องค์ชายองค์หญิงในวังหลังจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร เยี่ยนจิ่วเฉาไม่เคยยื่นมือเข้าไปยุ่ง แต่องค์หญิงจิ่วถูกเสี่ยวเป่ามองเห็นและนำมาบอกเยี่ยนอ๋อง แม้ว่าจริงๆ แล้วเยี่ยนอ๋องจะไม่สะดวกไปจัดการเรื่องหลังบ้านของฮ่องเต้นัก แต่เสี่ยวเป่าเอ่ยปากแล้ว เขาจะทำอย่างไรได้? หากต่อไปเสี่ยวเป่าถามขึ้นมา จริงสิ ท่านปู่ พี่องค์หญิงท่านนั้นเป็นอย่างไรบ้าง? ยังมีคนชั่วรังแกนางอยู่หรือไม่?
เยี่ยนอ๋องจะตอบเช่นไร?
ขอโทษนะ ปู่ก็ไม่รู้เหมือนกัน?
แม้คำตอบเช่นนี้ของปู่ธรรมดาทั่วไปจะไม่ผิด แต่เยี่ยนอ๋องเป็นปู่ธรรมดาหรือ? เขาเป็นท่านปู่ที่คลั่งหลานหัวปักหัวปำ!
สำหรับหลานชายสุดที่รัก ไม่มีเรื่องใดไม่สำคัญ!
ในเมื่อเสี่ยวเป่าเอ่ยปาก แน่นอนว่าเขาต้องรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ถูกต้อง หลานชายคิดว่ามันไม่ถูก เยี่ยนอ๋องก็คิดว่ามันไม่ถูกเช่นกัน!
และเมื่อเยี่ยนอ๋องคิดว่ามันไม่ถูกต้อง เยี่ยนจิ่วเฉาก็ไม่อาจเพิกเฉยได้ เพราะอย่างไรเขาก็รักเยี่ยนอ๋องมาก
หลังจากกลับมาที่ห้อง อวี๋หวั่นได้พูดคุยกับเยี่ยนจิ่วเฉาเรื่ององค์หญิงจิ่ว
ยามอยู่ที่ตำหนักหวังจื่อ องค์หญิงจิ่วมีชีวิตที่ลำบาก แต่ในเวลานั้นผู้คนเพียงแค่เพิกเฉยต่อนาง หากกล่าวถึงการกลั่นแกล้งก็ยังไม่มีผู้ใดอาจหาญล่วงเกิน ยามที่ฮองเฮาพานางกลับไปตำหนักเฟิ่งชีครั้งนั้น ทุกคนต่างคิดว่าองค์หญิงจิ่วจะได้มีชีวิตที่รุ่งโรจน์สดใส ทว่ากลับไม่รู้เลยว่านางได้ตกลงไปในอีกขุมนรกหนึ่ง
เหตุใดชีวิตเด็กผู้นี้ถึงได้มีเวรมีกรรมเช่นนี้?
อาจเพราะยามที่บุตรชายยังเล็กก็เคยถูกคนรังแก เมื่ออวี๋หวั่นได้ยินเรื่องราวที่คล้ายกัน ในใจจึงเกิดความขุ่นเคืองที่ยากจะระงับ ความขุ่นเคืองนี้ไม่เหมือนกับแผนการของฮองเฮาที่จะให้เธอเป่าหูเยี่ยนจิ่วเฉา ความขัดแย้งในราชสำนัก ฮองเฮาตั้งเป้าไปที่ผู้ใหญ่สองคน แต่กับเด็กที่อ่อนแอ ฮองเฮาก็ยังทำเรื่องไร้ปรานีเช่นนี้ได้ลงคอ แสดงให้เห็นว่าแก่นแท้ของนางช่างมืดมนนัก
แม้ฮองเฮาจะไม่ได้รังแกองค์หญิงจิ่วด้วยตนเอง แต่ในฐานะเจ้าแห่งตำหนัก ฮองเฮาจะไม่รู้ได้อย่างไร ว่าท่าทีที่นางมีต่อองค์หญิงจิ่วจะทำให้องค์หญิงจิ่วพบเจอกับเรื่องเลวร้ายเช่นไร? แม้แต่อวี๋หวั่นยังรู้สึกว่าองค์หญิงจิ่วเปลี่ยนไปไร้ชีวิตชีวา ในฐานะเสด็จแม่ นางจะไม่รู้เรื่องนี้เลยจริงๆ หรือ?
