ตอนที่ 72 ฉันรับปากเธอ
“เวยเวย เธอมาช้ามาก ฉันรอเธอมาห้านาทีแล้วนะ” หนานฉิงบ่นเป็นหมีกินผึ้ง
เป้ยฉ่ายเวยอธิบาย “รถติดนิดหน่อยก็เลยช้า”
“ช่างเถอะช่างเถอะ เธอรีบนั่งลงเถอะฉันมีเรื่องจะเล่าให้ฟัง” หนานฉิงไม่ได้ต่อปากต่อคำอีก
เป้ยฉ่ายเวยลากเก้าอี้เพื่อที่จะนั่งลง “หนานฉิง เธอมีเรื่องอะไรทำไมอยู่ดีๆโผล่มาหาฉันปุบปับ”
พนักงานเสิร์ฟเดินมารับออเดอร์ เธอขอแค่น้ำร้อนหนึ่งแก้ว
หนานฉิงหมกมุ่นอยู่แต่กับความคิดของตัวเอง เธอใช้ช้อนคนกาแฟร้อนในแก้ว และกล่าวด้วยใบหน้าวิตกกังวล “เวยเวย เธอก็รู้ว่าอาเจ๋อจะหมั้นกับฉัน”
เป้ยฉ่ายเวยกระพริบตาถี่และพยักหน้า “อื้อ”
ก็เพราะว่ารู้ เธอถึงได้เมาเละเทะทำตัวเหมือนวัยรุ่นคึกคะนอง ไม่คิดว่าพอเมาแล้ว กลับไม่ระวังตัวไปนอนกับฉูเจ๋อหยางเอาได้
“แต่ว่าฉันยังรู้สึกไม่ยินดี และยิ่งไปกว่านั้นความไม่ยินดีนี้ยิ่งนานวันก็ยิ่งทำให้ไม่มีความสุข”
หนานฉิงถอนหายใจ เท้าคางและมองดูเธอ “วันนั้นหลังจากที่อาเจ๋อบอกจะหมั้นกันแล้ว ฉันก็รอเขาทั้งคืนก็ไม่มีข้อความอะไรต่อไปอีก”
“เธอไม่โทรไปถามเขาล่ะ” ความจริงเป้ยฉ่ายเวยไม่อยากได้ยินเรื่องของฉูเจ๋อหยางและหนานฉิง แต่ว่าหนานฉิงเป็นเพื่อนสนิทของเธอ เธอไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
“ฉันจะโทรได้ยังไง ฉันเป็นผู้หญิงนะ ฉันก็ต้องรักษาหน้าบ้าง” หนานฉิงพูดอย่างเศร้าๆ “เรื่องนี้ฉันคุยได้แค่กับเธอเท่านั้น มีแต่เธอเท่านั้นที่เข้าใจฉัน”
“หนานฉิง ฉูเจ๋อหยางก็บอกแล้วว่าจะหมั้นกับเธอ เขาคงจะไม่กลับคำหรอก” ทุกคำที่เป้ยฉ่ายเวยพูดออกไป มันทำให้เธอยิ่งเจ็บปวดใจ
บางครั้งเธอก็รู้สึกว่าเธออาจจะเป็นโรคจิตชอบทำร้ายตัวเอง น่าจะเป็นเอามากด้วย แต่ก็แสร้งทำเป็นว่าไม่เป็นอะไร
“ถ้าหากยังเป็นสมัยอยู่มหาวิทยาลัยฉันอาจจะรู้สึกมั่นใจในตัวเอง แต่ตอนนี้กลับไม่ได้มีอะไรรับประกัน เวยเวย ฉันกลัวจริงๆว่าอาเจ๋ออาจจะชอบคนอื่นอยู่”
ในฐานะที่เธอเป็นกุลสตรียังมีเรื่องที่เธอไม่สามารถพูดออกมาได้ “เพื่อน”ที่คอยประจบสอพลออยู่รอบตัวนั้นได้แต่ก้มหน้าก้มตาทำตัวเล็กตัวน้อย และมองเรื่องตลกของเธออย่างสมเพชและอยากรู้อยากเห็น
ดังนั้นทุกครั้งที่เธอมีเรื่องอะไรก็จะมาเล่าให้แต่เวยเวยฟัง
เป้ยฉ่ายเวยไม่รู้จะปลอบหนานฉิงอย่างไร เธอได้แต่นิ่งเงียบเท่านั้น
พนักงานเสิร์ฟเอาน้ำมาเสิร์ฟพอดี บทสนทนาของทั้งคู่จึงได้หยุดไป
รอให้คนเดินไปแล้ว หนานฉิงจึงพูดขึ้นอีกครั้ง “เวยเวยเธอไม่รู้อะไร วันนี้ฉันไปหาอาเจ๋อ มันเป็นครั้งแรกที่เขามาสาย”
“หรอ จริงหรอ” มือเธอที่จับแก้วอยู่นั้นกำแน่นโดยไม่ทันรู้ตัว
“เธอคงไม่รู้ว่างานสำคัญกับอาเจ๋อมากแค่ไหน และเขาก็ยังมีเอกสารสำคัญที่เขาต้องจัดการอีก เธอบอกสิว่าใครกันมีความสามารถทำให้เขาละเลยการงานได้”
ไม่ ไม่ถูก เธอรู้ว่าฉูเจ๋อหยางใส่ใจเรื่องของบริษัทมากแค่ไหน ในสายตาของเขานอกจากเรื่องงานแล้วก็ไม่มีเรื่องอะไรอื่นอีก รวมถึงความเจ็บป่วยของเธอหลายต่อหลายครั้งเมื่อสามปีก่อนอีกด้วย เขาไม่เคยรู้เลย
ดังนั้นเธอจึงไม่เชื่อว่าฉูเจ๋อหยางจะไปช้าเพราะเธอ จะต้องเป็นเพราะไปทำเรื่องอื่นแน่ๆถึงได้ทำให้ล่าช้าออกไป
เป้ยฉ่ายเวยจิบน้ำคำหนึ่ง ทำให้หายคอแห้งและพูดขึ้นว่า “ผู้ชายล้วนแต่ให้ความสำคัญกับหน้าที่การงานทั้งนั้น แน่นอนว่าอาจจะมีเลินเล่อไปบ้าง”
“เวยเวย ทำไมเธอถึงได้ช่วยแก้ตัวให้อาเจ๋อล่ะ ฉันเป็นเพื่อนสนิทเธอนะ” หนานฉิงพูดอย่างไม่สบอารมณ์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลงรักทนายคนเลว
ตอนที่ 291-460 หายไปไหน...