หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] นิยาย บท 174

หากอยู่ในต้าโจว อวี๋หวั่นคงรายงานทางการไปแล้ว แต่ในสถานที่อย่างชิงเหอนั้น ข้าราชการกับโจรผู้ร้ายก็รวมหัวกัน ฝ่ายหนึ่งทำผิด สถานะของพวกเขาก็ไม่มีทางถูกเปิดเผย

เจียงไห่จับพวกนั้นมาแล้วค้นตัวหาเงิน แต่กลับไม่พบเลยแม้แต่เหรียญทองแดงเดียว

เมื่ออวี๋หวั่นนึกได้ว่าพวกเขาแอบได้ยินว่าพวกตนไม่มีหนังสือผ่านทาง จึงหยิบขวดยาลูกกลอนออกมา แล้วให้เจียงไห่บังคับให้พวกเขากิน “ยาพิษชนิดนี้ออกฤทธิ์ในหนึ่งเดือน หลังจากหนึ่งเดือนข้าถึงจะให้ยาถอนพิษแก่พวกเจ้า ถ้าหากระหว่างนี้พวกเจ้ากล้ารายงานทางการ…ก็ระวังชีวิตน้อยๆ ของพวกเจ้าไว้ให้ดี!”

“จอมยุทธ์หญิงวางใจได้! พวกข้าไม่กล้าทำหรอก! ”

อันธพาลให้คำมั่นสัญญา

อวี๋หวั่นมิได้เหลือหนทางต่อรองให้กับโจรใจโฉดเหล่านี้ เพียงแต่ตอนนี้ขู่พวกเขาให้กลัวก็เท่านั้น รอให้เข้าซีเฉิงและปลอมสถานะได้ก่อน ต่อให้โรงเตี๊ยมไปแจ้งทางการก็สายไปเสียแล้ว

อวี๋หวั่นให้เจียงไห่จับพวกเขาโยนเข้าห้องไป

เมื่อเหตุการณ์จบลง ผู้คนต่างก็แยกย้ายกลับเข้าห้องของตนไป ผู้เดียวที่ปราศจากการเคลื่อนไหวก็คือภิกษุซึ่งอยู่ห้องข้างๆ ประตูห้องของพวกเขาไม่มีการเคลื่อนไหวมาตั้งแต่แรก ไม่รู้ว่าไหลตายไปแล้ว หรือว่าไม่ใส่ใจจะออกมามุงดูเหตุการณ์

ครั้งแรกที่พบกับการปล้นก็คือเมื่อเดินทางออกมาจากตำบลเหลียนฮวาได้ไม่นาน พวกเขาไปยังอีกเมื่องหนึ่งไม่ทัน จึงต้องค้างแรมระหว่างทาง กลางดึกก็พบกับโจรอีกกลุ่มหนึ่ง

จื่อซูตกใจกลัวจนแทบเป็นลม ร่างของนางสั่นเทิ้ม รีบวิ่งไปหาฝูหลิงซึ่งถูกดูแคลนมาตลอด

เพียงครู่เดียวเจียงไห่ก็จัดการโจรเหล่านั้นเรียบร้อย

เมื่อมีครั้งแรก ก็ต้องมีครั้งที่สองและครั้งที่สามตามมา จากครั้งแรกที่กลัวจนสติเตลิด บัดนี้จื่อซูสามารถข่มตาหลับได้ทันทีหลังจากเกิดเรื่องน่าอกสั่นขวัญแขวนเช่นนี้

คนอื่นๆ ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึง พวกเขาล้มตัวลงนอนได้ทันที

ขอบฟ้าเริ่มมีแสงรำไร พวกเขาตื่นนอน ในโรงเตี๊ยมจัดอาหารชั้นดีและสุราชั้นเลิศให้พวกเขา ทุกคนต่างกินกันจนอิ่มหนำสำราญ จากนั้นก็เก็บสัมภาระออกเดินทาง

