หากอยู่ในต้าโจว อวี๋หวั่นคงรายงานทางการไปแล้ว แต่ในสถานที่อย่างชิงเหอนั้น ข้าราชการกับโจรผู้ร้ายก็รวมหัวกัน ฝ่ายหนึ่งทำผิด สถานะของพวกเขาก็ไม่มีทางถูกเปิดเผย
เจียงไห่จับพวกนั้นมาแล้วค้นตัวหาเงิน แต่กลับไม่พบเลยแม้แต่เหรียญทองแดงเดียว
เมื่ออวี๋หวั่นนึกได้ว่าพวกเขาแอบได้ยินว่าพวกตนไม่มีหนังสือผ่านทาง จึงหยิบขวดยาลูกกลอนออกมา แล้วให้เจียงไห่บังคับให้พวกเขากิน “ยาพิษชนิดนี้ออกฤทธิ์ในหนึ่งเดือน หลังจากหนึ่งเดือนข้าถึงจะให้ยาถอนพิษแก่พวกเจ้า ถ้าหากระหว่างนี้พวกเจ้ากล้ารายงานทางการ…ก็ระวังชีวิตน้อยๆ ของพวกเจ้าไว้ให้ดี!”
“จอมยุทธ์หญิงวางใจได้! พวกข้าไม่กล้าทำหรอก! ”
อันธพาลให้คำมั่นสัญญา
อวี๋หวั่นมิได้เหลือหนทางต่อรองให้กับโจรใจโฉดเหล่านี้ เพียงแต่ตอนนี้ขู่พวกเขาให้กลัวก็เท่านั้น รอให้เข้าซีเฉิงและปลอมสถานะได้ก่อน ต่อให้โรงเตี๊ยมไปแจ้งทางการก็สายไปเสียแล้ว
อวี๋หวั่นให้เจียงไห่จับพวกเขาโยนเข้าห้องไป
เมื่อเหตุการณ์จบลง ผู้คนต่างก็แยกย้ายกลับเข้าห้องของตนไป ผู้เดียวที่ปราศจากการเคลื่อนไหวก็คือภิกษุซึ่งอยู่ห้องข้างๆ ประตูห้องของพวกเขาไม่มีการเคลื่อนไหวมาตั้งแต่แรก ไม่รู้ว่าไหลตายไปแล้ว หรือว่าไม่ใส่ใจจะออกมามุงดูเหตุการณ์
ครั้งแรกที่พบกับการปล้นก็คือเมื่อเดินทางออกมาจากตำบลเหลียนฮวาได้ไม่นาน พวกเขาไปยังอีกเมื่องหนึ่งไม่ทัน จึงต้องค้างแรมระหว่างทาง กลางดึกก็พบกับโจรอีกกลุ่มหนึ่ง
จื่อซูตกใจกลัวจนแทบเป็นลม ร่างของนางสั่นเทิ้ม รีบวิ่งไปหาฝูหลิงซึ่งถูกดูแคลนมาตลอด
เพียงครู่เดียวเจียงไห่ก็จัดการโจรเหล่านั้นเรียบร้อย
เมื่อมีครั้งแรก ก็ต้องมีครั้งที่สองและครั้งที่สามตามมา จากครั้งแรกที่กลัวจนสติเตลิด บัดนี้จื่อซูสามารถข่มตาหลับได้ทันทีหลังจากเกิดเรื่องน่าอกสั่นขวัญแขวนเช่นนี้
คนอื่นๆ ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึง พวกเขาล้มตัวลงนอนได้ทันที
ขอบฟ้าเริ่มมีแสงรำไร พวกเขาตื่นนอน ในโรงเตี๊ยมจัดอาหารชั้นดีและสุราชั้นเลิศให้พวกเขา ทุกคนต่างกินกันจนอิ่มหนำสำราญ จากนั้นก็เก็บสัมภาระออกเดินทาง
วันนี้อากาศเป็นใจ ไร้ลมไร้ฝน แดดไม่แรง รถม้าทั้งสามคันเดินทางถึงซีเฉิงอย่างราบรื่น
