หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] นิยาย บท 26

ลูกวัวแรกเกิดไม่กลัวเสือ นั่นคือไข่น้อยทั้งสามที่ขี่นกหลวนศักดิ์สิทธิ์ไปสู้รบ นกหลวนศักดิ์สิทธิ์บินได้ พ่นไฟได้ราวกับนกเทพ รวมกับการร่วมมือกันอย่างเข้าอกเข้าใจ ยิ่งช่วยเสริมจุดแข็งของนกหลวนศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างดี

อย่างน้อยไข่น้อยทั้งสามก็คิดเช่นนั้น

และเมื่อพวกเขาเห็นว่ากลุ่มทหารเผ่ามารธรรมดาเหล่านั้นถูกเปลวเพลิงของนกหลวนศักดิ์สิทธิ์แผดเผาจนไม่มีเรี่ยวแรงจะสู้กลับ ความมั่นใจของพวกเขาก็ยิ่งพวยพุ่ง

กล้าจับน้องสาวและสหายที่ดีของพวกเขา ก็ต้องมีจุดจบเช่นนี้!

สุดยอดไข่น้อยไร้เทียมทานทั้งสามมาแล้ว!

เวลานี้ ยอดฝีมือเผ่ามารกับพรรคพวกของสุ่ยเยว่ชิงกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด ศัตรูของศัตรูคือมิตร คนชุดดำก็ต่อสู้กับเผ่ามาร เช่นนั้นคนชุดดำก็คือมิตร!

หลังจากต้าเป่าจัดการทหารเผ่ามารอีกคนสำเร็จ ก็ขี่นกหลวนศักดิ์สิทธิ์ผ่านหน้าสุ่ยเยว่ชิงไป โดยไม่ลืมใช้หมัดเล็กๆ ตบที่ไหล่ของตนแล้วเอ่ยว่า “อย่ากลัวเลย สหายรัก ข้าอยู่สู้กับพวกเจ้า” ด้วยท่าทางหล่อเหลาสะกดใจ!

สุ่ยเยว่ชิงรู้สึกว่าโลกใบนี้เสมือนอยู่ในจินตนาการ

ที่แท้บนหลังของนกหลวนศักดิ์สิทธิ์ก็มีเด็กอยู่สามคน? เด็กจากที่ใดกัน? เด็กน้อยเช่นนี้ก็สู้รบได้แล้ว? อีกอย่าง ท่าทางและสีหน้าเช่นนั้นหมายความว่าอย่างไร เจ้าลงมาพูดกับพวกข้าให้รู้เรื่อง!

สวบ!

ทหารเผ่ามารนายหนึ่งขว้างหอกไปทางสุ่ยเยว่ชิงจากพื้นดิน

ดวงตาของต้าเป่าเกิดประกายวาบ บังคับนกหลวนศักดิ์สิทธิ์พ่นไฟให้ใส่หอกเล่มนั้น

เปลวเพลิงดูดซับพลังงานจากหอกทั้งหมด เมื่อหอกสูญเสียแรงที่เคยมีก็ร่วงตกลงกลางอากาศ

สุ่ยเยว่ชิงมองหอกด้วยสายตาที่ตกตะลึง เขาเตรียมพร้อมตั้งรับแล้ว ทว่าการโจมตีนั้นก็ไม่เกิดขึ้น เขามองไปที่ต้าเป่า

ต้าเป่าเลิกคิ้วขึ้น

ชนะแล้ว สหาย!

ไม่ต้องขอบคุณหรอก!

“ข้า…” สุ่ยเยว่ชิงสำลักเล็กน้อย

จากที่ห่างไกลออกไป เยี่ยนจิ่วเฉาที่กำลังดูฉากนี้ปิดตาอย่างจนใจ เขาทำอย่างไรได้บ้าง? เขาเองก็สิ้นหวัง…

ไข่น้อยทั้งสามหาเรื่องใส่ตัวไม่นึกถึงอันตราย ดึงดูดความเกลียดชังของเหล่ายอดฝีมือเผ่ามารทั้งหมด หากบอกว่าเปลวเพลิงของนกหลวนศักดิ์สิทธิ์รุนแรง นั่นก็รุนแรงจริง ทว่ามีผลกับทหารเผ่ามารธรรมดาเท่านั้น ยอดฝีมือขั้นเลี่ยนชี่กับขั้นไท่ซวีที่แท้จริงมิได้เกรงกลัวเปลวเพลิงเหล่านี้เลย

เพียงแต่ ไม่กลัวจะเป็นเรื่องนี้ แต่หากมีตัวปัญหาสร้างความปั่นป่วนอยู่ในสนามรบก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

“ดูข้า อี๋ซันเต่า—”

คาถาของยอดฝีมือเผ่ามารยังไม่ทันร่ายจบ เปลวไฟหนึ่งก็พุ่งเข้ามา เขากรีดร้อง! สว่างจ้าจนตาแทบบอด!

