หลงรักทนายคนเลว นิยาย บท 61

บทที่61 จีสตริงสองสามตัว

หลังจากทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางสายตาขี้นินทาของซือซือ เป้ยฉ่ายเวยโทรหาหลี่จื่อเชียนเพื่อบอกว่าตอนเย็นเขาไม่ต้องมารับ เพราะมีเพื่อนมาหาเธอ

พอดีกับที่หลี่จื่อเชียนมีอะไรที่ต้องจัดการอยู่ทางนั้นพอดี เขาจึงพูดไปกี่ประโยค ทั้งคู่วางสายจากกัน

“เวยเวย ผู้ชายคนนั้นคือคนที่ขอเธอแต่งงานไม่ใช่หรอ เสียงเขาอ่อนโยนมาก” ซือซือโน้มตัวไปข้างหน้าอย่างกับหัวขโมย

เป้ยฉ่ายเวยยื่นนิ้วออกและผลักหัวเธอกลับไปอย่างไม่เกรงใจ “ขี้เม้าส์จริง ทำไมเธอไม่ไปเป็นปาปารัซซี่ซะเลยละ ไม่ต้องไปบาร์เหล้าแล้วล่ะมั๊ง”

“ ฉันเป็นปาปารัซซี่ขี้เม้าส์ คงดูหยาบคายเกินไป ไม่เหมาะกับตัวตนของฉันหรอก”ซือซือพลางยิ้มพลางสตาร์ทรถ“ไปเปลี่ยนเสื้อที่บ้านฉันก่อน”

“รู้แล้ว”

เป้ยฉ่ายเวยไม่รู้ว่าทำไมซือซือถึงได้สนุกกับการไปไนต์คลับนัก ไม่มีบาร์ไหนที่หล่อนยังไม่เคยไปเหยียบ หลายปีมานี้เรียกได้ว่าซือซือเป็นราชินีแห่งไนต์คลับในเมืองจิ่นอัน

บ้านที่ซือซือเช่าอยู่ ไม่ว่าจะทำเลที่ตั้ง สภาพแวดล้อม มูลค่าก็แพงทั้งนั้น

แต่ว่าเธอไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน ดังนั้นเรื่องนี้ก็เลยไม่ได้สำคัญกับเธอนัก

“ซือซือ เธอแน่ใจหรอว่าจะให้ฉันใส่ชุดนี้” เป้ยฉ่ายเวยมองดูที่กระจกขณะที่เธอสวมใส่ชุดวับๆแวมๆ หน้าอกขนาดใหญ่แทบจะทะลักออกมา กระโปรงปิดแค่โคนต้นขา

เสื้อผ้าอย่างนี้ใส่ออกไปไหนได้จริงๆหรือ

“รู้สึกจะยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะ ฉันหาให้เธอใหม่ก่อน” ซือซือลองคิดดูแล้วรู้สึกว่ามันไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ แม้ว่าชุดนี้จะเร่าร้อนมาก แต่ว่าชายชราที่บ้านนั่น ดูเหมือนจะไม่ชอบผู้หญิงแบบนี้

“ถ้าเธอไม่มีเสื้อผ้าปกติล่ะก็ ฉันจะได้กลับไปเปลี่ยนที่บ้าน” เป้ยฉ่ายเวยกัดฟันเน้นคำว่า “ปกติ”

“ไม่มีปัญหา ไว้ใจฉันได้”

ซือซือจัดระเบียบข้าวของค่อนข้างดี เธอเดินเข้าไปในตู้เสื้อผ้าของตัวเอง จับโน่นเลือกนี่และวิจารณ์สารพัด

“โอ๊ย ตัวนี้บ้านนอกมาก”

“ตัวนี้ไม่ได้ แก่เกินไป”

“ตู้เสื้อผ้าฉันมีแต่เสื้อผ้าน่าเกลียดแบบนี้ได้อย่างไร”

ในที่สุดเธอก็ปีนออกมาจากตู้เสื้อผ้า และยื่นชุดนี้ให้ตรงหน้าเป้ยฉ่ายเวยและพูดอย่างภาคภูมิใจ “ตัวนี้ฉันขอนำเสนอ ชุดที่สามารถคว้าทุกรางวัลในปฐพี ทั้งยังมีสไตล์ไม่ล้าสมัย เธอลองเอาไปใส่ดู”

เป้ยฉ่ายเวยกำกำปั้นขึ้นเล็กน้อย เธอบอกตัวเองให้สงบสติอารมณ์ลง ผู้หญิงที่อยู่ข้างๆเป็นเพื่อนที่โตด้วยกันมาตั้งแต่เล็ก อย่าหุนหันพลันแล่น ไม่ต้องถึงขั้นลงไม้ลงมือหรอก