นอกซีเฉิงมีตลาด ในตลาดนี้มีตลาดมืดซึ่งไม่อาจเปิดเผยให้ผู้คนทั่วไปรู้ หนังสือผ่านทางสามารถหาได้ในตลาดมืดแห่งนี้
“ฮูหยิน…เอ่อ ไม่สิ คุณชายรอง หนวดของท่านหลุดแล้วเจ้าค่ะ” จื่อซูชี้ไปยังหนวดปลอมของอวี๋หวั่น
หลังจากออกจากตำบลชิงเหอ อวี๋หวั่นก็ปลอมเป็นผู้ชาย เหตุผลแรกก็เพื่อความสะดวก เหตุผลที่สองก็คือเพื่อป้องกันคนเหล่านั้นไปรายงานทางการและจดจำพวกเขาได้
หนวดปลอมข้างหนึ่งร่วงลงบนพื้น อวี๋หวั่นจึงไม่คิดจะติดมันอีก และหยิบส่งให้จื่อซู
เจียงไห่มองไปยังฝูงชนอันแน่นขนัดเบื้องหน้า เขาบอกกับอวี๋หวั่นและเยี่ยนจิ่วเฉาว่า “คุณชายทั้งสองโปรดรอข้า
อยู่บนรถม้า ประเดี๋ยวข้ากับชิงเหยียนกลับมา”
พูดจบ เขาก็ลงจากรถ แล้วเดินไปยังร้านหนังสือซึ่งทำหนังสือผ่านทางพร้อมกับชิงเหยียน
ชิงเหยียนมิได้เดินนำทาง แต่กลับพบว่าเจียงไห่ไม่ได้เดินหลงทางแต่อย่างใด เขามองเจียงไห่อย่างพินิจพิจารณาครู่หนึ่ง “เจ้าเคยมาหรือ?”
เจียงไห่ไม่ตอบ
ชิงเหยียนดูออกแต่แรกแล้วว่าวิชายุทธ์ของบุรุษผู้นี้เก่งกาจกว่าเขา ย่อมไม่อาจถูกคนลักพาตัวไปขายได้ เป็นไปได้ว่าเขามีอีกสถานะหนึ่งซึ่งไม่อาจเปิดเผยได้ เพียงแต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดจึงมาอยู่ข้างกายอวี๋หวั่น
“ทางที่ดีเจ้าควรจะซื่อสัตย์ต่อฮูหยิน”
ชิงเหยียนตักเตือน
เจียงไห่เหลือบมองเขาด้วยสายตาเย็นเยียบ “คำพูดนี้พวกเจ้าเก็บไว้บอกตนเองเถิด”
ชิงเหยียนหรี่ตา
เจียงไห่มิได้ใส่ใจเขาอีก เขาเดินตรงไปยังร้านหนังสือ
ร้านหนังสือแห่งนี้ตั้งไว้บังหน้า สิ่งที่ทำล้วนแต่เป็นธุรกิจสีเทา และหนึ่งในสิ่งที่ทำรายได้มากที่สุดก็คือหนังสือผ่านทาง
การตรวจตราของหนานจ้าวนั้นเข้มงวดกว่าต้าโจวมาก หากไม่มีหนังสือผ่านทางอาจถูกจับกุมตัวได้ ทว่าหนังสือผ่านทางของซีเฉิงก็มิใช่ว่าจะได้มาง่ายถึงเพียงนั้น
เมื่อเดินเข้าไปในร้านหนังสือ เจียงไห่ก็เดินเข้าไป เขามองไปยังผู้จัดการร้านซึ่งกำลังก้มหน้าก้มตาดีดลูกคิด “ทิศใต้มีไม้ใหญ่ แต่มิอาจหยุดพัก[1]”
ชิงเหยียนเลิกคิ้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]