หลงรักทนายคนเลว นิยาย บท 59

ตอนที่ 59 ร้อนอบ

ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะวันนี้แดดร้อนมากหรือเปล่า เป้ยฉ่ายเวยยืนอยู่ข้างนอกไม่กี่นาที ก็รู้สึกเหมือนเวียนหัวมาก แม้กระทั่งค่ะเพราะรู้สึกอ่อนแรง

ยิ่งเดินไปข้างหน้า สีหน้าก็ยิ่งซีด เหงื่อบนหน้าผากก็ไหลลงมาเป็นเม็ดใหญ่ ตรงหน้ามืดมัวไปหมด

ทำไงดีเธอปวดหัวมาก

ทันใดนั้นร่างกายเป้ยฉ่ายเวยอ่อน ล้มลงไปบนพื้น แล้วเหมือนได้ยินเสี่ยวซงร้องขอความช่วยเหลือกับคนอื่น

“ผู้จัดการ ผู้จัดการเป็นไร”

“ รีบเรียกรถพยาบาลเร็ว ผู้จัดการเหมือนจะเป็นลม“

“ให้ตายสิ สีหน้าผู้จัดการซีดมาก“

เป้ยฉ่ายเวยฟื้นตัวขึ้นมาในโรงบาล แต่การที่เธอสลบไปทำให้คนอื่นตกใจกันมาก

อีกอย่างฉูเจ๋อหยางกับหนานฉิงที่เพิ่งกินข้าวมา เธออยากจะถอนหายใจให้กับโลกที่เต็มไปด้วยน้ำเน่า ปล่อยเธอไปได้มั้ย

“หมอค่ะ เป็นไงบ้าง ทำไมเพื่อนหนูยังไม่ฟื้น” หนานฉิงถามอยู่ตรงข้างๆ

หมออธิบายอยู่ข้างๆ “ น่าจะฟื้นแล้ว อาจจะเป็นเพราะร่างกายเธอค่อนข้างอ่อนแอ ยังหนุ่มยังสาวอยากหักโหมมากเกินไป ร่างกายมันต้องทนชีวิตต่างหาก“

“ ผู้จัดการทำงานหนักมากเกินไป ช่วงนี้เป็นเทศกาลที่ขายของได้ดี แกกลับคนสุดท้ายตลอด“

“ ฉะนั้นร้านเราเลยเป็นร้านแยกสาขาที่ยอดขายดีที่สุด”

ฉูเจ๋อหยางบิดปากเล็กน้อยพร้อมกับมองผู้หญิงหน้าซีดขาวไม่มีเลือดคนนี้ที่เตียง ขนตาสั่นสะเทือนเล็กน้อยเพื่อเป็นการแสดงว่าเธอฟื้นตัวมาแล้ว

รู้ทั้งรู้ว่าร่างกายอ่อนแอ แต่ก็ยังแกล้งทำเป็นเหมือนผู้หญิงแข็งแกร่ง

ทันใดนั้นประตูห้องผู้ป่วยก็ถูกเปิดขึ้นใหม่ครั้ง ลมพัดผ่านเข้ามามีผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งเข้ามา หน้าซีดทันทีที่เห็นเป้ยฉ่ายเวยที่นอนอยู่บนเตียง แล้วแต่ก่อนตอนหน้าผู้คน “ หุบปากให้หมดเดี๋ยวนี้ ไม่เห็นเหรอว่าเวยเวยต้องการพักผ่อน

ผู้คนเห็นสายตาพิฆาตของผู้หญิงคนนี้กำลังมองพวกเขา ในใจอดหวัดกลัวไม่อยู่ บนหน้ามีความรู้สึกที่บอกไม่ถูก

ผู้จัดการต้องพักผ่อนจริงๆ พวกเขาเหมือนจะเสียงดังไปหน่อยจริงๆ

“เอองั้น ผู้ฉันขอกลับไปก่อน หากว่าผู้จัดการฟื้นแล้ว รบกวนบอกผู้จัดการหน่อยว่าเรื่องในร้านแกไม่จำเป็นต้องเป็นห่วง พวกฉันกลับไปก่อน” เสี่ยวซงจับมือพวกเขาเดินออกไปประตู

เจอผู้หญิงที่น่ากลัวคนนี้ คนอื่นก็เริ่มทยอยกลับไป

หนานฉิงอึ้งมากเมื่อเจอคนข้างหน้าที่กำลังเดินมา “ซือซือ แกกลับมาได้ไง”

อวี๋ซือซือมองหน้าหนานฉงกับฉูเจ๋อหยาง ตอบกลับไปอย่างไม่รีบร้อนว่า “เพิ่งกลับมา ไม่นาน”

แต่ในใจค่อยค่อยชูนิ้วกลางขึ้นมา แล้วต่อด้วยชาติหมา!!