“ไหนเธอบอกฉันซิ ชุดนี้มันใส่ยังไง” เป้ยฉ่ายเวยหยิบชิ้นผ้าบางๆของชุดนั้นขึ้นมา ไม่สิ ควรจะเรียกว่า “เศษผ้า” มากกว่า เธอกัดฟันถาม

“ก็ใส่แบบนี้ไง เธอจะยิ่งดูน่ารัก มันเหมาะกับเธอมาก ถ้าไม่ใช่เธอฉันจะไม่เอามันออกมาหรอกนะ อย่ายอมแพ้ล่ะ ฉันเพิ่งใส่ไปไม่กี่ครั้งเองนะ”

ซือซือพูดอย่างไม่เกรงใจ เธอไม่ได้ดูเลยว่าเป้ยฉ่ายเวยแทบจะระเบิดใส่เธออยู่แล้ว

“ซือซือ ชุดนี้มีหาง และก็ยังมีหูกระต่ายมุ๊งมิ้งอีกด้วย เธอตั้งใจจะให้ฉันใส่มันจริงๆหรอ” โดยปกติแล้วเป้ยฉ่ายเวยเป็นผู้หญิงที่เรียบร้อยว่านอนสอนง่าย

แต่เมื่อคบกับเพื่อนที่ไม่ค่อยจะปกติธรรมดา บางครั้งเธอก็สติแตก

“อย่าโมโหน่า มันไม่น่ารักหรือยังไง” ซือซือมองอย่างใสซื่อด้วยดวงตาจิกผู้คนของชาวตันเฟิ่ง

เธอตั้งใจลำบากลำบนเพื่อชายแก่ที่บ้าน กระต่ายน้อยออกจะน่ารัก มันจะช่วยกระตุ้นความรู้สึก “เปลี่ยนแปลง” บางอย่างในใจ

เธอยืนกรานไม่ยอมรับว่าตัวเองต้องการที่จะหลบหนีจากการนัดบอด

“น่ารักเธอก็ใส่เองสิ ฉันไปล่ะ” เป้ยฉ่ายเวยเดินออกไปอย่างไม่สนใจไยดี

“เอาล่ะเอาล่ะ ฉันจะหาชุดที่มันธรรมดาหน่อยแล้วกัน ฉันสัญญา” ซือซือมองดูสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่ไว้ใจของเป้ยฉ่ายเวย และดัน “หน้าอกตู้ม” ของเธอตรงหน้าขึ้นมา

เป้ยฉ่ายเวยถอนหายใจและรับปาก “นี่เป็นโอกาสสุดท้ายแล้วนะ”

ซือซือพยักหน้า หล่อนหยิบกระโปรงตัวหนึ่งในตู้ยื่นให้เธอ “ตัวนี้เรียบร้อยมาก ฉันซื้อมายังไม่เคยใส่เลย ดูสิป้ายราคาก็ยังไม่ได้เอาออก ช่างเหมาะกับกุลสตรีอย่างเธอที่สุด”

เป้ยฉ่ายเวยมีรอยยิ้มที่มุมปาก การตระเตรียมเสื้อผ้าเป็นเวลานาน ก่อนหน้านี้หล่อนก็แค่ตั้งใจแกล้งหยอกเธอเล่นเท่านั้น จะบ้าหรอ ด้วยมิตรภาพที่พวกเธอมีด้วยกันมายาวนาน หล่อนจะไม่รู้ใจเธอได้อย่างไรกัน

ชุดกระโปรงตรงหน้าตัวนี้ดีงามไม่น้อย ป้ายราคาก็ยังอยู่ สีแชมเปญ เปิดไหล่ข้างหนึ่ง สายคล้องไหล่บางๆ ดูแล้วสุภาพเรียบร้อย

สำหรับซือซือ เธอว่าชุดนี้ค่อนข้างมิดชิดเกินไป

“น่าจะเอาแบบนี้มาตั้งแต่แรก” เป้ยฉ่ายเวยหยิบมาและเอาไปเปลี่ยนในห้องน้ำ

เธอไม่เห็นรอยยิ้มในแววตาของซือซือ

ว้าว เธอฉลาดเกินใครจริงๆ ถ้าหากว่าเอาชุดนี้ออกมาให้เป้ยฉ่ายเวยใส่ตั้งแต่แรก หล่อนคงไม่เต็มใจใส่แน่ แต่ถ้ามีชุดโป๊ะๆก่อนหน้าสักสองสามชุดมาเป็นตัวเปรียบเทียบแล้ว ชุดนี้ดู “มิดชิด” มาก

