“เอ้อร์เป่าก็อั้นไม่ไหวแล้ว!”
เอ้อร์เป่ากุมเป้ากระโดดลงจากรถม้า
ต้าเป่ามองเสี่ยวเป่า จากนั้นก็มองเอ้อร์เป่า สองตาเงยหน้ามองฟ้าครู่หนึ่ง แล้วก็กุมเป้ากระโดดลงมา
ต้าเป่าอั้นไม่ไหวแล้ว——
โจวจิ่นปิดตาเบือนหน้า
เจ้าตัวเล็กพวกนี้ แม้แต่ฉี่ก็ต้องฉี่พร้อมกัน…
เสี่ยวเป่าทนไม่ไหวจริงๆ เอ้อร์เป่ากับต้าเป่ามาป่วน เพียงแต่ทั้งสองยังทนไหว
จู่ๆ เด็กอ้วนทั้งสามก็มา อวี๋หวั่นมือไม้เป็นพัลวัน!
“ท่านแม่ๆ! เสี่ยวเป่าปวดฉี่!”
“เอ้อร์เป่า! เอ้อร์เป่าปวดฉี่!”
ต้าเป่าก็ปวด!
ทั้งสามตะเกียกตะกายแย่งกันกระโดดไปข้างหน้าอวี๋หวั่น อวี๋หวั่นหัวหมุน
เวลานี้ ประตูห้องน้ำเปิดออก แน่นอนต้าเป่าที่เห็นชัดๆ ว่าไม่ได้ฉี่วิ่งเร็วที่สุด เข้ายึดครองห้องน้ำในพริบตา!
“เจ้า…อย่าวิ่งลงไป!” อวี๋หวั่นไล่ตามเข้าไปในห้องน้ำ
เอ้อร์เป่าที่มองดูความตื่นเต้นช่วยทำให้เรื่องราววุ่นวายกว่าเดิม เขากุมเป้าแล้วร้องให้ดังกว่าเสี่ยวเป่า
เสี่ยวเป่าที่รังแกพี่ชายทั้งสองเสมอมา ในที่สุดก็มีวันที่เรือล่มในคลองระบายน้ำ[1] เขาอั้นจนแทบจะระเบิดแล้ว รอต้าเป่าออกมาไม่ไหว จึงไปหาที่ปลดทุกข์ด้วยตัวเอง!
เขาพบโถใบหนึ่ง ปัดเศษสักหน่อย มันก็คือกระโถนนั่นละ!
แต่ในโถนั้นบรรจุบางอย่างอยู่ โถหนึ่งใบรับไม่หมด เสี่ยวเป่าจึงฉี่ลงทั้งสามโถ…
บุรุษหนุ่มไปจ่ายเงิน เมื่อกลับมาถึงกำแพงก็อุ้มโถสุราเข้าไปในรถม้า ไม่รู้ว่าเป็นภาพลวงตาหรือไม่ เขารู้สึกว่าเหล้าขาวคราวนี้ดูหนักกว่าคราวก่อน
หรือเพราะตนเป็นลูกค้าเก่า ซื้อมากเช่นนี้ในคราวเดียว เจ้าของร้านจึงใจดีให้สุราเพิ่มอีกสองตำลึง?
“อืม” บุรุษหนุ่มกลับวังไปพร้อมกับโถสุรา
วิหารกวังหมิงมีการป้องกันแน่นหนาจากกองกำลังทหารขนาดใหญ่ และมีหลัวช่าทหารอีกสี่ตนกับพ่อมดใหญ่สิบคนคอยคุ้มกัน เรื่องที่หลัวช่าวิญญาณตื่นขึ้นจะผิดพลาดไม่ได้ ดังนั้นแม้จะอยู่ลึกเข้าไปในวังหลวง ราชินีแม่มดก็ไม่กล้าชะล่าใจ
“คุณชาย ท่านหาที่พักผ่อนสักหน่อยเถอะ ข้ากับอิ่งลิ่วจะไปขโมยกระดูกของราชาศักดิ์สิทธิ์ รอฟ้ามืดค่อยไปลอบสังหารหลัวช่าวิญญาณ” อิ่งสือซันเสนอความคิด
“หลัวช่าวิญญาณมิได้แข็งแกร่งขึ้นเมื่อฟ้ามืดหรอกรึ?” อิ่งลิ่วถาม
อิ่งสือซันกล่าวว่า “นั่นไม่ได้เกี่ยวกับฟ้ามืด เพียงแต่บังเอิญว่ามันตื่นขึ้นยามกลางคืน และหลับไปอีกครั้งในยามรุ่งสางเท่านั้น”
“เช่นนั้น…บัดนี้มันตื่นอยู่หรือ?” อิ่งลิ่วถามอีกครั้ง
“ข้าคิดว่าเป็นเช่นนั้น” อิ่งสือซันกล่าว เขาไม่มีหลักฐาน เป็นเพียงสัญชาตญาณที่แตกต่างจากคนทั่วไป สัญชาตญาณของเขาช่วยชีวิตเขามาไม่รู้กี่หน ไม่บอกว่าในสิบถูกต้องทั้งสิบ แต่อย่างน้อยก็มีถึงเจ็ดหรือแปดครั้ง
“คุณชายเล่าคิดว่าอย่างไร?” อิ่งสือซันเลือกฟังความคิดเห็นของเยี่ยนจิ่วเฉา
เยี่ยนจิ่วเฉาพยักหน้าอย่างเฉยเมย “ก็ดี”
เมื่อคืนถูกไข่ดำทั้งสามใช้เท้าน้อยๆ ลอบเตะตลอดทั้งคืน ทำให้เขานอนหลับไม่สนิท
เยี่ยนจิ่วเฉาเดินเต๊ะท่าเข้าไปในตำหนักราชาพ่อมดและนอนลงบนแท่นบรรทมหน่วนเก๋อ[2]
หน่วนเก๋อของเผ่าพ่อมด อบอุ่นในเหมันต์ เย็นในคิมหันต์ เมื่อนอนจะรู้สึกสบายอย่างยิ่ง ไม่นานคุณชายก็ผล็อยหลับไปอย่างสุขสม
อิ่งลิ่วและอิ่งสือซันหลบองครักษ์ลาดตระเวน แทรกซึมเข้าไปในลานที่ฝังกระดูกของราชาศักดิ์สิทธิ์
“อิ่งสือซัน เจ้าดูสิ! ดอกเซียนศักดิ์สิทธิ์!” อิ่งลิ่วชี้ไปที่แปลงดอกไม้เล็กๆ ในลานที่เต็มไปด้วยดอกตูมสีม่วง “สวยจริงๆ!”
“สวยยิ่งนัก” อิ่งสือซันพยักหน้าเบาๆ
“หือ?” อิ่งลิ่วมองอิ่งสือซันด้วยความแปลกใจ
“ไยมองข้าเช่นนี้?” อิ่งสือซันถาม
อิ่งลิ่วยิ้มจางๆ “ข้าเคยถามเจ้าว่าดอกไม้เหล่านั้นดูดีหรือไม่ เจ้ามักพูดว่า ก็แค่ดอกไม้ไม่ใช่หรือ? แตกต่างกันอย่างไร?”
ใบหน้าสดใสหล่อเหลาของเขา ยามคลี่ยิ้มเต็มไปด้วยกลิ่นอายสะอาดบริสุทธิ์
ราวกับหนุ่มน้อยรูปงาม ชวนให้คนอยากปกป้องเขาโดยไม่รู้ตัว
สีหน้าของอิ่งสือซันผงะไปครู่หนึ่ง เขาเบนสายตาออกจากใบหน้าของอิ่งลิ่ว ตกกระทบบนดอกสีม่วง อิ่งลิ่วพูดถูก เขาเป็นมือสังหาร ดอกไม้ต้นไม้เหล่านั้นไม่เคยมีความแตกต่างใดๆ ในสายตาเขา แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด ดอกเซียนศักดิ์สิทธิ์ดอกนี้ราวกับเปิดถึงห้วงลึกในจิตใจของเขา
“ดอกเซียนศักดิ์สิทธิ์จะอยู่ได้บนกระดูกและเลือดของราชาศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น ข้างล่างนั่นคงเป็นที่ฝังกระดูกของราชาศักดิ์สิทธิ์กระมัง?” อิ่งลิ่วทิ้งความแปลกประหลาดของอิ่งสือซันไว้เบื้องหลังอย่างรวดเร็ว เขาดึงกริชออกจากเอว “ใช้โอกาสที่องครักษ์ยังไม่มารีบลงมือ!”
อิ่งสือซันมองดอกเซียนศักดิ์สิทธิ์เนือยนิ่ง
อิ่งลิ่วเอ่ยทัก “อิ่งสือซัน! เลิกมองได้แล้ว ประเดี๋ยวมีคนมา!”
อิ่งสือซันได้สติ ขมวดคิ้วกล่าว “เจ้าช้าก่อน”
“ทำไมละ?” อิ่งลิ่วนั่งยองๆ เตรียมขุด
“ดอกเซียนศักดิ์สิทธิ์ดอกนี้ดูแปลกๆ” อิ่งสือซันกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]