วันนี้อากาศเป็นใจ ไร้ลมไร้ฝน แดดไม่แรง รถม้าทั้งสามคันเดินทางถึงซีเฉิงอย่างราบรื่น

นอกซีเฉิงมีตลาด ในตลาดนี้มีตลาดมืดซึ่งไม่อาจเปิดเผยให้ผู้คนทั่วไปรู้ หนังสือผ่านทางสามารถหาได้ในตลาดมืดแห่งนี้

“ฮูหยิน…เอ่อ ไม่สิ คุณชายรอง หนวดของท่านหลุดแล้วเจ้าค่ะ” จื่อซูชี้ไปยังหนวดปลอมของอวี๋หวั่น

หลังจากออกจากตำบลชิงเหอ อวี๋หวั่นก็ปลอมเป็นผู้ชาย เหตุผลแรกก็เพื่อความสะดวก เหตุผลที่สองก็คือเพื่อป้องกันคนเหล่านั้นไปรายงานทางการและจดจำพวกเขาได้

หนวดปลอมข้างหนึ่งร่วงลงบนพื้น อวี๋หวั่นจึงไม่คิดจะติดมันอีก และหยิบส่งให้จื่อซู

เจียงไห่มองไปยังฝูงชนอันแน่นขนัดเบื้องหน้า เขาบอกกับอวี๋หวั่นและเยี่ยนจิ่วเฉาว่า “คุณชายทั้งสองโปรดรอข้า

อยู่บนรถม้า ประเดี๋ยวข้ากับชิงเหยียนกลับมา”

พูดจบ เขาก็ลงจากรถ แล้วเดินไปยังร้านหนังสือซึ่งทำหนังสือผ่านทางพร้อมกับชิงเหยียน

ชิงเหยียนมิได้เดินนำทาง แต่กลับพบว่าเจียงไห่ไม่ได้เดินหลงทางแต่อย่างใด เขามองเจียงไห่อย่างพินิจพิจารณาครู่หนึ่ง “เจ้าเคยมาหรือ?”

เจียงไห่ไม่ตอบ

ชิงเหยียนดูออกแต่แรกแล้วว่าวิชายุทธ์ของบุรุษผู้นี้เก่งกาจกว่าเขา ย่อมไม่อาจถูกคนลักพาตัวไปขายได้ เป็นไปได้ว่าเขามีอีกสถานะหนึ่งซึ่งไม่อาจเปิดเผยได้ เพียงแต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดจึงมาอยู่ข้างกายอวี๋หวั่น

“ทางที่ดีเจ้าควรจะซื่อสัตย์ต่อฮูหยิน”

ชิงเหยียนตักเตือน

เจียงไห่เหลือบมองเขาด้วยสายตาเย็นเยียบ “คำพูดนี้พวกเจ้าเก็บไว้บอกตนเองเถิด”

ชิงเหยียนหรี่ตา

เจียงไห่มิได้ใส่ใจเขาอีก เขาเดินตรงไปยังร้านหนังสือ

ร้านหนังสือแห่งนี้ตั้งไว้บังหน้า สิ่งที่ทำล้วนแต่เป็นธุรกิจสีเทา และหนึ่งในสิ่งที่ทำรายได้มากที่สุดก็คือหนังสือผ่านทาง

การตรวจตราของหนานจ้าวนั้นเข้มงวดกว่าต้าโจวมาก หากไม่มีหนังสือผ่านทางอาจถูกจับกุมตัวได้ ทว่าหนังสือผ่านทางของซีเฉิงก็มิใช่ว่าจะได้มาง่ายถึงเพียงนั้น

เมื่อเดินเข้าไปในร้านหนังสือ เจียงไห่ก็เดินเข้าไป เขามองไปยังผู้จัดการร้านซึ่งกำลังก้มหน้าก้มตาดีดลูกคิด “ทิศใต้มีไม้ใหญ่ แต่มิอาจหยุดพัก[1]”

