“ส่งตัวฮูหยินมา” บุรุษชุดดำกล่าว
ซิวหลัวไม่ขยับ
บุรุษชุดดำกล่าวอย่างเย็นชา “ข้าจะพูดอีกครั้ง ส่งสตรีผู้นั้นออกมา”
เผ่าปีศาจก็มีซิวหลัว บุรุษชุดดำไม่แน่ใจว่านี่คือคนที่หลบหนีออกไปเมื่อไม่นานมานี้หรือไม่ มีเพียงซิวหลัวเท่านั้นที่สามารถฆ่าซิวหลัวได้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะจัดการกับซิวหลัวไม่ได้
บุรุษชุดดำโน้มน้าว “ข้าไม่สนใจซิวหลัว และไม่ต้องการที่จะจับเจ้า ส่งสตรีผู้นั้นออกมาแล้วข้าจะปล่อยเจ้าไป”
ซิวหลัวไม่ส่ง
“ในเมื่อไม่ชอบดื่มจิ้งจิ่วก็ดื่มฝาจิ่วแทนแล้วกัน[1]!” บุรุษชุดดำหยิบแส้ซิวหลัวออกมาแล้วฟาดซิวหลัวอย่างดุเดือดราวกับสัตว์ร้าย
ทุกครั้งที่ถูกฟาด ราวกับมีหัวแร้งบัดกรีวิ่งไปทั่วร่างของซิวหลัว
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ต้นจนจบซิวหลัวไม่ยอมปล่อยมือ
ทุกคนต่างประหลาดใจ เขาไม่เคยเห็นซิวหลัวที่แข็งแกร่งขนาดนี้ ถูกคลุมตาข่ายซิวหลัว ทั้งยังต้องทนทุกข์ทรมานมากมายถึงเพียงนี้ ไม่น่าทนไหวมานานแล้ว แต่เขากลับยังกัดฟันแน่น
บุรุษชุดดำหมดแรงเหวี่ยงแส้ในมือ จึงกล่าวอย่างเย็นชา “พอแล้ว เอาไปด้วยกันหมดนี่ละ!”
“ขอรับ!”
ทูตดำสี่คนลากอวนขนาดใหญ่และดันทั้งสองเข้าไปในรถม้าด้วยกัน
…
ชีสยาย่วน อาม่ากำลังตวัดมือเขียนหนังสืออยู่ภายในห้อง ทันใดนั้น กระดองเต่าทำนายชะตาที่วางอยู่ข้างจานฝนหมึกแตกออก มือของอาม่าหยุดชะงัก มองไปที่ประตูด้วยสีหน้าซับซ้อน
ปัง!
ประตูถูกอิ่งสือซันเตะเปิด
เยี่ยนจิ่วเฉาสาวเท้ากว้างเดินเข้ามา
“อาม่า!”
ชิงเหยียนกับเยว่โกวก็รีบตามเข้ามาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย อิ่งสือซันกับอิ่งลิ่วก็ชักดาบพาดบนคอของทั้งสอง
เยี่ยนจิ่วเฉาโยนขวดนมเล็กในมือลงบนโต๊ะของอาม่า
นี่คือขวดนมของซิวหลัว
ซิวหลัวพาอวี๋หวั่นออกไป
สองคนหายไปเนิ่นนานไม่กลับ เยี่ยนจิ่วเฉาให้อิ่งลิ่วและอิ่งสือซันออกไปตามหา ทั้งสองได้ยินว่าอวี๋หวั่นไปที่สำนักราชครู ใกล้กับสำนักราชครูพบขวดนมขนาดเล็กตกอยู่บนพื้น
นี่เป็นสิ่งที่ซิวหลัวหวงแหนมากที่สุด เป็นไปไม่ได้ที่จะเขาทิ้งมันไว้บนถนนตามใจชอบ
ความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวคือ เกิดเรื่องขึ้นกับซิวหลัวและอวี๋หวั่น
บริเวณที่พบขวดนม ยังพบกระดิ่งทองแดงที่ทำตกไว้โดยไม่ได้ตั้งใจ
กระดิ่งทองแดงนี้ อิ่งสือซันเคยเห็นมันอยู่ในมือของอาม่า ซึ่งนำมาใช้ขับไล่ซิวหลัว
หากไม่ใช่อาม่าเคยไปที่นั่น อาม่าก็ต้องมีความเกี่ยวข้องบางอย่างกับคนที่พาอวี๋หวั่นและซิวหลัวไป
“พวกเจ้าเป็นใครกันแน่?” เยี่ยนจิ่วเฉาถามด้วยสีหน้าเย็นชา
ตอนนี้ตัวตนของพวกเขาไม่สามารถปกปิดได้อีกต่อไป
อาม่าหยุดชะงัก วางปากกาลงและพูดว่า “ข้าเป็นนักบวชเผ่าปีศาจ พวกเขาทั้งสามคนเป็นทูตของเผ่าปีศาจ แต่เดิมเราได้รับคำสั่งจากราชาให้มาจับกุมตี้จีองค์โตกลับไปยังเผ่า”
ทันใดนั้นดาบของอิ่งสือซันก็เข้าไปใกล้คอของชิงเหยียนทีละนิ้ว!