เป้ยฉ่ายเวยได้ยินเสียงครามร้องเหมือนสิงโตก็รู้เลยว่าซือซือมา แต่ก็ไม่รู้ว่าใครบอกเธอ รู้ว่านิสัยซือซือไม่ดี กลัวจะเกิดอะไรขึ้น เลยต้องแกล้งทำเป็นค่อยๆฟื้นขึ้นมา “ฉันอยู่ที่นี่ได้ไง?”

“ ฟื้นแล้วหรอ ดูแล้วก็คงไม่ตายแล้วสินะ” อวี๋ซือซือจ้องหน้าเป้ยฉ่ายเวยอย่างไม่พอใจ เมื่อวานยังเฮฮากระโดดไปกระโดดมา วันนี้ก็อยู่โรงบาลซะแล้ว อีกสักกสองสามวันเธอก็คงต้องซื้อดอกไม้แล้วสินะ

ถุ๊ยๆๆ พูดไปมั่ว......

“ซือซือ แกพูดงี้ได้ไง เวยเวยเป็นเพราะเหนื่อยเกินไป ก็เลยสลบไป“ หนานฉิงเดินขึ้นมาหนึ่งก้าว และพูดอย่างไม่เห็นด้วย

หลังจากที่รู้ว่าอวี๋ซือซือเป็นของเวยเวย เธอก็ไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ จากสถานะของเธอแล้วแม้ว่าเธอจะเดินไปที่ไหนเธอก็เป็นจะประกาย

ไม่ว่าอยู่ที่ไหน เมื่อพบเจอผู้หญิงที่ชื่ออวี๋ซือซือ ตัวเธอเองก็จะกลายเป็นตัวประกอบ มันทำให้เธอโคตรไม่โอเค แต่สถานะบ้านของทั้งสองคนก็แทบจะเหมือนกัน เธอจะแสดงอาการชัดเจนเกินไปไม่ได้

“ เธอมันสมควรแล้ว หาที่ตาย” อวี๋ซือซือพูดไม่เกรงใจ เธอไม่มีเวลามายกย่องใคร ผู้หญิงดูผู้หญิง ดูสิบคนแม่นเก้าคน เป็นกะหรี่แท้ๆ แต่ยังดันทำตัวเหมือนดอกบัวขาวสะอาด

ทำให้คนมองเราหงุดหงิดจริงๆ ไม่เข้าใจว่าเวยเวย รู้จักคนประเภทนี้ได้ไง แถมยังนับเป็นเพื่อนดีกันอีก แต่ก็แน่นอนเธอไม่ยุ่งขอให้ผู้หญิงคนนี้รู้ที่รู้ทาง อย่ามาหาเรื่องเธอ

หนานฉิงทำหน้าตาเหมือนมาพอใจแทนเวยเวย พูดอย่างโกรธว่า “ ทำไมเธอเป็นคนแบบนี้เนี่ย......”

เป้ยฉ่ายเวยเห็นอวี๋ซือซือกำลังจะด่ากลับ เลยรีบพูดขึ้นมาว่า “หนานฉิง ซือซือ ฉันไม่เป็นไร ฉันแค่เป็นลมเฉยๆ พักผ่อนซักแป๊บหนึ่งก็ดีแล้ว“

หนานฉิงเห็นเป้ยฉ่ายเวยปกป้องอวี๋ซือซือ ก็บิดปาก แล้วทำเหมือนน่าสงสารมองไปที่ฉูเจ๋อหยาง “อาเจ๋อฉันน่ารำคาญมากเลยหรอ”

อวี๋ซือซือเหลือบตา ทำไมมันมีผู้หญิงที่น่าตบขนาดนี้ ใครบอกเธอน่ารำคาญ จะให้คนอื่นเห็นว่ามีตัวตนก็ว่างี้ปะวะ

เธอมองฉูเจ๋อหยางอย่างคิดไม่ดี ดูซิว่าผู้ชายคนนี้จะทำยังไง ผู้หญิงที่น่าตบขนาดนี้ สายตาก็ไม่ดีอะไรว่ะ