ชิงเหยียนเลิกคิ้ว

ในตลาดมืดมิได้มีร้านนี้เพียงร้านเดียวที่ทำหนังสือผ่านทาง แต่พวกเขาเป็นร้านที่ใหญ่ที่สุด หากร้านของพวกเขา

ไม่สามารถทำได้ โอกาสที่ร้านอื่นจะทำได้ก็มีน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ควรลองดูสักหน่อย

ทางด้านอวี๋หวั่นและเยี่ยนจิ่วเฉานั่งรออยู่บนรถม้า พวกเขารออยู่นานจนแข้งขาเริ่มปวดเมื่อยก็ยังไม่เห็นวี่แววของเจียงไห่และชิงเหยียน ดูแล้วคงจะล่าช้าเพราะหนังสือผ่านทาง อวี๋หวั่นอยากลงไปเดินเหยียดแข้งขา และจะได้ไปเข้าห้องน้ำสักหน่อย

จื่อซูและฝูหลิงไปมาแล้ว พวกนางจึงรออยู่บนรถม้า

ทั้งสองลงจากรถม้า หลังจากปลอมเป็นผู้ชาย อวี๋หวั่นก็ดูอ่อนเยาว์ขึ้นมาก ดูไปดูมาเหมือนกับเด็กหนุ่มอายุราวสิบสี่สิบห้า คิ้วโก่งดวงตาคม ปราดเปรียวเฉลียวฉลาด เมื่อยืนอยู่ข้างกายเยี่ยนจิ่วเฉา ก็ยิ่งดูประหนึ่งเทพเซียนลงมาจุติ เพียงครู่เดียวก็ดึงดูดสายตาของผู้คนโดยรอบ

เจ้าจิ้งจอกหิมะตัวน้อยก็อยากลงจากรถม้าไปเดินเล่นเช่นกัน ทันทีที่มันตั้งท่ากระโดดออกไป ก็ถูกจื่อซูคว้าขาน้อยๆ สองข้างเอาไว้ “มานี่ เจ้าไม่ต้องออกไป รออยู่ในนี้”

ข้าก็จะไปฉี่เหมือนกันนะ!

จื่อซูหยิบกระโถนใบเล็กออกมา “นี่ ฉี่เลย”

จิ้งจอกหิมะน้อยยกอุ้งเท้าเล็กสองข้างขึ้นปิดหน้า น่าอายเหลือเกิน

อวี๋หวั่นและเยี่ยนจิ่วเฉาเดินไปถึงโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง

อวี๋หวั่นมีวันนั้นของเดือน จำต้องใช้เวลาในห้องน้ำนานสักหน่อย

คิดไม่ถึงว่าเมื่อเดินกลับมายังโถงกลางของโรงเตี๊ยม ก็พบว่าเยี่ยนจิ่วเฉาถูกเหล่าหญิงงามห้อมล้อมเสียแล้ว

รูปโฉมของเยี่ยนจิ่วเฉามิได้ด้อยกว่าผู้คนในดินแดนแห่งสาวงามอย่างหนานเจียง มีคนน้ำลายสอเพราะความหล่อเหลาของเขาย่อมมิใช่เรื่องแปลก แต่การเกี้ยวพาราสีกันตอนกลางวันแสกๆ ก็ออกจะมากไปสักหน่อย

แม่นางคนหนึ่งซึ่งสวมอาภรณ์สีเขียวและผ้าคลุมหน้าเข้ามานั่งลงข้างกายเยี่ยนจิ่วเฉา นางยกกาน้ำชาบนโต๊ะขึ้นมาแล้วรินน้ำชาให้เขา เล่นหูเล่นตาพลางกล่าวว่า “คุณชายมาจากที่ใดหรือเจ้าคะ? เหตุใดข้าไม่เคยเห็นหน้าค่าตามาก่อน?”

………………………………….

[1] ทิศใต้มีไม้ใหญ่ แต่มิอาจหยุดพัก บทกลอนสองวรรคแรกจากบทฮั่นก่วง ในคัมภีร์ซือจิง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]