หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] นิยาย บท 372

ตั้งแต่เข้าไปฝึกวรยุทธ์ในเขตหวงห้าม นิสัยของอ๋องแห่งเผ่าปีศาจนับวันก็ยิ่งแปรเปลี่ยนเป็นก้าวร้าวรุนแรง แม้ว่าจะมิได้สังหารคนไม่เลือกหน้าเฉกเช่นซิวหลัว แต่เมื่อตกอยู่ในเงื้อมมือของเขา ก็ไม่ได้มีจุดจบที่ดีกว่าอยู่ในเงื้อมมือของซิวหลัวเท่าไรนัก

เขาอยากจัดการฮูหยินด้วยตนเอง ไม่ต้องบอกก็จินตนาการได้ว่าจุดจบของฮูหยินจะอเนจอนาถเพียงใด

ฉิวอู๋หยาไม่ได้รู้สึกเห็นอกเห็นใจฮูหยินเท่าไรนัก กระนั้นเขาก็มิได้เกลียดนาง เพียงแต่ว่าในเมื่อฮูหยินเป็นคนที่ศิษย์พี่พยายามปกป้อง เขาก็ย่อมยินดีที่จะมองดูกระดูกของนางถูกป่นเป็นผุยผง

ใครให้เขาอยู่ภายใต้เงาของศิษย์พี่มาครึ่งค่อนชีวิตเล่า? ลูกพี่ลูกน้องของเขาเป็นเด็กฉลาดเฉลียวรูู้ความ ได้รับความรักความเอ็นดูจากผู้ใหญ่ หลังจากกราบอาจารย์ ลูกพี่ลูกน้องก็กลายมาเป็นศิษย์พี่คนนี้ของเขา อีกทั้งยังกลายเป็นศิษย์คนโปรดของอาจารย์อีกด้วย

รู้ทั้งรู้ว่าเขามีพรสวรรค์มากกว่า แต่อาจารย์กลับลำเอียง ดื้อดึงไม่ยอมให้เขาเป็นผู้สืบทอดวิชา

บัดนี้เจ้าแก่นั่นตายไปแล้ว ไม่ทันได้เห็นศิษย์พี่ในสภาพอดสู มิเช่นนั้นเขาก็จะแสดงฝีมือให้เจ้าแก่นั่นดูสักหน่อย จะได้รู้ว่าใครกันแน่ที่ตาบอด!

ฉิวอู๋หยารู้สึกกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจ ทว่าไม่กล้าแสดงสีหน้าออกมา เขายังคงคุกเข่าอยู่ที่พื้น หน้าผากจรดพื้นเย็นเฉียบ เขากล่าวด้วยความจริงใจว่า “ท่านอ๋อง ยาในวันนี้ของท่านสกัดสำเร็จแล้ว ข้าปรับปรุงตำรับยา ทำให้รสชาติของยาเปลี่ยนไปจากเดิม ฤทธิ์ของยาดีขึ้นเป็นเท่าตัว ไม่เพียงช่วยรักษารูปโฉมของท่าน แต่ยังทำให้วรยุทธ์ของท่านแข็งแกร่งขึ้นด้วย”

บุรุษซึ่งนั่งอยู่บนบัลลังก์กดจิตสังหารที่ปลายนิ้วเอาไว้

ฉิวอู๋หยารู้ในทันใดว่าชีวิตน้อยๆ ของเขาจะยังอยู่รอดปลอดภัย กระนั้นก็ไม่กล้าอยู่ที่นี่นาน จึงรีบพูดขึ้นว่า “ข้าจะไปเตรียมก่อน อีกสักครู่จะให้คนนำยามาให้ท่านอ๋อง”

บุรุษซึ่งนั่งอยู่บนบัลลังก์สะบัดแขนเสื้อเล็กน้อย

ฉิวอู๋หยาโขกศีรษะคำนับ แล้วถอยออกไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อกลับไปถึงห้อง เขาก็มองไปยังยาเม็ดในหม้อ จากนั้นก็เรียกเด็กหยิบยามา และให้เขานำยาไปให้ท่านอ๋อง

……

อีกด้านหนึ่ง เยี่ยนจิ่วเฉา อวี๋หวั่น และคนอื่นๆ ก็เดินทางออกจากเขตหวงห้าม มาถึงเรือนร้างหลังคามุงด้วยหญ้า

หลังหนึ่ง

เดิมทีเรือนหลังนี้เป็นโรงเก็บฟืนสำหรับฤดูหนาว ภายหลังมีการสร้างโรงเก็บของหลังใหม่ห่างออกไปสามหลี่ ที่นี่จึงถูกปล่อยร้าง

เขตหวงห้ามของเผ่าปีศาจนั้นกว้างใหญ่ โดยรอบมีอะไรอยู่บ้างพวกเขาไม่ได้เดินสำรวจอย่างละเอียด อิ่งลิ่ววาดแผนที่ขึ้นมาแผ่นหนึ่งจากคำบอกเล่าของอาโต้ว

“ตรงนี้เป็นเขตหวงห้ามทั้งหมด พวกเราอยู่ทิศเหนือของเขตหวงห้าม หากเดินไปทางตะวันตกประมาณยี่สิบหลี่ก็จะเป็นทิวเขาที่มีวังหลวงตั้งอยู่ จากที่อาโต้วบอก วังหลวงมีกองกำลังอารักขาอย่างแน่นหนา พวกเราเข้าไปเช่นนี้ไม่ได้ จำต้องอ้อมด้านหลังทิวเขาแล้วลอบเข้าไป แต่วิธีนี้ก็อาจทำให้ถูกพบได้ง่าย”

อิ่งลิ่วกล่าวด้วยสีหน้าลำบากใจ “เมื่อเป็นเช่นนี้ เห็นทีความหวังที่จะช่วยพวกเขาออกมาก็คงมีไม่มาก”

“ไม่ได้มีซิวหลัวแล้วหรอกหรือ?” ชุยเฒ่าถามพลางแทะหัวผักกาด

อิ่งสือซันตอบว่า “ซิวหลัวจะอยู่ปกป้องฮูหยินน้อยที่นี่”

อวี๋หวั่นกำลังตั้งครรภ์ ไม่มีผู้ใดยินยอมให้เธอไปเสี่ยงอันตราย ช่วยคนนั้นสำคัญ แต่ความปลอดภัยของตัวเธอและเด็กในท้องก็มีความสำคัญไม่ต่างกัน ถ้าหากราคาของการช่วยคนอื่นคือชีวิตของอวี๋หวั่นและลูกในท้อง เชื่อว่าอาม่าและพวกอาเว่ยก็ไม่เห็นด้วยเช่นกัน

“ยังมีทางอื่นอีกไหม?” เยี่ยนจิ่วเฉาถามอาโต้ว

อาโต้วครุ่นคิดอย่างหนัก เขาเคยไปมาหลายที่ก็จริง แต่น่าเสียดายที่เขาจากเผ่ามานานนับสิบปี บางเรื่องเขาก็จำไม่ได้แล้ว

อิ่งสือซันมีสีหน้ามุ่งมั่น “ถ้าหากไม่มีวิธีอื่น พวกเราก็ต้องเดิมพันกับการเดินอ้อมด้านหลังเขาแล้ว”

“หลังเขา? อ๋า!” อาโต้วตบเข่าฉาด “ข้านึกออกแล้ว ในเขตหวงห้ามมีเส้นทางหนึ่งที่มุ่งตรงไปยังวังหลวง! เพียงแต่…”

“เพียงแต่อะไร?” อิ่งลิ่วถาม

อาโต้วกล่าวด้วยสีหน้าลำบากใจว่า “ทางนั้นเป็นเส้นทางที่นักบวชใช้ได้แต่เพียงผู้เดียว ทุกครั้งที่ประตูเปิดออกก็จะมีสัญลักษณ์รูปร่างประหลาดมากมาย…”

เขาอธิบายไปได้เพียงครึ่งเดียว ทุกคนก็เข้าใจได้ทันที ฉีเหมินตุ้นเจี่ย[1] ธาตุทั้งห้าทิศทั้งแปด[2] เรื่องพวกนี้ไม่ใช่งานถนัดของหน่วยกล้าตาย

“ข้าจะไปดูสักหน่อย” เยี่ยนจิ่วเฉาบอก

“คุณชาย” อิ่งสือซันมองไปยังเยี่ยนจิ่วเฉาด้วยความเป็นห่วง จากนั้นสายตาก็หลุบลงทันใด “ท่าน…”

“ข้าไม่เป็นไร” เยี่ยนจิ่วเฉาบอก

“แต่ข้าว่าท่านเป็น” อวี๋หวั่นรู้สึกว่าสีหน้าของทั้งสองดูแปลกประหลาด

สายตาของเยี่ยนจิ่วเฉาเริ่มแย่ลง เขามักจะมองไม่เห็นในตอนกลางคืน จากนั้นก็มองไม่ชัดในตอนกลางวัน ขอเพียงเขาซ่อนตัวให้ดี และมีอิ่งสือซันคอยอารักขา ก็จะไม่มีผู้ใดสังเกตเห็น

“ข้าไม่เป็นไร” เยี่ยนจิ่วเฉาพูดซ้ำอีกครั้งโดยไม่เปิดโอกาสให้อวี๋หวั่นถามซักไซ้ จากนั้นก็หันไปหาซิวหลัวแล้วบอกว่า “เจ้าอยู่ดูอาหวั่นที่นี่ อย่าให้ใครพบได้”

ซิวหลัวพยักหน้าพร้อมกับทำตาโต

เมื่อเป็นเช่นนี้ อวี๋หวั่นจึงจำต้องกล้ำกลืนคำประโยคว่า ‘ข้าก็อยากไปด้วย’ ลงคอไป

เอาเถอะ เธอเองก็ท้องอยู่ อย่าไปสร้างภาระให้พวกเขาเลย

เยี่ยนจิ่วเฉามองไปยังอิ่งสือซันและคนอื่นๆ “เก็บของ เตรียมตัวออกเดินทาง อาโต้วเจ้านำทาง”

อาโต้วอ้าปากค้าง “ไม่ใช่สิ พวกเจ้าไม่ได้จะ…”

“ดาบ” อิ่งสือซันชี้ไปยังกล่องสัมภาระข้างเท้าของอาโต้ว

อาโต้วหยิบดาบใหญ่ออกมาและส่งให้เขา

อิ่งสือซันเก็บดาบไว้ข้างเอวของตน

อาโต้วพูดต่อ “อย่างน้อยก็ถาม…”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]