หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] นิยาย บท 38

หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2] – บทที่ 38 ถูกจับได้แล้ว
บทที่ 38 ถูกจับได้แล้ว
โดย
Ink Stone_Romance
ณ จวนสกุลเซียว

ซั่งกวนเยี่ยนสั่งให้คนมาทำความสะอาดห้องของเซียวเหยี่ยน และวางโถอัฐิที่บรรจุสิ่งของที่เซียวเหยี่ยนทิ้งเอาไว้ ข้างป้ายวิญญาณที่อยู่บนโต๊ะ กระดูกของเซียวเหยี่ยนถูกฝังไว้ที่ภูเขาหิมะ ไม่อาจนำกระดูกกลับมาได้อีกแล้ว แม้แต่หลุมฝังศพก็มีเพียงเสื้อผ้าและของเครื่องใช้ที่ทำขึ้น

เซียวเหยี่ยนอายุมากกว่าเยี่ยนจิ่วเฉาเพียงสองปี ครั้นเมื่อซั่งกวนเยี่ยนแต่งเข้าสกุลเซียว เขาเป็นเพียงเด็กคนหนึ่ง แม้ว่าบิดาและมารดาของเขาจะยังมีชีวิตอยู่ ทว่าครอบครัวกลับมิได้สุขสงบ เขาเติบโตขึ้นโดยมีซั่งกวนเยี่ยนอยู่เคียงข้าง

มิอาจพูดได้ว่าเขาแย่งความรักของมารดาที่มีต่อเยี่ยนจิ่วเฉามา ทว่าจิตใจมนุษย์ก็มีเลือดเนื้อ เด็กที่ทะนุถนอมเลี้ยงดูมานานเพียงนั้น หายไปเพียงชั่วข้ามคืน ซั่งกวนเยี่ยนย่อมเสียใจมาก ทว่าผู้ที่ทุกข์ทรมานยิ่งกว่า นั่นคือเซียวเจิ้นถิง

ชั่วชีวิตเซียวเจิ้นถิงไม่เคยมีบุตร เขารับเซียวเหยี่ยนมาเลี้ยงเป็นบุตรชายของเขาจริงๆ นอกจากนี้…เซียวเหยี่ยนยังเป็นบุตรชายคนสุดท้ายของสกุลเซียว ตามกฎการสืบสกุลของสกุลเซียว เซียวเหยี่ยนสิ้นชีพ ก็เท่ากับสกุลเซียวไร้ผู้สืบทอด

“ฮูหยิน” ฟางมามาเดินเข้ามาเบาๆ และโค้งคำนับด้านหลังซั่งกวนเยี่ยน

ซั่งกวนเยี่ยนคืนสติกลับมา จึงจัดวางโถอัฐิของเซียวเหยี่ยนให้ตรง “กลับมาแล้วหรือ?”

“เจ้าค่ะ นายท่านกลับมาแล้ว อยู่ที่ห้องตำรา ฮูหยินต้องการไปที่นั่นหรือไม่?” ฟางมามาเอ่ยถาม

ซั่งกวนเยี่ยนหยุดและส่ายหัว “ไม่ละ คืนนี้ข้าจะพักผ่อนที่ห้องปีกตะวันตก”

สิ่งที่ฟางมามาใคร่จะเอ่ยต้องหยุดลง ตั้งแต่เกิดเรื่องกับเซียวเหยี่ยน ฮูหยินก็มิได้นอนห้องเดียวกับนานท่านมาหลายวัน แม้การยับยั้งช่างใจในช่วงไว้ทุกข์เป็นสิ่งสมควร ทว่าก็ยังเป็นสามีภรรยา มีเหตุผลใดต้องแยกห้องกันทุกวัน?

“อาหารที่ให้เจ้าไปเตรียมเรียบร้อยแล้วหรือ?” ซั่งกวนเยี่ยนถาม

ฟางมามาเอ่ยอย่างหมดหนทาง “เจ้าค่ะ น้ำแกงเนื้อกวาง น้ำแกงกระดูกกวางตุ๋นน้ำใส และได้เห็นนายท่านทานแล้ว…ฮูหยินจะไม่กลับไปพักผ่อนที่ห้องจริงๆ หรือเจ้าคะ?”

เอาของบำรุงให้นายท่าน แล้วไม่นอนกับนายท่าน มิเกรงว่านายท่านจะโกรธจนกำเดาไหลกลางดึกเลยหรือ?

ซั่งกวนเยี่ยนโบกมือ “เอาละ เจ้าก็ไปพักผ่อนเถิด”

ฟางมามาอยากถามอีกครั้ง ทว่าเมื่อเห็นท่าทีของซั่งกวนเยี่ยน นางก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป นางมิอาจเดาว่าฮูหยินกำลังคิดสิ่งใดอยู่ “ฮูหยิน ข้าขอเอ่ยตามตรง ท่านกระทำเช่นนี้ เป็นการสมควรแล้วหรือเจ้าคะ?”