เป็นไปไม่ได้
แต่นางเลือกที่จะไม่ใส่ใจ
นางระบายความโกรธแค้นทั้งหมดที่พระชายาชิ่งไม่อาจให้กำเนิดบุตรชายลงกับเด็กน้อยไร้ทางสู้
เห็นได้ว่านางขี้ขลาด กล้าใช้มีดกับสิ่งที่อ่อนแอกว่าเท่านั้น
เรื่องนี้อวี๋หวั่นเองก็ได้สัมผัสมาแล้ว นางรู้ว่าคนที่จะลงโทษใต้เท้าหม่าคือเยี่ยนจิ่วเฉา แต่นางก็ไม่กล้าคุกคามเยี่ยนจิ่วเฉา ได้แต่ใช้ไม้อ่อนไม้แข็งกับอวี๋หวั่น
สิ่งที่ฮองเฮาไม่ได้คาดคิดก็คือ อวี๋หวั่นไม่ใช่ลูกพลับอ่อน
“ท่านคิดจะทำเช่นไร?” อวี๋หวั่นถามเยี่ยนจิ่วเฉาขณะนั่งอยู่ที่หัวเตียง
เยี่ยนจิ่วเฉาบีบนวดน่องที่บวมเล็กน้อยให้เธอ แต่ตัวเธอเองไม่ได้รู้สึกอะไรมากนัก เมื่อเทียบกับสตรีตั้งครรภ์ทั่วไปแล้ว อาการของเธอนับว่าเบากว่ามาก
ทว่าด้วยเนตรเพลิงของเยี่ยนจิ่วเฉา แม้บวมขึ้นเพียงเล็กน้อยก็มองออกได้ชัดเจน
“ข้าถามท่านอยู่นะ” อวี๋หวั่นพูด
“จะออกมาเมื่อไหร่?” เยี่ยนจิ่วเฉากล่าว
“หือ?” อวี๋หวั่นตกตะลึงกับคำพูดที่ไม่มีที่มาที่ไป อะไรจะออกมาเมื่อไหร่?
ชะงักไปครู่หนึ่ง อวี๋หวั่นก็ตระหนักได้ว่าเยี่ยนจิ่วเฉากำลังพูดถึงบุตรในท้อง เธอดีใจ ก้มหน้าถามอย่างเขินอาย “ท่านเป็นห่วงข้าใช่หรือไม่?”
เยี่ยนจิ่วเฉาพูดตรงจุด “ข้าอยากเล่นกับเด็ก”
อวี๋หวั่น “…”
ขณะที่ทั้งสองคุยกัน อิ่งสือซันก็เคาะประตู “คุณชาย ฮูหยินน้อย พวกท่านหลับหรือยังขอรับ?”
ดูเหมือนว่ายังไม่นอน ไฟก็ยังเปิดอยู่ ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่กล้ารบกวนโจ่งแจ้งเช่นนี้
เยี่ยนจิ่วเฉายัดขาอ้วนของอวี๋หวั่นลงใต้ผ้านวมแล้วพูดกับเขาว่า “เข้ามาสิ”
อิ่งสือซันเดินเข้ามาด้วยสายตามองตรง ยกมือคำนับแล้วเอ่ยว่า “คุณชาย ข้ากับอิ่งลิ่วเพิ่งไปที่จวนรัชทายาท และพบกับเหตุการณ์บางอย่างมาขอรับ”
“เหตุการณ์อันใด?” เยี่ยนจิ่วเฉาถาม
อิ่งสือซันกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ขันทีฉินไปพบเยี่ยนไหวจิ่ง”
“ขันทีฉิน?” อวี๋หวั่นพึมพำอย่างครุ่นคิด “เขาไม่ใช่คนของฮองเฮาหรอกหรือ? เขาไปหาเยี่ยนไหวจิ่งด้วยเหตุใด?”
เยี่ยนจิ่วเฉาฮึดฮัดอย่างเย็นชา “ฮองเฮาคิดจะใช้เยี่ยนไหวจิ่งหรือ?”
“ขอรับ” อิ่งสือซันเอ่ย “ข้ากับอิ่งลิ่วได้ยินขันทีฉินกล่าวว่าฮองเฮาต้องการสร้างพันธมิตรกับเยี่ยนไหวจิ่ง”
อวี๋หวั่นตกตะลึง ไม่ใช่กระมัง? มีปัญหากันไม่ทันไร ฮองเฮาก็แทบรอไม่ไหวที่จะไปตีสนิทกับเยี่ยนไหวจิ่ง? ต้องทำเรื่องไร้ยางอายเช่นนี้เชียวหรือ?
อีกอย่าง การแตกคอกันครั้งนี้ก็ไม่ใช่ความผิดของพวกเขา ผู้ใดให้เจ้าไม่ห้ามปรามลูกพี่ลูกน้อง ปล่อยให้เขาทำเรื่องชั่วร้ายไม่เกรงกลัวฟ้าดิน แล้วจากนั้นก็ไม่เพียงแต่ไม่ลงโทษเขา ยังให้เขานั่งอยู่ในตำแหน่งสูง เป็นเรื่องที่ฮองเฮาสมควรทำหรือ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]