ชิงเหยียนรู้สึกถึงความเย็นจากใบมีด เรียวคิ้วพลันขมวดมุ่น
“พวกเราได้ยินเกี่ยวกับเบาะแสของตี้จี ว่าอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ใกล้กับเมืองจิงเฉิงในต้าโจว พวกเราจึงอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเหลียนฮวา ก็เพื่อหาโอกาสพาตี้จีกลับไป แต่ตี้จีช่าง…” ช่างอะไร อาม่าไม่ได้เอ่ย เพียงแต่กล่าวว่า “พวกเราจับนางไม่ได้ จึงคิดหาวิธีอื่น”
เรื่องทำงานเสริมหาเงินกลับบ้าน อาม่าเลือกที่จะลืมมันไป อย่างไรเสียก็น่าละอายเกินกว่าจะมีหน้ากลับไปเป็นนักบวชของเผ่าแล้ว
อาม่ากล่าวต่อ “การหายาให้พวกเจ้า ก็เพียงเพื่อให้ได้รับความไว้วางใจ หลอกลวงพวกเจ้าเข้าไปยังเผ่าปีศาจ”
อิ่งลิ่วฟังเช่นนั้นก็โกรธจัด “พวกเจ้ามันเลว! เสียแรงที่คุณชายกับพระชายาซื่อจื่อเชื่อใจเจ้าถึงเพียงนี้! พวกเจ้ากลับมีแผนเช่นนี้มาตั้งแต่แรก!”
ชิงเหยียนและเยว่โกวก้มหน้าลง
อาม่าไม่เอ่ยสิ่งใด
เยี่ยนจิ่วเฉาโยนกระดิ่งทองแดงลงบนโต๊ะ “คนกลุ่มนั้นคือใคร?”
อาม่าหยิบกระดิ่งทองแดงขึ้นมาดูและพูดว่า “เหมือนกับพวกเรา เป็นทูตของเผ่าปีศาจ แต่พวกเราเป็นทูตขาว พวกเขาเป็นทูตดำ”
อิ่งลิ่วถามอย่างงวยงง “สิ่งใดคือทูตขาวทูตดำ?”
ชิงเหยียนอธิบายว่า “ทูตขาวเป็นผู้ทำภารกิจ แต่เมื่อภารกิจล้มเหลวทูตดำจะถูกส่งไปสังหารทูตขาว”
ภารกิจล้มเหลว?
อิ่งลิ่วเป็นใบ้ในทันที
อิ่งลิ่วกล่าว “การตัดสินใจของคุณชาย ไม่มีผู้ใดเปลี่ยนใจเขาได้!”
“อาม่า…” ชิงเหยียนมองไปที่อาม่าอีกครั้ง
อาม่ากล่าวว่า “เจ้าเพิ่งรู้จักเขาเป็นวันแรกหรือ?”
ชิงเหยียนอึกอัก
หลังจากอยู่ด้วยกันมานาน เขาจะไม่รู้จักนิสัยใจคอของเยี่ยนจิ่วเฉาได้อย่างไร? บุรุษผู้นี้ไม่กลัวตาย แม้เป็นภูเขาดาบทะเลเพลิงไม่มีที่ใดที่เขาไม่กล้าบุกเข้าไป ขอเพียงเขาตัดสินใจแล้ว ต่อให้ม้าแปดตัวดึงก็ฉุดไม่อยู่
เดิมทีคิดจะอยู่ที่หนานจ้าวอีกสองสามวัน แต่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้แล้ว
หลายคนเก็บข้าวของในชั่วข้ามคืน
เยี่ยนจิ่วเฉาไม่ได้ไปอำลาคนที่จวนเห้อเหลียน เพียงแค่ทิ้งจดหมายไว้สองสามฉบับ
ขณะผ่านเรือนของฮูหยินผู้เฒ่าก็ได้ยินเสียงของฮูหยินผู้เฒ่าพูดคุยปนหัวร่อกับนางถาน
เขายืนอยู่ที่ประตูมองเข้าไปข้างในอย่างเงียบๆ
รูปลักษณ์ของฮูหยินผู้เฒ่า เขาไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนอีกต่อไป
แต่เสียงนั้นยังจำได้ดี
“หลานย่า!” ฮูหยินผู้เฒ่ามองเห็นเยี่ยนจิ่วเฉาและโบกมือให้เขา
เยี่ยนจิ่วเฉาสีหน้าเรียบเฉยเดินเข้าไป
ฮูหยินผู้เฒ่าจับมือของเยี่ยนจิ่วเฉา “ดึกเช่นนี้ยังไม่นอนอีกหรือ? สะใภ้ข้าเล่า? วันนี้ข้าไม่เห็นนางเลยทั้งวัน!”
ถึงจะน่าเกลียด แต่ไม่ได้เจอทั้งวัน ก็รู้สึกคิดถึงยิ่งนัก
เยี่ยนจิ่วเฉากล่าวว่า “นางออกไปแล้ว ข้าจะไปรับนางกลับมา”
“อื้ม” ฮูหยินผู้เฒ่าพยักหน้าอย่างจริงจัง “เจ้าต้องพานางกลับมานะ! ข้ายังคงรอให้นางให้กำเนิดเหลนสาวให้ข้าอีกสักคน!”
“ขอรับ” เยี่ยนจิ่วเฉากล่าว
…………………………………………
[1] ไม่ชอบดื่มจิ้งจิ่วก็ดื่มฝาจิ่ว หมายถึง เมื่อเจรจาดีๆ ไม่ยอมทำตาม ก็คงต้องใช้กำลังบังคับ
จิ้งจิ่ว เหล้าที่ใช้ดื่มอวยพรแสดงความยินดี
ฝาจิ่ว เหล้าที่ให้ดื่มเมื่อถูกปรับแพ้หรือถูกลงโทษ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]