เป้ยฉ่ายเวยใส่ชุดเสร็จและออกมา เธอรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย “ซือซือ ทำไมฉันรู้สึกเย็นๆ”

“ขอร้องล่ะ ตอนนี้หน้าร้อน มันเย็นตรงไหนกัน” ซือซือกล่าวอย่างหน้าตาใสซื่อบริสุทธิ์

จริงหรอ ซือซือก้มลงมองกระโปรงที่ปกคลุมแค่ต้นขา มีสายรัดที่เอว เสื้อคอวี และยังมีวีเล็กๆอยู่ตรงกลางอกอีก ถึงจะไม่ได้โป๊ะมาก แต่ถ้าก้มตัวก็มองเห็นร่องอก

“ไม่มีตัวอื่นแล้วรึ”

“ไม่มีแล้ว ตัวนี้ธรรมดาที่สุดแล้ว ไม่อย่างนั้นเอาสองตัวแรกไปลองดูไหมล่ะ” ซือซือแบะมือออก

เป้ยฉ่ายเวยกัดฟันกรอด “โอเค งั้นก็ชุดนี้แหละ”

ไม่ได้โป๊ะมาก ยังพอรับได้

“ถ้าอย่างนั้นพวกเราเตรียมออกไปกันได้แล้ว”

ซือซือเป็นคนใจกล้ามากในเรื่องการแต่งตัว ผมหล่อนสีแดงเป็นลอนสยายเข้ากับสีกางเกงยาวแนบเนื้อ เผยให้เห็นเรียวขาของเธอ เอว และสะโพก

เสื้อยืดสีขาวไหล่ข้างเดียวยาวแค่เอวเผยให้เห็นผิวขาวราวหิมะ ตำแหน่งผ้าตรงหน้าอกก็ถูกตัดออกไปให้เห็นเนินอกสีขาวเด่น ผู้ชายมองแล้วอาจจะเลือดกำเดาไหลได้

แต่หล่อนก็ไม่สนใจ

“ออกไปไหน” เป้ยฉ่ายเวยจ้องมองการแต่งตัวของซือซืออย่างเหลือเชื่อ ถ้าหากไม่ใช่การจากไปเมื่อแปดปีที่แล้วของหานฉีตง ซือซือก็คงไม่เปลี่ยนเป็นคนละคนเช่นนี้

“ไนท์ซิตี้คลับอย่างแน่นอน” ซือซือตอบอย่างมั่นใจ

ไนท์ซิตี้คลับเป็นเหมือนแดนมหาสนุก เป็นสรวงสวรรค์ของบรรดาหนุ่มๆ และเป็นเหมือนกับที่หาคู่ของสาวๆ บรรดาลูกคนรวยจากหลากตระกูลในเมืองจิ่นอันจะไปอยู่ที่ไหนได้ ที่นี่เงินเดินสะพัดมาก

ตราบใดที่มีเงิน ตราบใดที่ดูดี ตราบใดที่จ่ายไหว ร่ำรวยในข้ามคืนไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ และแน่นอนว่าก็อาจจะหมดตัวได้เช่นกัน

“เปลี่ยนเป็นที่อื่นไม่ได้หรือไง” เป้ยฉ่ายเวยขมวดคิ้ว

“ไปเถอะน่า ฉันอยู่ด้วยไม่มีเรื่องอะไรหรอก” ซือซือพกถุงน้ำหอมไปด้วย และผลักเป้ยฉ่ายเวยให้เดินออกไป

เป้ยฉ่ายเวยรู้ว่าพูดไปก็ไม่มีประโยชน์ เธอได้แต่เดินตามซือซือลงไปชั้นล่าง

ผ่านไปถึงสี่ทุ่มโดยไม่ทันรู้ตัว ความสนุกเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น

ซือซือโยนกุญแจรถสปอร์ตของตนเองให้กับเด็กรับรถ และตัวเองก็รีบพาเป้ยฉ่ายเวยเดินเข้าไปในไนท์ซิตี้คลับอย่างแคล่วคล่องว่องไว

เธอติดสินบนเพื่อซักถามได้ความว่าพี่ชายของพวกเธอกำลังคุยธุรกิจอยู่ที่นี่ ผู้ชายก็อย่างนี้ ไปไหนไม่รอด ไม่เรื่องเงินก็เรื่องผู้หญิง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลงรักทนายคนเลว