หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] นิยาย บท 356

“ส่งตัวฮูหยินมา” บุรุษชุดดำกล่าว

ซิวหลัวไม่ขยับ

บุรุษชุดดำกล่าวอย่างเย็นชา “ข้าจะพูดอีกครั้ง ส่งสตรีผู้นั้นออกมา”

เผ่าปีศาจก็มีซิวหลัว บุรุษชุดดำไม่แน่ใจว่านี่คือคนที่หลบหนีออกไปเมื่อไม่นานมานี้หรือไม่ มีเพียงซิวหลัวเท่านั้นที่สามารถฆ่าซิวหลัวได้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะจัดการกับซิวหลัวไม่ได้

บุรุษชุดดำโน้มน้าว “ข้าไม่สนใจซิวหลัว และไม่ต้องการที่จะจับเจ้า ส่งสตรีผู้นั้นออกมาแล้วข้าจะปล่อยเจ้าไป”

ซิวหลัวไม่ส่ง

“ในเมื่อไม่ชอบดื่มจิ้งจิ่วก็ดื่มฝาจิ่วแทนแล้วกัน[1]!” บุรุษชุดดำหยิบแส้ซิวหลัวออกมาแล้วฟาดซิวหลัวอย่างดุเดือดราวกับสัตว์ร้าย

ทุกครั้งที่ถูกฟาด ราวกับมีหัวแร้งบัดกรีวิ่งไปทั่วร่างของซิวหลัว

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ต้นจนจบซิวหลัวไม่ยอมปล่อยมือ

ทุกคนต่างประหลาดใจ เขาไม่เคยเห็นซิวหลัวที่แข็งแกร่งขนาดนี้ ถูกคลุมตาข่ายซิวหลัว ทั้งยังต้องทนทุกข์ทรมานมากมายถึงเพียงนี้ ไม่น่าทนไหวมานานแล้ว แต่เขากลับยังกัดฟันแน่น

บุรุษชุดดำหมดแรงเหวี่ยงแส้ในมือ จึงกล่าวอย่างเย็นชา “พอแล้ว เอาไปด้วยกันหมดนี่ละ!”

“ขอรับ!”

ทูตดำสี่คนลากอวนขนาดใหญ่และดันทั้งสองเข้าไปในรถม้าด้วยกัน

ชีสยาย่วน อาม่ากำลังตวัดมือเขียนหนังสืออยู่ภายในห้อง ทันใดนั้น กระดองเต่าทำนายชะตาที่วางอยู่ข้างจานฝนหมึกแตกออก มือของอาม่าหยุดชะงัก มองไปที่ประตูด้วยสีหน้าซับซ้อน

ปัง!

ประตูถูกอิ่งสือซันเตะเปิด

เยี่ยนจิ่วเฉาสาวเท้ากว้างเดินเข้ามา

“อาม่า!”

ชิงเหยียนกับเยว่โกวก็รีบตามเข้ามาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย อิ่งสือซันกับอิ่งลิ่วก็ชักดาบพาดบนคอของทั้งสอง

เยี่ยนจิ่วเฉาโยนขวดนมเล็กในมือลงบนโต๊ะของอาม่า

นี่คือขวดนมของซิวหลัว

ซิวหลัวพาอวี๋หวั่นออกไป

สองคนหายไปเนิ่นนานไม่กลับ เยี่ยนจิ่วเฉาให้อิ่งลิ่วและอิ่งสือซันออกไปตามหา ทั้งสองได้ยินว่าอวี๋หวั่นไปที่สำนักราชครู ใกล้กับสำนักราชครูพบขวดนมขนาดเล็กตกอยู่บนพื้น

นี่เป็นสิ่งที่ซิวหลัวหวงแหนมากที่สุด เป็นไปไม่ได้ที่จะเขาทิ้งมันไว้บนถนนตามใจชอบ

ความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวคือ เกิดเรื่องขึ้นกับซิวหลัวและอวี๋หวั่น

บริเวณที่พบขวดนม ยังพบกระดิ่งทองแดงที่ทำตกไว้โดยไม่ได้ตั้งใจ

กระดิ่งทองแดงนี้ อิ่งสือซันเคยเห็นมันอยู่ในมือของอาม่า ซึ่งนำมาใช้ขับไล่ซิวหลัว

หากไม่ใช่อาม่าเคยไปที่นั่น อาม่าก็ต้องมีความเกี่ยวข้องบางอย่างกับคนที่พาอวี๋หวั่นและซิวหลัวไป

“พวกเจ้าเป็นใครกันแน่?” เยี่ยนจิ่วเฉาถามด้วยสีหน้าเย็นชา

ตอนนี้ตัวตนของพวกเขาไม่สามารถปกปิดได้อีกต่อไป

อาม่าหยุดชะงัก วางปากกาลงและพูดว่า “ข้าเป็นนักบวชเผ่าปีศาจ พวกเขาทั้งสามคนเป็นทูตของเผ่าปีศาจ แต่เดิมเราได้รับคำสั่งจากราชาให้มาจับกุมตี้จีองค์โตกลับไปยังเผ่า”

ทันใดนั้นดาบของอิ่งสือซันก็เข้าไปใกล้คอของชิงเหยียนทีละนิ้ว!

