อวี๋หวั่นบอกเขาว่า “อาการของท่านนับว่ารุนแรง ข้าทำได้เพียงทำให้อาการทุเลาลงได้ชั่วคราว หลังจากนี้ก็ต้องรักษาต่อไป”
“อาการรุนแรงอันใด? ไม่ใช่ว่าเขากินจนท้องเสียหรอกรึ?”
“นั่นสิ! ภัตตาคารของพวกเขาเหม็นซะขนาดนี้ พวกเจ้าก็ได้กลิ่นนี่ คงไม่ได้เอาของบูดมาขายหรอกนะ!”
เห็นได้ชัดว่าผู้ที่กล่าวเช่นนี้ย่อมต้องพยายามซ้ำเติมและปลุกปั่นเป็นแน่
ในตอนนั้นเอง หมอก็รุดมาถึงทันเวลาพอดี
หลังจากที่หมอตรวจอาการของพ่อค้าชาแล้ว ก็แก้หน้าให้หอจุ้ยเซียน “เป็นโรคที่ตับและถุงน้ำดี ไม่ได้กินจนท้องเสีย! บุรุษพวกนี้ ความรู้สู้แม่นางน้อยคนนี้ไม่ได้เลยสักนิด!”
การคาดคะเนของอวี๋หวั่นแม่นยำยิ่งนัก มิเช่นนั้นพ่อค้าชาผู้นี้คงจะหมดสติเพราะเจ็บปวด ฝูงชนต่างกล่าวชื่นชมเธอ พ่อค้าชาขอบคุณเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“ไม่ยักดูออก” นายท่านฉินมองไปยังอวี๋หวั่น “แม่นางอวี๋ช่างเป็นคมในฝัก”
อวี๋หวั่นยิ้ม แต่ไม่ได้กล่าวอะไร เธอรู้สึกกระดากใจที่จะบอกเขาว่านี่เป็นครั้งแรกที่ตนรักษาคน
พ่อค้าชาและหมอกลับไปพร้อมกัน เหตุการณ์ก็จบลงด้วยประการฉะนี้
……
ณ ศาลาซงฮวา นอกเมืองหลวง
เยี่ยนไหวจิ่งได้พบกับผู้รอบรู้ผู้เป็นที่กล่าวขาน
ผู้รอบรู้แต่งกายประหนึ่งกับบัณฑิต ดูแล้วคล้ายกับเด็กหนุ่มอายุยี่สิบต้นๆ แต่เยี่ยนไหวจิ่งรู้ว่านี่ไม่ใช่รูปร่างหน้าตาที่แท้จริงของเขา ผู้รอบรู้ไม่อาจเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงของตน อีกทั้งยังต้องเปลี่ยนหน้าไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้น อีกชื่อเรียกหนึ่งของเขาในแถบเจียงหูก็คือ ‘ผู้รอบรู้ร้อยหน้า’
จวินฉางอันยืนพิงเสาเงียบๆ คอยอารักขาทั้งสองคน
ผู้รอบรู้และเยี่ยนไหวจิ่งนั่งฝั่งตรงข้ามกับที่โต๊ะหินในศาลา บนโต๊ะมีสุราชั้นเลิศและขนม เยี่ยนไหวจิ่งเป็นองค์ชาย ย่อมไม่จำเป็นต้องลดฐานะของตนเพื่อชาวเจียงหู
ผู้รอบรู้ยิ้ม แล้วรินสุราให้เยี่ยนไหวจิ่งด้วยตนเอง “องค์ชายรอง เชิญ”
เยี่ยนไหวจิ่งเข้าประเด็นทันที “วันนี้ข้ามาหาท่าน มีสองเรื่องใคร่อยากปรึกษาสักหน่อย”
ผู้รอบรู้หัวเราะ พร้อมกับกล่าวว่า “ข้าคงยังมิได้บอกองค์ชาย ผู้รอบรู้สามารถตอบได้เพียงคำถามเดียว อีกทั้งคำถามแต่ละข้อยังตอบได้เพียงครั้งเดียว หากองค์ชายถามข้ามาแล้วหนึ่งคำถาม และข้าให้คำตอบไปแล้ว ต่อให้ผู้อื่นมาถามแทน ข้าก็ไม่อาจตอบได้”
เยี่ยนไหวจิ่งขมวดคิ้ว
เขาอยากถามว่าโจวไหวอยู่ที่ใด และก็อยากสืบข่าวคราวของแม่นางผู้นั้น
ผู้รอบรู้เทสุราให้ตนเองหนึ่งจอก ยกขึ้นจิบอย่างละเมียดละไม “สุราในวังรสชาติดีเหลือเกิน น่าเสียดายที่ไม่แรงเท่าสุราของเจียงหู…องค์ชายตัดสินใจได้แล้วหรือยัง?”
