บทที่ 483 ไม่รอด
ฉูเจ๋อหยางไม่ฟัง ดวงตาทั้งสองข้างยังจ้องเขม็งเข้าไปข้างใน เพราะเหมือนจะได้ยินเสียงร้องตะโกนดังออกมาจากในนั้น
และในที่สุด หน้าต่างก็แตกกระจายออก ตามเสียงแตกเพล้งที่ดังขึ้นมา
แต่ในขณะเดียวกัน ไฟที่ลุกลามอยู่ข้างนอกก็ขยายเข้าไปข้างใน เปลวไฟไหม้แรงจนแทบจะดูดกลืนทุกคนให้หายไปในพริบตา
“อา...อาเจ๋อ....ฉันว่าแล้วว่าคุณต้องมาช่วยฉัน.....ฉันว่าแล้ว!” หนานฉิงกระโจนใส่ร่างของฉูเจ๋อหยางด้วยดวงตาที่เอ่อล้นไปด้วยน้ำตา ความตื้นตันทำให้เธอร้องไห้ออกมาอย่างยินดี
ฉูเจ๋อหยางขมวดนคิ้วในทันที นัยน์ตาดำขลับกวาดมองทั่วทั้งห้อง และวินาทีที่ดวงตาสบเข้ากับดวงตาที่กำลังมองมาที่เขานิ่งๆของเป้ยฉ่ายเวย ใจเขาก็กระตุกวูบ
ในดวงตาคู่นั้นซ่อนความนัยเอาไว้มากมาย เพราะอยู่ท่ามกลางเปลวไฟที่เดี๋ยวสว่างเดี๋ยวมืดจึงทำให้เขามองสิ่งนั้นในดวงตาของเธอไม่ชัด แต่ทว่าความผิดหวังและสิ้นหวังในดวงตา กลับเข้มข้นจนเห็นได้อย่างชัดเจน
“รอก่อน!” น้ำเสียงกำกวมของฉูเจ๋อหยางเอ่ยทิ้งไว้เท่านี้ ก็อุ้มพาหนานฉิงออกไป
หัวใจของเป้ยฉ่ายเวยดิ่งวูบ มองไม่เห็นประกายใดๆในดวงตาอีกต่อไป มันดำมืดจนเหมือนเส้นขอบฟ้าในยามกลางคืน ไม่มีแม้แต่แสงสว่างจากดวงดาว
มันจริงอย่างที่เสิ่นลั่งพูด
รอก่อนงั้นหรอ?
คิดว่าเธอรอได้หรอ?
ในช่วงเวลาที่ทุกๆวินาทีต้องเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายอย่างนี้เนี่ยนะ?
เป้ยฉ่ายเวยยกมือขึ้นปิดปากแล้วไอออกมา เธอแทบจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่กำลังจะถูกพรากชีวิตไปได้อย่างชัดเจน
เมื่อสายตาทอดมองทะลุเปลวไฟเหล่านั้นออกไปมองเส้นขอบฟ้า ดวงตาของเป้ยฉ่ายเวยก็ทอแววสิ้นหวังขึ้นมาในทันที
ลุกขึ้นมาหยุดยืนบริเวณขอบหน้าต่าง เหล่ตามองฉูเจ๋อหยางอุ้มหนานฉิงเดินลัดเลาะไปตามกำแพง มุมปากก็ยกยิ้มเยาะออกมา
เธอคงแพ้แล้วจริงๆ!
ฉูเจ๋อหยางเหงื่อไหลท่วมหลัง ตอนที่บังเอิญเงยหน้าขึ้นไป แล้วเห็นว่าเป้ยฉ่ายเวยมายืนอยู่ท่ามกลางเปลวไฟ แววตาของเขาก็ดุดันหนาวเหน็บขึ้นมาทันที
ในใจรู้สึกไม่ดี จากนั้นก็ยื่นมือส่งหนานฉิงให้ใครอีกคน “รับไป....”
เฉียวเจิ้นหลีรับเอาหนานฉิงมาอย่างว่องไว
หนานฉิงเอ่ยพูดอย่างไม่พอใจว่า “อาเจ๋อ....แค่ก ฉันต้องการคุณ......”
ฉูเจ๋อหยางมุ่งไปยังชั้นบนอีกครั้ง โดยไม่แม้แต่จะหันมามองเธอ
เฉียวเจิ้นหลีตกใจจนหน้าไร้สี “อาเจ๋อ ไฟมันลามจนควบคุมไม่ได้แล้ว ถ้านายกลับเข้าไปอีกพวกนายไม่รอดแน่ นาย....”
“ไป!” ฉูเจ๋อหยางตอบเขากลับมาแค่คำเดียว
วินาทีที่มือแข็งแรงเต็มไปด้วยเส้นเลือดจับเชือกเอาไว้ และเมื่อเงยหน้าขึ้นไป เขาก็เห็นภาพที่ทำให้เขาตาเบิกกว้างจนแทบจะถลน
เป้ยฉ่ายเวยยกยิ้ม หลับตาลงจากนั้นก็กระโดดลงมาจากชั้นหก
“ไม่.....” เขาพึมพำอออกมา ทั้งเนื้อทั้งตัวสั่นสะท้าน
เฉียวเจิ้นหลีเองก็ตกใจจนหน้าซีด ไม่คาดคิดว่าผู้หญิงที่ดูบอบบางอย่างเป้ยฉ่ายเวย จะแข็งแกร่งมากถึงเพียงนี้
แต่ก็นะ สามารถปิดปังฉูเจ๋อหยางมาได้ตั้งสี่ปี ทั้งยังเลี้ยงลูกเองคนเดียวได้เป็นอย่างดีอีก คงเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งมากๆคนหนึ่งเลยสินะ ?
เฉียวเจิ้นหลีรีบตะโกน “อาเจ๋อ รีบลงมาเถอะ!”
ไม่ต้องให้เขาพูดมาก ฉูเจ๋อหยางก็โผลลงบนพื้นอย่างเร็วไว
ทักษะเอาตัวรอดของพวกเขาทั้งสองดีจนไม่มีอะไรให้ต้องสงสัย
จึงลงมาข้างล่างได้อย่างไม่เสียเวลานัก แต่ฉูเจ๋อหยางก็ยังคิดว่าตัวเองช้าเกินไป สิ่งแรกเมื่อลงมาข้างล่างก็คือวิ่งไปยังจุดที่เป้ยฉ่ายเวยกระโดดลงมา
เป้ยฉ่ายเวยนอนราบอยู่บนถุงลมนิรภัย ใบหน้างดงามสงบนิ่ง ดวงตาปิดสนิทราวกับคนไม่มีลมหายใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลงรักทนายคนเลว
ตอนที่ 291-460 หายไปไหน...