“คุณหนูสี่...ข้าตบไปยี่สิบครั้งแล้ว! ท่านจะกลับคำได้อย่างไร!”
“อย่ามาพูดไร้สาระ ข้าได้บอกว่าตบแล้วข้าจะดึงเจ้าขึ้นมาหรือ?”
น้ำเสียงเกียจคร้านของมู่หรงจื่อลอยเข้าหูของสาวใช้ และในที่สุดนางก็กระอักเลือดออกมา
น่ารังเกียจ!
นางช่างน่ารังเกียจยิ่ง!
นางช่างไร้ประโยชน์ ซ่อนตัวอยู่ใต้ผ้าคลุมหน้า นางเป็นคนขี้ขลาดรังแกผู้อ่อนแอและหวาดกลัวผู้แข็งแกร่ง นางเป็นผู้หญิงหน้าด้านและไร้ยางอาย!
นางเมินเฉยต่อสายตาโกรธแค้นที่อยู่ข้างหลังและเลิกคิ้วขึ้นอย่างอารมณ์ดี
จะมากล่าวโทษที่นางไร้หัวใจมิได้ ท้ายที่สุดผู้หญิงคนนี้ก็ไม่เคารพนาง
นางไม่ใช่คนขี้ขลาดที่สามารถถูกรังแกได้ สาวใช้ตัวน้อยของนางกล้าดีอย่างไรถึงได้หยิ่งผยองเพียงนี้? คงจะไม่สบายใจหาไม่สอนบทเรียนให้นางเสียบ้าง
แม้ว่านางจะเป็นเพียงคุณหนูสี่ แต่นางก็ไม่อาจละทิ้งความสง่าและไหลไปตามผู้อื่นได้
เมื่อมู่หรงจื่อมาถึง ห้องโถงก็แออัดไปด้วยผู้คนแล้ว
วันนี้ทุกคนจากตระกูลมู่หรงต่างมารวมตัวเพราะพิธีเบิกเส้นปราณอันยิ่งใหญ่ซึ่งจัดขึ้นโดยคุณหนูห้าของตระกูลมู่หรง มู่หรงชิงชิง
หลังจากสิบสี่ปีที่อาศัยอยู่ที่นี่ มู่หรงจื่อก็มีความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับโลกนี้
ผู้แข็งแกร่งได้รับการเคารพและผู้ใช้อาคมอันลึกลับเป็นที่กล่าวขวัญ
แต่ถ้าต้องการเป็นผู้ใช้วรยุทธ์ที่มีความสามารถลึกซึ้ง ไม่เพียงแต่ต้องบ่มเพาะความสามารถเท่านั้น ทว่าจะต้องเบิกเส้นลมปราณเมื่ออายุมากขึ้นอีกด้วย
หลังจากเส้นลมปราณถูกปลุกให้ตื่นขึ้นแล้วเท่านั้นจึงจะสามารถเริ่มฝึกฝนและกลายเป็นผู้มีวรยุทธ์ที่แท้จริงได้
ทันทีที่มู่หรงจื่ออายุได้ห้าขวบปี ภายใต้การร้องขอที่แข็งกร้าวของมู่หรงซิ่วอวิ๋น มู่หรงอ๋าวจึงยอมทดสอบความสามารถของนาง
ปรากฎว่านางเป็นคนไร้ค่าที่ไม่มีความสามารถในการฝึกฝน!
ทุกคนมีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะ แต่นางไม่มีพรสวรรค์แม้แต่น้อย ยิ่งกว่าขอทานตามท้องถนนเสียอีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงเจ้าเสน่ห์
แค่บทนำก็น่าอ่านแล้ว รอติดตามตอนต่อไปนะคะ...