เยี่ยนไหวจิ่งกำมือแน่น ดวงตาเป็นประกายเปี่ยมความหวัง “ข้าอยากรู้ว่า สตรีที่ช่วยข้าเอาไว้ที่สวี่โจวเมื่อสองปีก่อน บัดนี้อยู่ที่ใด?”
ผู้รอบรู้หัวเราะด้วยความปีติยินดี เขายื่นมือออกมา “เห็ดหลินจือโลหิตหนึ่งต้น”
เห็ดหลินจือโลหิตเป็นสมุนไพรวิเศษที่ใช้สำหรับรักษาบาดแผล ใต้หล้าหาได้ยากยิ่ง บังเอิญว่าที่จวนองค์ชายรองมีอยู่หนึ่งต้น แม้ว่าราคาจะสูงลิบ แต่ก็มิใช่ว่าเยี่ยนไหวจิ่งจะจ่ายไม่ไหว
เยี่ยนไหวจิ่งเอ่ยขึ้นว่า “ฉางอัน เจ้ากลับจวนไปเอาเห็ดหลินจือโลหิตมา”
จวินฉางอันลังเลครู่หนึ่ง “องค์ชาย…”
เยี่ยนไหวจิ่งกล่าวว่า “เห็ดหลินจือโลหิตต้นนั้นเก็บไว้ที่ข้าก็ไม่ได้ใช้ ให้ผู้รอบรู้ไปเถิด”
จวินฉางอันมองผู้รอบรู้ด้วยสีหน้าซับซ้อน ตอบรับและออกไป
จวินฉางอันคลื่อนไหวได้รวดเร็ว ในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยาม ก็นำเห็ดหลินจือโลหิตมาวางบนโต๊ะแล้ว
ผู้รอบรู้ยกยิ้มมุมปาก กล่าวกับเยี่ยนไหวจิ่งว่า “ผู้ที่องค์ชายถามถึง อยู่ไกลสุดขอบฟ้า อยู่ใกล้ที่เบื้องหน้า พบพานแต่ไม่รู้จัก รู้จักแต่มิอาจจดจำได้”
เยี่ยนไหวจิ่งนัยน์ตากระตุกวูบหนึ่ง “เป็นนาง!”
ผู้รอบรู้ยิ้มพลางเอ่ยขึ้นว่า “ดูแล้วองค์ชายน่าจะรู้คำตอบดี เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน”
เยี่ยนไหวจิ่งรู้สึกประหนึ่งหัวใจของตนถูกกระแทกเข้าอย่างแรง “เป็นนางไปได้อย่างไร…เห็นชัดๆ ว่าตอนนั้นนางตั้งครรภ์ ใกล้คลอดแล้ว…ลูกของนางเล่า? ลูกของนางไปไหน?!”
ใบหน้าของผู้รอบรู้ยังคงประทับรอยยิ้มดังเดิม “นั่นเป็นคำถามที่สอง”
ผู้รอบรู้ลุกขึ้นยืนอย่างไม่รีบร้อน ยกมือขึ้นคำนับเยี่ยนไหวจิ่ง “ขอตัว หวังว่าจะมีโอกาสได้พบกันอีก”
พูดจบ ก็หยิบเห็ดหลินจือโลหิตเดินจากไป
“องค์ชาย ท่านไม่ควรให้เห็ดหลินจือโลหิตเขา ผู้รอบรู้เจ้าเล่ห์เพทุบาย ผู้ใดต้องการคำตอบจากเขา ย่อมต้องจ่ายด้วยราคาซึ่งยากจะยอมรับได้ เห็ดหลินจือโลหิตต้นนั้น ไม่แน่ว่าองค์ชายอาจจะได้ใช้…”
เยี่ยนไหวจิ่งกลับมิได้ใส่ใจคำพูดของจวินฉางอัน เขากำลังวนเวียนอยู่ในความตกใจ “เป็นนาง…ฉางอัน…เป็นนางจริงๆ…”
“ใช่ เป็นแม่นางอวี๋” ดูจากปฏิกิริยาของเยี่ยนไหวจิ่ง จวินฉางอันย่อมเดาออก เป็นเพราะเขามิได้สนใจ จึงไม่ได้รู้สึกตกใจเท่าไรนัก จวินฉางอันกล่าวด้วยน้ำเสียงปกติว่า “องค์ชายยังอยากพบมามาท่านนั้นหรือไม่?”
เพื่อที่จะยืนยันว่าอวี๋หวั่นเป็นสตรีผู้นั้นที่ตั้งครรภ์จริงหรือไม่ เยี่ยนไหวจิ่งให้จวินฉางอันไปตามหานางกำนัลชราซึ่งทำคลอดให้เหล่าสนม นางมีสายตาเฉียบแหลบ มองปราดเดียวก็จดจำได้ว่านางเคยดูแลสตรีผู้นั้นหรือไม่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]