ชิงเหยียนรู้สึกถึงความเย็นจากใบมีด เรียวคิ้วพลันขมวดมุ่น

“พวกเราได้ยินเกี่ยวกับเบาะแสของตี้จี ว่าอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ใกล้กับเมืองจิงเฉิงในต้าโจว พวกเราจึงอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเหลียนฮวา ก็เพื่อหาโอกาสพาตี้จีกลับไป แต่ตี้จีช่าง…” ช่างอะไร อาม่าไม่ได้เอ่ย เพียงแต่กล่าวว่า “พวกเราจับนางไม่ได้ จึงคิดหาวิธีอื่น”

เรื่องทำงานเสริมหาเงินกลับบ้าน อาม่าเลือกที่จะลืมมันไป อย่างไรเสียก็น่าละอายเกินกว่าจะมีหน้ากลับไปเป็นนักบวชของเผ่าแล้ว

อาม่ากล่าวต่อ “การหายาให้พวกเจ้า ก็เพียงเพื่อให้ได้รับความไว้วางใจ หลอกลวงพวกเจ้าเข้าไปยังเผ่าปีศาจ”

อิ่งลิ่วฟังเช่นนั้นก็โกรธจัด “พวกเจ้ามันเลว! เสียแรงที่คุณชายกับพระชายาซื่อจื่อเชื่อใจเจ้าถึงเพียงนี้! พวกเจ้ากลับมีแผนเช่นนี้มาตั้งแต่แรก!”

ชิงเหยียนและเยว่โกวก้มหน้าลง

อาม่าไม่เอ่ยสิ่งใด

เยี่ยนจิ่วเฉาโยนกระดิ่งทองแดงลงบนโต๊ะ “คนกลุ่มนั้นคือใคร?”

อาม่าหยิบกระดิ่งทองแดงขึ้นมาดูและพูดว่า “เหมือนกับพวกเรา เป็นทูตของเผ่าปีศาจ แต่พวกเราเป็นทูตขาว พวกเขาเป็นทูตดำ”

อิ่งลิ่วถามอย่างงวยงง “สิ่งใดคือทูตขาวทูตดำ?”

ชิงเหยียนอธิบายว่า “ทูตขาวเป็นผู้ทำภารกิจ แต่เมื่อภารกิจล้มเหลวทูตดำจะถูกส่งไปสังหารทูตขาว”

ภารกิจล้มเหลว?

อิ่งลิ่วเป็นใบ้ในทันที

อิ่งลิ่วกล่าว “การตัดสินใจของคุณชาย ไม่มีผู้ใดเปลี่ยนใจเขาได้!”

“อาม่า…” ชิงเหยียนมองไปที่อาม่าอีกครั้ง

อาม่ากล่าวว่า “เจ้าเพิ่งรู้จักเขาเป็นวันแรกหรือ?”

ชิงเหยียนอึกอัก

หลังจากอยู่ด้วยกันมานาน เขาจะไม่รู้จักนิสัยใจคอของเยี่ยนจิ่วเฉาได้อย่างไร? บุรุษผู้นี้ไม่กลัวตาย แม้เป็นภูเขาดาบทะเลเพลิงไม่มีที่ใดที่เขาไม่กล้าบุกเข้าไป ขอเพียงเขาตัดสินใจแล้ว ต่อให้ม้าแปดตัวดึงก็ฉุดไม่อยู่

เดิมทีคิดจะอยู่ที่หนานจ้าวอีกสองสามวัน แต่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้แล้ว

หลายคนเก็บข้าวของในชั่วข้ามคืน

เยี่ยนจิ่วเฉาไม่ได้ไปอำลาคนที่จวนเห้อเหลียน เพียงแค่ทิ้งจดหมายไว้สองสามฉบับ

ขณะผ่านเรือนของฮูหยินผู้เฒ่าก็ได้ยินเสียงของฮูหยินผู้เฒ่าพูดคุยปนหัวร่อกับนางถาน

เขายืนอยู่ที่ประตูมองเข้าไปข้างในอย่างเงียบๆ

รูปลักษณ์ของฮูหยินผู้เฒ่า เขาไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนอีกต่อไป

แต่เสียงนั้นยังจำได้ดี

“หลานย่า!” ฮูหยินผู้เฒ่ามองเห็นเยี่ยนจิ่วเฉาและโบกมือให้เขา

เยี่ยนจิ่วเฉาสีหน้าเรียบเฉยเดินเข้าไป

ฮูหยินผู้เฒ่าจับมือของเยี่ยนจิ่วเฉา “ดึกเช่นนี้ยังไม่นอนอีกหรือ? สะใภ้ข้าเล่า? วันนี้ข้าไม่เห็นนางเลยทั้งวัน!”

ถึงจะน่าเกลียด แต่ไม่ได้เจอทั้งวัน ก็รู้สึกคิดถึงยิ่งนัก

เยี่ยนจิ่วเฉากล่าวว่า “นางออกไปแล้ว ข้าจะไปรับนางกลับมา”

“อื้ม” ฮูหยินผู้เฒ่าพยักหน้าอย่างจริงจัง “เจ้าต้องพานางกลับมานะ! ข้ายังคงรอให้นางให้กำเนิดเหลนสาวให้ข้าอีกสักคน!”

“ขอรับ” เยี่ยนจิ่วเฉากล่าว

…………………………………………

[1] ไม่ชอบดื่มจิ้งจิ่วก็ดื่มฝาจิ่ว หมายถึง เมื่อเจรจาดีๆ ไม่ยอมทำตาม ก็คงต้องใช้กำลังบังคับ

จิ้งจิ่ว เหล้าที่ใช้ดื่มอวยพรแสดงความยินดี

ฝาจิ่ว เหล้าที่ให้ดื่มเมื่อถูกปรับแพ้หรือถูกลงโทษ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]