ฉูเจ๋อหยางได้รับสายตาดูถูกจากอวี๋ซือซือ ลูกตาที่ดำเงาก็เงียบไปสักพัก แล้วพูดขึ้นมาว่า “บ่ายนี้ผมมีงาน เธอจะกลับก่อนหรือว่าจะอยู่ที่นี่“

อวี๋ซือซือหัวเราะออกเสียงเหมือนยั่วยุ “ อะไรกัน คุณทนายความฉูนี่ยุ่งจริง กลับดีๆนะ ไม่ส่ง วันหลังค่อยคุยกันใหม่“

สีหน้าหนานฉิงแย่มาก ที่อวี๋ซือซือกำลังหัวเราะเยาะว่าเธอกำลังสำออย เมื่อตอนกินข้าวอาเจ๋อก็ได้บอกว่าบ่ายนี้มีงานต้องยุ่ง เลยไม่รั้งไว้ แต่ว่าให้เธออยู่กับอวี๋ซือซือ เธอคงอยู่ไม่ได้

“อาเจ๋อ รอฉันสักครู่ ฉันไปกับนาย”

หันหน้ามาแล้วบอกกับเป้ยฉ่ายเวย “เวยเวย ขอโทษ ฉันมีเรื่องต้องไปจัดการ ค่ำหน่อยค่อยมาเยี่ยมใหม่นะ”

“ไม่เป็นไร หนานฉิงแกไปธุระก่อนเลย” เป้ยฉ่ายเวยตอบอย่างไม่สนใจ สายตาเฉียงข้าง หลบสายตาที่เย็นคู่นั้น

“อืม งั้นแกพักผ่อนดีๆ” หนานฉิงพูดไปเงยหน้าไปหาอวี๋ซือซือด้วย จากนั้นก็เดินออกไปกับฉูเจ๋อหยาง

พอทั้งสองเดินจากไป อวี๋ซือซือโมโหแล้วพูด “เวยเวยแกดู แกดูสิ นี่คือเพื่อนแกผู้ชายห่วยแตกที่แกชอบ”

ถ้าไม่ใช่ว่าเวยเวยอยู่ด้วย เธอคงลงมือจัดการผู้หญิงเสียงดังนั้นล่ะ

“อวี๋ซือซือตั้งสติ ตั้งสติ ผู้หญิงโมโหจะแก่ง่ายนะ” เป้ยฉ่ายเวยผิงอยู่บนหัวเตียง หยอกล้อ

“ชิ ผู้หญิงสาวสวยอย่างฉัน จะแก่ได้ไง” อวี๋ซือซือตอบอย่างไม่ยอม

“จาๆ แกสวยที่สุด สวยที่สุดได้ยัง”

อวี๋ซือซือเห็นว่าเป้ยฉ่ายเวยเหมือนง้อเด็ก พูดขึ้นมาว่า ดูแล้วเหมือนกบที่สวย แต่ว่าเธอมองหน้าเป้ยฉ่ายเวยไม่กี่ครั้ง สายตาก็เกิดดุขึ้นมา

“เป้ยฉ่ายเวย แกทำอะไรมา แผลบนหน้ามาจากไหน” อวี๋ซือซือตะโกน

เป้ยฉ่ายเวยตอบอย่างรู้สึกผิด “ซือซืออย่าเสียงดังดิ มีไรค่อยๆคุยกัน นี่โรงบาล”

เธอคิดว่าปิดบังหนานฉิงได้ กับซือซือก็ได้แน่นอน ถึงในใจจะคิดงี้ แต่ก็รู้สึกอบอุ่นมาก

อวี๋ซือซือชี้หน้าเธออย่างโมโห “ยัยโง่ โดนตบ ยังจะหัวเราะได้”

“ซือซือ ฉันรู้แกเป็นห่วงฉัน แต่ว่าฉันไม่เป็นไรแล้ว” เป้ยฉ่ายเวยยิ้ม

อวี๋ซือซือทำตัวไม่ถูกกับรอยยิ้มที่เป้ยฉ่ายเวยให้ แก้มแดงนิดๆ แต่ยังแกล้งเหมือนไม่รู้สึก “เป็นห่วงไร แกเป็นคนของฉัน ใครตาบอดกล้าลงมือกับแก ฉันไปจะฆ่ามัน”

“ซือซือ ซือซือดีกับฉันที่สุดเลย” เป้ยฉ่ายเวยจับมืออวี๋ซือซือ ยิ้มแล้วพูด

อัพเดทครั้งหน้า:3 ธ.ค. 2019

จะมาในเร็วๆนี้ โปรดอดใจรอก่อนนะจ๊ะ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลงรักทนายคนเลว