หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] นิยาย บท 26

ต้องบอกว่า หลังจากอยู่กับอวี๋หวั่นมานาน อิ่งลิ่วก็คิดกลอุบายเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ได้ ตัวอย่างเช่น ฮูหยินน้อยของเขามีความอยากรู้อยากเห็นเป็นอย่างยิ่ง

และเมื่ออวี๋หวั่นได้ยินเช่นนี้ ความสนใจก็จะถูกเบี่ยงเบนไปทันที

“เจ้าว่าอะไรนะ? ผู้ใดถูกวางยา?” อวี๋หวั่นมองอิ่งลิ่ว

อิ่งลิ่วเห็นว่าในที่สุดอวี๋หวั่นก็ไม่ถามเรื่องชุยเฒ่าต่อแล้ว จึงลอบทอดถอนใจด้วยความโล่งอกและตอบว่า “พระชายารัชทายาทอย่างไรเล่าขอรับ! บุตรีจวนมหาเสนาบดี คุณหนูแซ่หานผู้นั้น!”

“หานจิ้งซู?” อวี๋หวั่นขมวดคิ้ว

อิ่งลิ่วทำเสียงประหลาดใจ “ฮูหยินน้อยรู้จักชื่อนางด้วยหรือ?”

อวี๋หวั่นพยักหน้า “อื้ม นางเคยมาหาข้า”

“โอ้” อิ่งลิ่วถาม “เหตุใดนางถึงมาพบฮูหยินน้อยละขอรับ?”

เรื่องในอดีตไม่อยากนึกถึง อวี๋หวั่นส่ายหน้า “เพราะเรื่องของเยี่ยนไหวจิ่ง นางถามข้าว่าข้ามีความสัมพันธ์กับเยี่ยนไหวจิ่งอย่างไร ในวันสมรสข้าไปที่ใดกันแน่ ข้าบอกนางว่าเยี่ยนไหวจิ่งลักพาตัวข้าไป”

อิ่งลิ่วตกตะลึง “อ่า…เช่นนั้นนางก็ยัง…แต่งงานกับเยี่ยนไหวจิ่งอีกหรือ?”

ในสมองมีหลุมหรืออย่างไร?

อวี๋หวั่นแบมือออก

บอกตามตรง เธอไม่เข้าใจสตรีที่ความรักขึ้นสมองเช่นนาง รู้ดีว่าในใจบุรุษผู้นี้ไม่มีตนก็ยังเต็มใจบินเข้ากองไฟ หานจิ้งซูยังโชคดีที่ตนเป็นบุตรีจวนมหาเสนาบดีใช่หรือไม่ มีคนหนุนหลัง มีชาติกำเนิดที่ดี สามารถบังคับสวี่เสียนเฟยให้เยี่ยนไหวจิ่งมาแต่งงานกับตน? แต่ถึงอย่างไรเสีย หากเปลี่ยนเป็นสตรีที่มีสถานะต่ำกว่านี้ ก็ไม่มีทางอยู่ในสายตาของสวี่เสียนเฟย?

ช่างเถอะ เรื่องของคนอื่น เธอไม่มีสิทธิ์ไปก้าวก่ายไม่ใช่หรือ?

“แต่เจ้าบอกว่านางถูกวางยามันเรื่องใดกัน?” อวี๋หวั่นถาม

อิ่งลิ่วเอ่ย “เมื่อเช้าได้ข่าวว่ามีหัวขโมยแทรกซึมเข้าไปในจวนรัชทายาท หมายจะลอบสังหารองค์รัชทายาท ทว่าเพราะความผิดพลาดทำให้พระชายารัชทายาทถูกทำร้าย เรื่องทั้งหมดข้าได้ยินมาจากด้านนอก ไม่รู้ว่าจริงเท็จเช่นไร”

อวี๋หวั่นลูบคาง ข่าวลือด้านนอก…ยากจะบอกว่าจริงหรือเท็จ แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ หากเยี่ยนไหวจิ่งรู้ว่ามีภัย เขาไม่มีทางผลักหานจิ้งซูออกไปรับอันตราย เขาไม่ได้ไร้ยางอายเช่นนั้น อีกอย่าง คนหนุนหลังหานจิ้งซูสำคัญเช่นนั้น หากเยี่ยนไหวจิ่งไม่ได้บ้า อย่างไรก็ไม่มีวันปล่อยให้เกิดเรื่องขึ้นกับอีกฝ่ายแน่

ดังนั้นมือสังหารลงมือผิดพลาดจริงๆ หรือ?

หานจิ้งซูโชคร้ายเกินไปแล้ว! เหตุใดถึงรับมีดแทนบุรุษผู้นั้น?