ซั่งกวนเยี่ยนมองต่ำ “ไม่สำคัญว่าเหมาะสมหรือไม่ ขอเพียงสามารถสืบสกุลเซียวได้ก็พอ”

ฟางมามาถอนใจและเดินกลับไป ซั่งกวนเยี่ยนก็ไปที่ห้องปีกตะวันตก ก่อนปิดประตู นางเหลือบมองห้องตำราที่มีแสงเทียนวูบไหว

เซียวเจิ้นถิงกำลังทำงานราชการอยู่ในห้องตำรา เขาถ่ายโอนอำนาจทางการทหารมาเป็นเวลานานแล้ว เพียงแต่อยู่ในตำแหน่งที่มิค่อยมีงานในราชสำนัก กิจต่างๆ ที่ต้องทำก็มีไม่มากนัก เพียงแค่ติดตามเรื่องการรบในโยวโจว และจัดการเรื่องหลังสงครามอีกเล็กน้อย

“นายท่าน เที่ยงคืนแล้วเจ้าค่ะ” สาวใช้ที่เข้าเวรกลางคืนเอ่ย

เซียวเจิ้นถิงกดหว่างคิ้วที่รู้สึกปวดตึง “ฮูหยินเล่า?”

สาวใช้เอ่ย “พักผ่อนแล้วเจ้าค่ะ”

“ที่ห้องปีกตะวันตกอีกแล้วหรือ?” เซียวเจิ้นถิงเอ่ยถาม

สาวใช้ฝืนใจเอ่ย “…เจ้าค่ะ”

เซียวเจิ้นถิงถอนใจ แล้วลุกขึ้นเดินไปที่ห้องฝั่งตะวันตก

นางไม่มาหาเขา เขาก็ต้องไปหานางถูกหรือไม่

ดึกดื่นแล้ว ทุกคนต่างพักผ่อน ลานบ้านเงียบสงัด เซียวเจิ้นถิงไม่กล้าปลุกซั่งกวนเยี่ยนให้ตื่น เขาจึงค่อยๆ เปิดประตูและเดินเข้าไปอย่างไร้ร่องรอยการเคลื่อนไหว

แสงจันทร์สลัว ตกกระทบเรือนร่างอันงดงามที่มิมีผู้ใดเหมือนด้านหลังผ้าม่าน

ไม่รู้ว่าเนื้อกวางทำให้รู้สึกกระหายเร่าร้อนเกินไป หรือช่วงเวลาที่ผ่านมาเก็บกลั้นจนมิอาจทานทน เซียวเจิ้นถิงรู้สึกว่าหัวใจของตนรุ่มร้อนขึ้นมา เขาแหวกเปิดม่าน ขึ้นไปนอนบนเตียง และโอบกอดนางเบาๆ จากด้านหลัง ทว่าทันใดนั้น เซียวเจิ้นถิงก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขารีบดึงแขนกลับและลุกออกจากเตียง ตะโกนเสียงเข้มเฉียบขาด “เจ้าเป็นใคร!”

แม่ทัพเซียวผู้เด็ดเดี่ยวเปล่งน้ำเสียง กระทั่งทหารทั้งกองทัพก็ยังต้องเงียบ นับประสาอะไรกับสตรีบอบบางผู้หนึ่ง?

หญิงสาวบนเตียงล้มลงมาดังโครม ตัวสั่นงันงก “เจ้าค่ะ…บ่าวเองเจ้าค่ะ…”

“สุ่ยเซียง?” เซียวเจิ้นถิงได้ยินเสียงของนาง

สุ่ยเซียงเป็นสาวใช้ที่ซั่งกวนเยี่ยนซื้อมาใหม่ นางมักถูกซั่งกวนเยี่ยนพาไปไหนมาไหนด้วย แม้กระทั่งไปวัดเพื่ออธิษฐานขอพรก็ตาม เซียวเจิ้นถิงมิได้คิดเรื่องนี้ ผู้ใดจะรู้ว่านางจะคลานขึ้นเตียงของตน

เซียวเจิ้นถิงเอ่ยอย่างใจเย็น “ฮูหยินให้เจ้านอนที่นี่รึ?”

ที่นี่เป็นห้องของซั่งกวนเยี่ยน หากซั่งกวนเยี่ยนมิได้อนุญาต สาวใช้ไม่เสียดายชีวิตหน้าไหนจะกล้าขึ้นมานอน

สุ่ยเซียงพยักหน้าอย่างสั่นเทา

เซียวเจิ้นถิงโกรธจนกระแทกประตูออกไป!

คืนนี้ ไม่เพียงแต่เซียวเจิ้นถิงและซั่งกวนเยี่ยนเท่านั้นที่มิอาจข่มตาหลับ ทว่าเหยียนเซี่ยแห่งจวนสกุลเหยียนก็เช่นกัน

เหยียนเซี่ยผู้ลืมเลือนความเจ็บปวดในอดีต และเกือบถูกเหยียนหรูอวี้ฆ่าตายเพราะสัมผัสกับสิ่งของของเหยียนหรูอวี้ในตอนกลางวัน ทว่าตกดึก เขากลับมีความคิดกล้าบ้าบิ่นที่จะไปเอาโถทั้งสองออกมา

เขาครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เหยียนหรูอวี้คือสตรีที่ต้องแต่งเข้าจวนคุณชายเยี่ยน นางวิสัยทัศน์สูงส่ง สิ่งนั้นทำให้นางกระวนกระวายได้ถึงเพียงนี้ ต้องเป็นสมบัติล้ำค่าเป็นแน่

ระยะนี้เงินทองขัดสน หากขโมยสิ่งล้ำค่าของเหยียนหรูอวี้ไปขาย คงสามารถบรรเทาเรื่องเร่งด่วน

เหยียนเซี่ยทำตามที่เอ่ย รอจนกระทั่งทุกคนนอนหลับ เขาจึงย่องเข้าลานบ้านของน้องสาวอย่างเงียบๆ เขาเติบโตมาในจวนสกุลเหยียนแห่งนี้ เรื่องเล็กๆ เพียงนี้หาใช่เรื่องยากสำหรับเขา

เขามาถึงห้องตำราของเหยียนหรูอวี้ด้วยความชำนาญลู่ทางเป็นอย่างดี และพบจุดกลไกการสัมผัสในตอนกลางวัน หลังเปิดออก โถเหล่านั้นกลับไม่อยู่เสียแล้ว

“เหอะ ย้ายไปแล้วหรือ?”

เหยียนเซี่ยหัวเราะเยาะอย่างเหยียดหยาม เรื่องเรียนเขาไม่เก่งเท่าเหยียนหรูอวี้ ทว่ากลลวงแค่นี้ เหยียนหรูอวี้รวมกันสิบคน ก็ไม่อาจสู้กับเขาหนึ่งคน

เหยียนเซี่ยค้นหาในห้องอยู่ครู่หนึ่ง ก็พบกับกลไกอีกอัน นั่นก็คือแท่นฝนหมึกที่ดูไม่สะดุดตาบนโต๊ะตำรา ทันทีที่เขาบิดแท่นฝนหมึกเบาๆ ช่องที่ซ่อนอยู่บนโต๊ะก็เปิดออก

“ชิ ข้าบอกว่าอย่างไรละ?”

เหยียนเซี่ยคลี่ยิ้มลำพองใจ ห่อโถออกจากช่องที่ซ่อนอยู่ แล้วจึงปรับกลไกกลับดังเดิม แสร้งทำราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น และเดินวางมาดออกจากห้องตำราไป

เกรงว่าจะมีปัญหาเกิดขึ้นอีก เขาจึงไม่ได้นำโถกลับไปยังลานบ้านของตน แต่ซ่อนมันไว้ที่โพงหญ้าภายในสวน

ย่ำรุ่งวันถัดมา เขาไปที่ลานบ้านของฮูหยินเหยียน หาข้ออ้างว่าจะไปหาซื้อของขวัญให้น้องสาวเพื่อเป็นการไถ่โทษ และเอาโถออกจากจวนไป

เขาตัดสินใจเรียกเหล่าสหายเสเพลกลุ่มหนึ่งมาเปิดหูเปิดตา ทว่าสิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือ ทันทีที่ก้าวลงจากรถม้า เขาจะพบกับหญิงสาวที่ตนลวนลามไม่สำเร็จและกลับถูกทำร้ายเมื่อคราก่อน!

ในความรู้สึก ไป๋ถังก็เหมือนกับเหยียนเซี่ย มีนิสัยที่ไม่สามารถอยู่บ้านได้ ไป๋ถังแสร้งป่วยหนัก กระทั่งในที่สุดบิดาของนางก็ไปตามหาหมอผู้มีชื่อเสียง นางจึงได้แอบออกมา

ทว่านางก็ไม่คาดคิดว่าจะได้พบกับชายมักมากบ้าตัณหาผู้นี้!

“เป็นเจ้าเองรึ?”

ไป๋ถังจ้องถมึง!

เมื่อเหยียนเซี่ยเห็นนางก็พลางรู้สึกเจ็บปวดที่ก้นเล็กน้อย

เขาออกมาจากจวนง่ายนักหรือไร? เหตุใดต้องพบเจอกับหญิงผู้นี้!

วันนี้ก็เป็นอีกวันที่มิได้พาองครักษ์มาด้วย

เหยียนเซี่ยวิ่งหนี!

ไป๋ถังดวงตาเยือกเย็น “ยังกล้าวิ่งรึ? ข้าบอกแล้วว่าหากเจ้ากล้าปรากฏตัวต่อหน้าข้าอีก ข้าจะฆ่าเจ้า!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]