ช้าก่อน เขากำลังจะใช้ท่าใด?

“อ้อ อี๋ซัน—”

ชิ้ง!

ถูกแสงสว่างจากเปลวเพลิงแยงตาอีกครั้ง

ยอดฝีมือเผ่ามาร “ข้าเป็นอะไรไป…”

ตอนแรกไข่น้อยทั้งสามเล็งไปที่ทหารเผ่ามารตรงๆ แต่ต่อมาพวกเขาก็รู้สึกว่าทหารบนพื้นดินเหล่านั้นอ่อนหัดเกินไป ไม่อาจเทียบเคียงพวกเขาที่มีความสามารถยอดเยี่ยมเพียงนี้ พวกเขาจึงบินเข้าไปในค่ายเผ่ามาร และเริ่มโจมตีไม่เลือกหน้า

การโจมตีไม่เลือกหน้าก็หมายถึง…คนนิกายศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่คนตาบอด! พวกเขาเองก็ถูกแสงสาดจนแทบทนไม่ไหว

คนนิกายศักดิ์สิทธิ์ไม่อาจต่อสู้ได้ขณะหนึ่ง

โชคดีที่ไข่น้อยทั้งสามบินเข้าไปในค่ายเผ่ามาร ดังนั้นความเสียหายต่อเผ่ามารจึงยังมีมากกว่า

ไข่น้อยทั้งสามไร้เทียมทาน! นี่แน่ะ! นี่แน่ะ! นี่แน่ะๆๆ!

กล่าวตามตรง เปลวเพลิงเหล่านี้ไม่อาจแผดเผายอดฝีมือให้บาดเจ็บ แต่ปัญหาคือ…มันสว่างเจิดจ้า!

“บัดซบ! ข้าลืมตาไม่ขึ้น!”

ค่ายเผ่ามารอยู่ในความโกลาหล จนกระทั่งมุ่งเป้าไปที่นิกายศักดิ์สิทธิ์ และโจมตีถูกคนของตน

ด้วยไหวพริบของยอดฝีมือสูงวัยคนหนึ่ง เขาเอ่ยขึ้นว่า “หลับตาให้หมด!”

ทุกคนรีบหลับตา

ระดับอย่างพวกเขา ประสาทสัมผัสทั้งห้านั้นแตกต่างจากคนทั่วไป แม้จะมองไม่เห็น แต่ก็สามารถรับรู้ตำแหน่งเฉพาะของศัตรูผ่านการได้ยิน การสัมผัส และแม้กระทั่งความผันผวนของพลังงาน และแม่นยำเป็นอย่างยิ่ง

เยี่ยนจิ่วเฉาสูดหายใจเข้าลึกๆ “พวกเจ้ารอที่นี่ เดี๋ยวข้ากลับมา”

ดังนั้น สุ่ยเยว่ชิงจึงเห็นสหายหนุ่มที่เพิ่งลักพาตัวเด็กไปวิ่งกลับมาอีกครั้ง

สุ่ยเยว่ชิงหายใจเฮือกด้วยความประหลาดใจ วันนี้มันวันอะไร พบเจอเรื่องแปลกประหลาดมากมายเช่นนี้?

เยี่ยนจิ่วเฉาชี้ไปที่เขา “ข้ามาช่วยเจ้าแล้ว สหาย!”

สัญญาณมือเช่นนี้ดูคุ้นๆ นะ…

สุ่ยเยว่ชิงไม่เชื่อว่าเขาจะมาช่วยตน ทว่าคราวนี้เยี่ยนจิ่วเฉารีบมุ่งหน้าไปที่ค่ายเผ่ามารก่อนจริงๆ ซึ่งสุ่ยเยว่ชิงเองยังไม่กล้าเข้าไปด้วยซ้ำ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]