“เฮ้อ!” อวี๋หวั่นรู้สึกหดหู่ใจมาก

ความรู้สึกของอวี๋หวั่นต่อหานจิ้งซูค่อนข้างซับซ้อน ความสัมพันธ์เชิงตำแหน่ง เธอกับหานจิ้งซูไม่อาจเป็นพันธมิตรกัน มุมมองที่แตกต่างคล้ายกับกำหนดให้ทั้งสองไม่อาจเป็นเพื่อนกันได้ แต่ไม่รู้เหตุใดอวี๋หวั่นถึงรังเกียจนางไม่ลง

รู้สึกว่าสตรีผู้นี้โง่เขลา เธอรู้สึกไร้ค่าแทนนางจริงๆ

“จับมือสังหารได้หรือไม่?” อวี๋หวั่นถาม

“ยังจับไม่ได้ขอรับ” อิ่งลิ่วเอ่ย “กำลังตรวจสอบอยู่ขอรับ! พิษที่ทำร้ายนางก็แปลกยิ่งนัก ได้ยินมาว่าหมอหลวงก็ยังช่วยอะไรไม่ได้”

ขณะที่อิ่งลิ่วเอ่ยก็เหลือบมองอวี๋หวั่นที่กำลังครุ่นคิด “ฮูหยินน้อยอยากไปช่วยขจัดพิษให้นางหรือ?”

อวี๋หวั่นทบทวนอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยอย่างจริงจัง “ข้าไปไม่ได้”

ไม่ใช่เพราะอวี๋หวั่นไม่มั่นใจในทักษะการแพทย์ของตน ทว่าหานจิ้งซูถูกวางยาโดยคนที่ยังไม่รู้ว่าเป็นผู้ใด หากไปช่วยรักษานางถึงที่ อาจทำให้เป็นที่เข้าใจผิดเกินไป!

แม้ว่าชีวิตของหานจิ้งซูจะสำคัญมาก แต่การไม่สร้างปัญหาให้เยี่ยนจิ่วเฉาสำคัญกว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเยี่ยนจิ่วเฉากับเยี่ยนไหวจิ่งเหมือนน้ำกับไฟ มือสังหารหลบหนีอยู่ด้านนอก เกรงว่าอาจทำให้ทุกคนคิดว่าเป็นฝีมือเยี่ยนจิ่วเฉา

หากเธอไปเช่นนี้ ก็เหมือนเป็นการยืนยัน

หากเธอรักษาไม่ได้ยังพอว่า แต่หากรักษาได้ขึ้นมา ยากจะรับประกันว่าคนอื่นจะไม่พูดว่า เหตุใดหมอหลวงรักษาไม่ได้ แล้วเธอรักษาได้? คงไม่ใช่ว่าพิษนี้พวกเจ้าเป็นคนวางหรอกกระมัง?

เธอไม่ได้ใสซื่อถึงขั้นไปรักษานางแบบไม่สนใจว่าอาจจะก่อปัญหาให้เยี่ยนจิ่วเฉาและตนได้

“ท่านพี่ๆ!”

เถี่ยตั้นน้อยวิ่งมาด้วยร่างกายที่ชุ่มเหงื่อ ในมือถือสิ่งที่ดูคล้ายสมุดคัดลายมือ

“ท่านพี่ ดูสิ!” เถี่ยตั้นน้อยยื่นกระดาษให้อวี๋หวั่นโดยไม่ลืมที่จะทักทายอิ่งลิ่ว “พี่เสี่ยวลิ่ว!”

อิ่งลิ่วยิ้ม ต่างบอกว่าจากกันเพียงสามวันยังต้องขยี้ตามองเสียใหม่ ไม่พบหนึ่งปี เถี่ยตั้นน้อยรู้ความมีมารยาทมากกว่าเมื่อก่อน

เถี่ยตั้นน้อยใช้มือวัดหัวของตน แล้วเทียบไปที่หน้าอกของอิ่งลิ่ว “พี่เสี่ยวลิ่ว เหตุใดท่านถึงตัวเตี้ยลงละ?”

อิ่งลิ่วผงะ “…!!!”

เพราะเจ้าสูงขึ้นต่างหากเล่า!

ไม่เห็นต้องพูดจาทำร้ายกันเลย! ! !

สิ่งที่เถี่ยตั้นน้อยถือมาคือการบ้านของเขาเอง เยี่ยนอ๋องทดสอบเขาในวันนี้ นอกจากการเขียนที่ยังต้องปรับปรุงอีกเล็กน้อย ที่เหลือเขาทำถูกทั้งหมด เยี่ยนอ๋องให้รางวัลเขาได้พักในช่วงบ่าย ทำให้เถี่ยตั้นน้อยดีใจยิ่งนัก

อวี๋หวั่นนับว่าพอใจ แต่เพื่อไม่เป็นการถือหางเด็กน้อยผู้นี้ เธอจึงยังคอยดึงหูกระซิบสั่งสอน “อื้ม ใช้ได้ แต่อย่าได้ลำพองตน ต้องขยันหมั่นเพียรไม่ลดละ อย่าทำให้เยี่ยนอ๋องผิดหวัง”

เถี่ยตั้นน้อยตอบ “ข้ารู้! เช่นนั้น…ข้าไปเล่นกับต้าเป่า เอ้อร์เป่าและเสี่ยวเป่าละนะ?”

อวี๋หวั่นลูบหัวของเขา “ไปเถอะๆ รู้ว่าเจ้านั่งไม่ติดแล้ว”

เถี่ยตั้นน้อยรีบวิ่งเข้าไปอย่างเร็ว!

อวี๋หวั่นทั้งรำคาญและขบขันในเวลาเดียวกัน ภาพลวงตาที่เห็นเด็กชายผู้สงบนิ่งคล้ายโจวจิ่นเมื่อครู่มันเรื่องใดกัน? โจวจิ่นไม่ได้ร่าเริงเช่นนี้!

เถี่ยตั้นน้อยไปหาไข่น้อยทั้งสาม เขาพูดมาก ทั้งพูดเร็วทั้งพูดมาก เสี่ยวเป่า เอ้อร์เป่าพูดไม่ทันเขา ต้าเป่าก็ยิ่งไม่อาจพูดได้ คำพูดที่อัดอั้นมานานถึงหนึ่งปีราวกับน้ำท่วมที่ไหลทะลักลงมา ทำเอาไข่น้อยทั้งสามอยากกรีดร้องแทบตาย!

ที่ผ่านมามีแต่พวกเขาที่รังแกผู้อื่น โชคชะตาพลิกผันเสียจริง พวกเขาก็ถูกคนอื่นรังแกเช่นกัน!

ไข่น้อยทั้งสามปิดหูแล้ววิ่งหนี!

เถี่ยตั้นน้อยไล่ตามหลัง “อ้าว อย่าเพิ่งไปสิ ข้ายังพูดไม่จบเลย!”

ไข่น้อยทั้งสามที่แสนจะเจ็บปวดกล้ำกลืน “…”

เรื่องที่หานจิ้งซูถูกวางยาพัดกระพือไปทั่วทั้งเมือง จวนรัชทายาทแจ้งออกไปว่าถูกพิษ ไม่ใช่ถูกกู่ ดังนั้นแม้แต่อวี๋หวั่นก็ไม่แน่ใจว่าตนจะรักษาพิษของหานจิ้งซูได้หรือไม่

แต่เมื่อเยี่ยนจิ่วเฉากลับมา อวี๋หวั่นก็ได้รู้ความจริง

“ที่แท้ก็เป็นพิษกู่?” อวี๋หวั่นสงสัย “ข้างกายเยี่ยนไหวจิ่งมีปรมาจารย์พิษมิใช่หรือ? เหตุใดยังปล่อยให้หานจิ้งซูโดนกู่? คนของพวกเขาก็ไม่อาจแก้พิษหรือ?”

เยี่ยนจิ่วเฉาเอ่ย “เจ้าแน่ใจได้อย่างไรว่ากู่ที่นางโดนนั้นมิใช่ ‘คนของพวกเขา’ เป็นคนทำ?”

อวี๋หวั่นอ้าปากค้าง

สถานการณ์ในยามนี้ เกรงว่ามีเพียงคนบ้าสติฟั่นเฟือนเท่านั้นที่กล้าเดาเช่นนี้ แต่…การคาดเดาของเขาก็ดูมีเหตุมีผลมากทีเดียว!

จวนรัชทายาทคุ้มกันแน่นหนา ไม่ใช่ทุกคนจะมีโอกาสลอบเข้าจวนใช้กู่ทำร้ายหานจิ้งซู หากเป็นคนคุ้นเคย เช่นนั้นก็ยิ่งสะดวก

“มันเรื่องใดกัน? ศึกภายในหรือ?” อวี๋หวั่นตะลึงงัน

มาถึงจุดนี้ อวี๋หวั่นไม่คิดที่จะไปถอนพิษกู่ให้กับหานจิ้งซูแล้ว เพราะหากเป็นกู่ ในต้าโจวมีเพียงเธอที่สามารถแก้ได้ แต่หากเธอแก้ก็จะไม่อาจพูดได้เต็มปากแล้วจริงๆ

คนอื่นคิดว่าเธอเป็นมือสังหารนั้นเรื่องเล็ก ด้วยวิธีการคลายกู่ของเธอ หากโยงไปถึงการล้างพิษไป๋หลี่เซียงของเยี่ยนจิ่วเฉาแล้วนั้นได้ไม่คุ้มเสีย

ตอนนี้อวี๋หวั่นมั่นใจได้ว่ามีปรมาจารย์พิษอยู่ในจวนรัชทายาท ปรมาจารย์พิษผู้นั้นระดับสูงเพียงใดไม่อาจรู้ แต่หากสูงแล้วจะทำเช่นไรละ? ราชันสัตว์พิษตัวน้อยในร่างกายของเธอก็จะถูกเปิดโปง

แม้ราชันสัตว์พิษตัวน้อยตัวเดียวจะไม่พอให้โยงถึงวัตถุดิบยาแก้พิษของไป๋หลี่เซียง แต่หากเป็นเช่นนั้นขึ้นมาละ?

ถอนพิษอย่างสงบไม่ดีหรือ? ต้องหาเรื่องใส่ตัวเพิ่มอีกหรือ?

ดังนั้นอวี๋หวั่นจึงคิดว่าตนยังไม่ควรทำสิ่งใดตามอำเภอใจ

อาการของหานจิ้งซูแย่ลงมาก ภายในคืนเดียวก็แทบไม่มีแรงจะหายใจ

อีม่าน สตรีพิษซึ่งเป็นลูกน้องของชายสวมชุดคลุมได้กำหนดเส้นตายไว้ “หากไม่คลายกู่ให้นางภายในสิบสองชั่วยาม ก็จะหมดหวัง”

เมื่อกลุ่มคนจากไป จวินฉางอันก็เดินตามและเรียกพวกเขาไว้ “พวกเจ้าไม่มีหนทางคลายกู่ของนางจริงๆ หรือ?”

ชายสวมชุดคลุม เลี่ยเฟิงและอีม่านหันกลับมา

เลี่ยเฟิงเอ่ยอย่างเย็นชา “เจ้าหมายความเช่นไร? เจ้าสงสัยว่าพวกเราเสแสร้ง จงใจไม่ช่วยนางหรือ?”

จวินฉางอันกำหมัด “ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น เพียงแต่อยากให้พวกเจ้าลองคิดดูอีกที พระชายารัชทายาทมีความสำคัญยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับองค์รัชทายาท”

ชายสวมชุดคลุมมองฝ่ามือที่กำแน่นของจวินฉางอันและเดินจากไป

จวินฉางอันมองใบหน้าของชายสวมชุดคลุมแล้วเอ่ยว่า “หากไม่มีพระชายารัชทายาท แม้จิ้งอ๋องจะกลายเป็นรัชทายาทแล้ว ก็ยังไม่แน่ว่าจะสามารถนั่งตำแหน่งฮ่องเต้ได้!”

ร่องรอยหวาดระแวงวาบผ่านดวงตาของเลี่ยเฟิง เขาลอบเหลือบมองชายสวมชุดคลุม และได้ยินชายสวมชุดคลุมเอ่ยว่า “เราทำอะไรไม่ได้”

จากนั้น เขาก็หันหลังมุ่งหน้าไปยังหอวั่งเยว่

จวินฉางอันมองดูด้านหลังพวกเขาจนลับสายตา

เมื่อเข้าไปในหอวั่งเยว่ เลี่ยเฟิงถามชายสวมชุดคลุมว่า “ใต้เท้า เขาหมายความเช่นไร? เขามองสิ่งใดออกหรือ? เมื่อครู่เขากำลังข่มขู่เราใช่หรือไม่? เขารู้ว่าเราต้องการให้เยี่ยนไหวจิ่งขึ้นครองบัลลังก์! หากพระชายารัชทายาทตาย เขาก็จะทำให้แผนของเราล้มเหลว? ข้าจะไปฆ่าเขา!”

“ไม่ต้อง” ชายสวมชุดคลุมยกมือขึ้นปรามเบาๆ “ช่วงสำคัญเช่นนี้อย่าได้แหวกหญ้าให้งูตื่น รอให้ผ่านพรุ่งนี้ไป พระชายารัชทายาทก็คงตายแล้ว แม้จะน่าเสียดาย ทว่าหากนางยังมีชีวิตอยู่ จะยิ่งเป็นผลเสียกับเรามากกว่า ภัยร้ายสองอย่างเลือกผลร้ายน้อยกว่า นั่นคือปล่อยให้นางตาย!”

……………………

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]