแทรกแซงเข้าไปได้เลย

หนานเทียนหยางเดินไปเดินมา อย่างกระวนกระวายถึงขีดสุด

แต่ถึงอย่างนั้นพอมาตอนนี้ เธอคงประเมินความเลือดเย็นของเขาต่ำไป

“หรือว่าคุณบอกทางตำรวจให้ตามหาอย่างไม่เอิกเกริกงั้นหรอ? เพราะคุณกลัวว่าเรื่องนี้มันจะกระทบถึงชื่อเสียงของคุณใช่ไหม? เพราะงั้นต่อให้พวกเขาไม่ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ คุณก็ไม่แคร์ว่างั้น?” เหาเสว่ฉินทำหน้าเคลือบแคลง

หนานเทียนหยางจึงดุขึ้นเสียงเย็นว่า “ผมบอกให้คุณหุปปากไง คุณฟังไม่รู้เรื่องหรือไง? มาเสียงดังใส่ผมแว๊ดๆอยู่นี่ลูกมันจะกลับมาไหม? ในเมื่อผมบอกแล้วว่าจะพาลูกกลับมาเพราะงั้นผมก็จะพากลับมาให้ได้ อย่ามาแผดดังอยู่นี่ มันน่ารำคาญ”

พูดจบ หนานเทียนหยางเหยียดกายหยิบเอาเสื้อด้วยใบหน้านิ่งๆ จากนั้นก็ออกไปข้างนอกโดยไม่แม้แต่จะเหลือบมองเหาเสว่ฉินที่กำลังทำหน้าบูดหน้าบึ้ง

เหาเสว่ฉินกัดฟันอย่างโกรธๆ

ไม่เป็นไร ลูกของเธอเธอพยายามเองก็ได้!

เป้ยฉ่ายเวยถูกเสิ่นลั่งจับแยกให้อยู่คนละห้องกับหนานฉิงเพราะทั้งสองทะเลาะกัน

และแน่นอน ว่ายังเป็นที่อพาร์ทเม้นแห่งนี้ แต่ถ้าเปรียบเทียบพื้นที่ในการใช้ชีวิตล่ะก็ ก็แค่ไม่ได้ออกไปใช้ห้องโถงรับแขกก็เท่านั้น

ตอนนี้ทั้งสองคนจึงต่างคนต่างใช้ชีวิตอยู่ในห้องของตัวเอง

เป้ยฉ่ายเวยนำเอายาที่คนของเสิ่นลั่งเอามาให้มาทารอยแผลบริเวณใบหน้าและบนแขน จะบอกว่าในใจไม่กังวลอะไรเลยก็ไม่ใช่

ตอนนี้สิ่งเดียวที่พอจะมั่นใจก็คือ จุดประสงค์ที่เสิ่นลั่งจับเธอสองคนมาที่นี่ก็เพราะฉูเจ๋อหยาง

แต่นี่มันก็ผ่านมาหลายวันแล้ว เขายังไม่ได้ลงมือทำอะไรทั้งยังหาของอร่อยมาให้พวกเธอกินอยู่ตลอด นอกจากนี้ก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องอื่นๆเลย แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกกังวลยิ่งกว่าเดิม

ทันใดนั้น ก็มีเสียงดังขึ้นเบาๆอยู่ข้างนอก

นัยน์ตาของเป้ยฉ่ายเวยไหววูบ

ที่นี่เมื่อได้เวลากินข้าวจะมีคนมาส่งอาหารค่อนข้างจะเป็นเวลา นอกจากเวลานี้แล้วภายในห้องก็จะเงียบตลอด และนอกจากเสียงโหวกเหวกของหนานฉิงเวลาเมาเหล้าแล้ว ก็จะไม่มีเสียงเคลื่อนไหวใดๆเลย

หรือว่าจะเป็นคนที่มาช่วยพวกเธอ? หรือว่าจะเป็น.....เสิ่นลั่ง?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลงรักทนายคนเลว