หลงรักทนายคนเลว นิยาย บท 68

บทที่68 ไปรับรุ่ยรุ่ย

เป้ยฉ่ายเวยยิ่งอยากรู้อยากเห็น เมื่อวานระหว่างซือซือและถังฉีตงเกิดเรื่องอะไรขึ้นถึงไม่สามารถอธิบายให้เธอฟังได้

“เอาภาพลามกในหัวของเธอออกไปซะ เมื่อวานฉันกับถังฉีตงทะเลาะกัน ฉันให้เขาไปไกลๆ” ซือซือเหลือบมองเธออย่างไม่สบอารมณ์ ถึงแม่ว่าผลลัพธ์คือเธอแพ้

แต่ว่าถังฉีตงก็ได้ของฝากไปไม่น้อย ทั้งรอยขีดข่วนรอยกัด หล่อนไม่คาดคิดว่าวันหนึ่งจะต้องจัดการกับเขาด้วยวิธีการที่ผู้หญิงใช้กัน

แต่ว่ามันได้ผลมาก เพียงแต่ว่าฟันของเธอตอนนี้โยกเล็กน้อย ร่างกายของผู้ชายคนนั้นทำด้วยหินหรือว่ายังไง เนื้อแข็งเป็นบ้า

“ครั้งนี้ถังฉีตงกลับมาทำไม” ไม่น่าจะกลับเพื่อสานสัมพันธ์กับซือซือหรอกมั๊ง

“เรื่องของเขา ฉันว่าเธอควรจะคิดถึงเรื่องตัวเองกับฉูเจ๋อหยางก็พอ จะว่ายังไงพวกเธอฟัดกันดุเดือดจนถึงเช้า”

“ดูรอยฟันตามตัวเธอสิ ไม่น่าเชื่อว่าฉูเจ๋อเหยาที่ดูนิ่งขรึมจะมีลูกเล่นมากขนาดนี้ ที่แท้เขาก็หื่นเหมือนกันนะ”

ซือซือพูดไปพลางส่ายหัวไป “นี่มันวันบ้าบออะไรกันเนี่ย บ้าบอจริง”

เป้ยฉ่ายเวยทั้งเขินทั้งอาย เธอรู้ตัวว่าคงจะเถียงเพื่อนไม่ได้ ได้แต่แก้เขินด้วยการทำไม่ได้ยิน

คิดดูแล้วก็รู้สึกว่าไม่ถูกต้อง เธอขุ่นเคืองใจอยู่บ้าง “ซือซือ ถ้าเธอไม่กล่อมให้ฉันดื่มเหล้า ฉันก็ไม่กลายเป็นแบบนี้หรอก”

ซือซือควรจะต้องรับผิดชอบ

ซือซือแกล้งทำโง่ “จะพูดอย่างนี้ก็ไม่ได้ ฉันพยายามจะลาดเธอกลับแล้ว แต่เธอก็ยังดึงดันจะอยู่กับฉูเจ๋อหยาง ฉันก็ไม่รู้จะทำอย่างไร จะว่าไป ฉูเจ๋อหยางคนนี้ก็ดูทุกข์ใจอยู่นะ”

“ซือซือตกลงเธอเป็นเพื่อนฉันรึเปล่าเนี่ย” เป้ยฉ่ายเวยรู้สึกเดือดดาล

“เอาล่ะเอาล่ะ ฉันไม่พูดอะไรแล้วดีกว่า” ซือซือพูดขึ้น ใบหน้าเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์

เป้ยฉ่ายเวยได้แต่เบนหน้าหนี

เรื่องของเธอและฉูเจ๋อหยางนั้นตัดไม่ขาดสับสนวุ่นวายมาก เมื่อคิดว่าทั้งคู่มาถึงจุดแตกหักแล้ว ก็ดันมาเกิดเรื่องนี้เข้าอีก

ยังไงเธอก็อธิบายอะไรไม่ได้ชัดเจน น่ากลัวว่าฉูเจ๋อหยางจะทึกทักเขาว่า เธอบังคับเขา…

ถ้าเป็นอย่างนั้นเธอไปกระโดดแม่น้ำซะดีกว่า

สี่สิบนาทีหลังจากนั้น ซือซือจอดรถเรียบร้อยแล้ว พวกเธอก็กลับไปที่บ้านเก่า

เมื่อเข้าไปในบ้านพวกเธอก็เห็นผู้ใหญ่คนเด็กคนกำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้ไม้กำลังเลือกผัก

“ยาย เด็กน้อย ฉันกลับมาแล้ว” ซือซือเดินเข้าไปและอุ้มเด็กขึ้นมาหอมสองสามฟอด เธอกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เจ้าขนมปังก้อนนิ่ม”

รุ่ยรุ่ยหน้าแดง และพูดขึ้นอย่างจริงจัง “คุณป้า ผู้ชายกับผู้หญิงหอมกันไม่ได้”

“โอ้ย ฉันชอบรุ่ยรุ่ยเจ้าผู้ใหญ่ตัวน้อยของบ้านเราจัง น่ารักมาก” ซือซืออดไม่ได้ที่จะลูบแก้มน้อยๆของรุ่ยรุ่ย

“ซือซือ เวยเวย พวกเธอกลับมากันแล้วรึ” ยายเห็นพวกเขากลับมาก็มีท่าทางมีความสุขมาก

“อื้อ ยายสุขภาพยังแข็งแรงเหมือนเดิมเลยนะ” ซือซือวางรุ่ยรุ่ยลงและกล่าวทักทาย

“ยาย นี่เดี๋ยวให้ฉันทำเถอะ ยายไปพักผ่อนข้างๆนะ” เป้ยฉ่ายเวยช่วยพยุงคุณยายไปนั่งที่อีกด้านหนึ่งของเก้าอี้ ตัวเองก็นั่งลงและเด็ดผัก

ยายยิ้มและไม่ปฏิเสธ หล่อนจ้องมองซือซือและเป้ยฉ่ายเวยนั่งอยู่ที่นั่นและพูดขึ้นด้วยความเมตตา “ฉันเห็นพวกแกมาตั้งแต่ยังเล็ก แป๊บเดียวก็โตกันหมดแล้ว ฉันแก่แล้ว แก่แล้วล่ะ”

“ยายไม่แก่เลยสักนิด ยังดูสาวมาก” ก่อนนี้ซือซือมาช่วยเหลือที่บ้านบ่อย การหยิบจับงานเล็กน้อยจึงเป็นเรื่องที่สบายมาก

“อายุมากแล้ว จะไม่ให้แก่ได้ยังไง ยายอยู่มาได้ถึงปูนนี้ก็นับว่ามากพอแล้ว พวกเธอกลับมาเยี่ยมหายายบ่อยๆ ยายก็ยิ่งมีความสุขมาก”

“ยายอยู่ถึงร้อยปีแน่นอน” รุ่ยรุ่ยพูดขึ้นอย่างจริงจัง

“รุ่ยรุ่นเด็กดี” ยายพูดไปหัวเราะไป “เวยเวย คราวนี้ทำไมถึงกลับมาปุบปับล่ะ”

เป้ยฉ่ายเวยมองรุ่ยรุ่ยที่ด้านข้างด้วยสายตาอันอบอุ่น “ยาย ฉันกลับมาคราวนี้กะจะมารับรุ่ยรุ่ยกลับไป”

รุ่ยรุ่ยได้ยินว่าเป้ยฉ่ายเวยจะมารับตัวเองกลับไป ดวงตาเขาก็เป็นประกายขึ้นมา “จริงหรอครับแม่”

“อื้อ” เป้ยฉ่ายเวยยิ้มขึ้น

“ดีจังเลย” รุ่ยรุ่ยพูดอย่างตื่นเต้น แม่ไม่ได้โกหกแม่มารับเขาจริงๆ

“ที่รัก เธอนอนกับฉัน แม่ไม่ได้อยู่กับเธอก็นะ” ซือซือพูดขัดขึ้น

เป้ยฉ่ายเวยมองหน้ารุ่ยรุ่ยทีละสเต็ป เธอลูบหัวเด็กน้อยและพูดว่า “รุ่ยรุ่ยแม่เธองานยุ่งมาก เลยฝากป้าให้ช่วยดูแลเธอ แม่จะมาหาเธอบ่อยๆ และยังอยู่ใกล้มากอีกด้วย จะไปหาตอนไหนก็ได้”

“อื้อ” รุ่ยรุ่ยยิ้มจนเห็นฟันขาว

รุ่ยรุ่ยยอมรับที่จะกลับไปอยู่กับเวยเวย คุณยายก็รู้สึกดีใจ แต่เธอก็ยังรู้สึกเป็นห่วง “เวยเวยรับรุ่ยรุ่ยกลับไปอยู่ด้วยจะไม่มีเรื่องอะไรใช่ไหม”

“ไม่เป็นไรหรอกยาย ยังมีหนูของช่วย” ซือซือเก็บจานและบิดเอวพูดขึ้นอย่างเกียจคร้าน

“ใช่ค่ะยาย หนูเตรียมไว้หมดแล้ว ยายอายุมากแล้วอยู่คนเดียวหนูก็ไม่สบายใจ ยายไปอยู่กับพวกเราดีกว่านะคะ” เป้ยฉ่ายเวยยังมีความกังวลใจในเรื่องนี้

ปล่อยให้คุณยายอยู่คนเดียวที่บ้านเธอก็รู้สึกเป็นห่วง

ยายพูดขึ้นอย่างสบายใจ “เวยเวย ยายแก่แล้ว ไม่คุ้นเคยกับชีวิตของคนเมือง อยู่บ้านนอกตรงนี้มีอะไรไม่ดี อากาศก็ดี เพื่อนบ้านก็ดูแลกันได้”

เป้ยฉ่ายเวยรู้ว่าพูดมากไปก็ไร้ประโยชน์ เธอได้แต่ผงกหัวรับคำ “ยาย แล้วหนูจะพารุ่ยรุ่ยกลับมาเยี่ยมบ่อยๆนะคะ”

“ได้ ยายอยู่ที่นี่เธอไม่ต้องเป็นห่วงหรอก”

เป้ยฉ่ายเวยและซือซืออยู่ทานข้าวต่ออีกสักพัก พักผ่อนสักครู่ จากนั้นก็เก็บข้าวของของรุ่ยรุ่ย และบอกลายายพารุ่ยรุ่ยกลับไป

ระหว่างทางรุ่ยรุ่ยก็ซ่อนอาการตื่นเต้นเอาไว้ไม่อยู่ เขาถามไม่หยุด “แม่ครับ เลิกงานแล้วมาหาผมนะ”

“อื้อ” เป้ยฉ่ายเวยลูบหัวเขาและพยักหน้า

“แม่ครับ แล้วเราไปที่สวนน้ำได้ไหมครับ” รุ่ยรุ่ยถามอย่างมีความหวัง

“ไปสิ พรุ่งนี้เราพาเธอไปกัน” ซือซือตอบขึ้น

“คุณป้าใจดีจัง” รุ่ยรุ่ยไม่ลืมที่กล่าวยกย่องซือซือ

นั่นทำให้ซือซือมีความสุขมาก

เป้ยฉ่ายเวยนึกถึงปัญหาข้อหนึ่ง เธอไม่รู้ว่าควรถามดีหรือไม่

“มีข่าวลือบางอย่างที่ยังพูดได้ไม่เต็มปาก” ซือซือชำเลืองตามองเป้ยฉ่ายเวย

“ซือซือ ถ้าถังฉีตงไปหาเธอ ถ้าอย่างนั้นรุ่ยรุ่ย…” เป้ยฉ่ายเวยยังพูดไม่ทันจบ

ถ้าถังฉีตงไม่รู้จักฉูเจ๋อหยางก็คงดี ถ้าเขาเห็นรุ่ยรุ่ยก็จะได้หาเหตุผลอะไรมาหลอกได้ แต่นี่กลัวว่าถ้าถังฉีตงรู้เข้าเขาจะไปบอกฉูเจ๋อหยาง

ถ้าอย่างนั้นสิ่งที่พยายามทำมาทั้งหมดหลายปีก็จะเปล่าประโยชน์

ซือซือก็เข้าใจ หล่อนกรอกตาไปมาและพูดขึ้นอย่างเฉยเมย “เวยเวย เธอวางใจเถอะ ฉันไม่ให้โอกาสนี้แก่ถังฉีตง”

เพราะว่าเธอยังไม่เตรียมใจที่จะพบกับชายคนนี้อีก

เป้ยฉ่ายเวยเห็นสีหน้าหล่อนไม่มีความสุข เธอจึงไม่ได้พูดอะไรอีก ด้านหลังเธอเองก็ยังมีเรื่องที่เธอต้องคอยเก็บกวาดอยู่อีกมาก นับประสาอะไรจะไปยุ่งเรื่องของซือซือ

หลายๆเรื่องคนนอกก็ไม่สามารถเข้าไปวุ่นวายได้ ปากซือซือบอกว่าไม่สนใจถังฉีตง แต่ถ้าไม่แคร์จริงๆเธอจะโมโหเขาทำไม

หวังว่าถังฉีตงกลับมาคราวนี้จะสามารถพูดกับซือซือให้เคลียร์ได้ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถอยู่ด้วยกัน แต่เธอก็ไม่อยากให้ซือซือต้องทนทุกข์ใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลงรักทนายคนเลว