หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] นิยาย บท 26

หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2] – บทที่ 26.2 พี่จิ่วรับผิด ท่านพ่อออกจากคุก (2)
บทที่ 26 พี่จิ่วรับผิด ท่านพ่อออกจากคุก (2)
โดย
Ink Stone_Romance
ฟ้าสว่างแล้ว เรื่องที่อวี๋เซ่าชิงกลับมายังคุกหลวงก็ได้แพร่สะพัดออกไป ว่ากันว่าพบตัวผู้ร้ายแล้ว เป็นนักโทษประหารในคุกหลวงคนหนึ่ง เขาติดสินบนพัศดีในคุกหลวง ทั้งสองร่วมมือกันพาอวี๋เซ่าชิงออกมา กล่าวกันว่าที่นักโทษคนนี้ทำเช่นนี้ ก็เพราะอวี๋เซ่าชิงเคยมีบุญคุณกับเขา เขาจึงเสี่ยงชีวิตเพื่อตอบแทนบุญคุณ

อย่างไรก็ตาม ทั้งสองคนเป็นถึงนักโทษประหาร หลบหนีพ้นก็นับว่าเป็นโชค หากถูกจับได้ก็คงหนีความตายไม่พ้น

คำบอกเล่าเหล่านี้คนอื่นคงเชื่อ แต่เยี่ยนไหวจิ่งไม่เป็นเช่นนั้น

เพราะว่าหลังจากที่เขาเจอกับเยี่ยนจิ่วเฉา เขาและจวินฉางอันก็สะกดรอยตามไป เห็นกับตาตนว่าเยี่ยนจิ่วเฉาพาอวี๋เซ่าชิงไปส่งยังคุกหลวง หลังจากนั้นเยี่ยนจิ่วเฉาก็เข้าวัง และภายหลังก็มีข่าวลือเรื่องผู้ร้ายแพร่ออกไป

“เขาเป็นคนช่วยอวี๋เซ่าชิงกลับมา หากอวี๋เซ่าชิงถูกนักโทษประหารจับไปจริง เขาก็ควรจะจับนักโทษคนนั้นกลับมาด้วย แต่ข้าเห็นเพียงอวี๋เซ่าชิง ไม่เห็นนักโทษคนนั้นเลย”

ในตำหนักของเสียนเฟย เยี่ยนไหวจิ่งเล่าถึงความสงสัยของตนให้มารดาฟัง

สวี่เสียนเฟยกำลังจัดดอกไม้ ตัดก้านดอกไม้พลางกล่าวว่า “เรื่องเหล่านี้ ในใจเจ้ารู้ดีก็พอแล้ว”

เยี่ยนไหวจิ่งชะงักไป “เสด็จแม่หมายความว่าอย่างไร?”

สวี่เสียนเฟยหยิบดอกโบตั๋นสวยสดขึ้นมาปักลงในแจกัน “ในใต้หล้า มีผู้ใดที่จะยอมให้เสด็จพ่อของเจ้าปกปิดเรื่องนี้ให้?”

เยี่ยนไหวจิ่งขมวดคิ้ว “คนที่ลักพาตัวอวี๋เซ่าชิงไป…ก็คือเยี่ยนจิ่วเฉาหรือ? เป็นไปไม่ได้ เมื่อวานเขายังไปตามหาคน เมื่อได้ยินว่าอวี๋เซ่าชิงหายตัวไป สีหน้าตกใจของเขามิได้เสแสร้ง”

สวี่เสียนเฟยยิ้มน้อยๆ “หากไม่ใช่เขา ก็เป็นคนที่เกี่ยวข้องกับเขา”

เยี่ยนไหวจิ่งนิ่งไปครู่หนึ่ง “บุกคุกหลวงมีโทษถึงประหาร เหตุใดเสด็จพ่อถึงยังตามใจเขาอยู่?”

สวี่เสียนเฟยเลือกดอกโบตั๋นมาดอกหนึ่ง “เขาเหลือเวลามีชีวิตอยู่อีกแค่สองปี เสด็จพ่อเจ้าตามใจเขาแล้วอย่างไร? อย่างไรเสีย ที่ชีวิตเขาสั้นถึงเพียงนี้ก็เป็นเพราะเสด็จพ่อของเจ้า”

“เขาอ่อนแอตั้งแต่กำเนิดหรือ?” สวี่เสียนเฟยไม่ค่อยอยากเอ่ยถึงเรื่องอาการป่วยของเยี่ยนจิ่วเฉาสักเท่าไร ดังนั้นเยี่ยนไหวจิ่งจึงไม่ค่อยรู้เรื่องนี้

สวี่เสียนเฟยวางดอกโบตั๋นไว้ด้านข้าง แล้วเลือกดอกเสาเย่าขึ้นมาดอกหนึ่ง “เจ้าเด็กโง่ พวกเราเป็นราชวงศ์ ทายาทของราชวงศ์เรามีคนที่ร่างกายอ่อนแอโดยกำเนิดหรือไม่เล่า? มีแต่คนที่ตายตั้งแต่ยังไม่คลอดและคนที่เลี้ยงไม่โต”

เรื่องของวังหลัง เยี่ยนไหวจิ่งไม่ค่อยอยากรู้เท่าไรนัก

สวี่เสียนเฟยตัดดอกโบตั๋นดอกใหญ่ที่สุด แล้วนำดอกเสาเย่าในมือปักเข้าไป “บางเรื่องเจ้าก็ไม่จำเป็นต้องเข้าใจนัก ขอเพียงเจ้าจำเอาไว้ว่าเสด็จพ่อของเจ้ารู้สึกผิด จึงปฏิบัติต่อเขาเช่นนั้น เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้สึกอิจฉาเขา”

เยี่ยนไหวจิ่งเงียบ เป็นเพราะรู้สึกผิดเท่านั้นหรือ? เหตุใดเขาจึงรู้สึกว่าเหตุผลไม่ได้มีเพียงเท่านี้กันเล่า?

……

คุณชายเยี่ยนซึ่งแต่ไหนแต่ไรมาปล่อยให้ผู้อื่นยอมรับผิดแทน หลังจากเข้าห้องทรงพระอักษรไปได้ไม่ถึงครึ่งถ้วยชา ครานี้ก็ต้องแบกรับความผิดมากกว่าที่ทำมาทั้งชีวิตเสียอีก

เพราะฉะนั้น ทำสิ่งใดไว้ สิ่งนั้นย่อมคืนสนอง

ฮ่องเต้โกรธอย่างถึงที่สุด หากไม่ได้ขันทีวังช่วยเกลี้ยกล่อมว่าคุณชายไม่สบาย ไม่รู้ว่าตนกำลังทำอะไรอยู่ ฮ่องเต้คงอดรนทนไม่ได้ สั่งประหารเยี่ยนจิ่วเฉาไปเสียแล้ว

กระนั้น ต่อให้พ้นโทษประหาร แต่ก็ยังต้องได้รับโทษสถานอื่น เยี่ยนจิ่วเฉาถูกหักเงินเป็นเวลาหนึ่งปี ปิดประตูทบทวนตนเองหนึ่งเดือน ถูกโบยหนึ่งร้อยไม้ ทว่าเขาเป็นคนป่วย องครักษ์จึงรับโทษนี้แทน

อิ่งสือซันถูกโบยหนึ่งร้อยไม้ ถูกโบยจนเขาร้องโอดโอย เมื่อโบยเสร็จ เขาก็เดินหัวทิ่มหัวตำ โซซัดโซเซไปยังคุกหลวง

แม้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคุกหลวงจะได้รับการ ‘เปิดเผยความจริง’ อวี๋เซ่าชิงก็ยังมิได้รับการชำระมลทิน เขายังคงเป็นนักโทษประหารที่ขัดคำสั่งแม่ทัพเซียว ขโมยรายชื่อสายลับ และหลอกลวงฮ่องเต้ มีเพียงโจวไหวเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะยืนยันได้ว่า ตั้งแต่แม่ทัพเซียวได้รับรายชื่อนั้นจนจากโลกนี้ไป เขายังไม่เคยพบกับเหยียนฉงหมิงเป็นการส่วนตัว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]