บทที่ 110 ข้าสับอีกไม่ไหวแล้ว (ปลาย)
หลังได้ยินคำนั้น ชายหนุ่มกลับยังคงตีสีหน้าเรียบเฉย กล่าวสวนขัดจังหวะ
“องค์ชายแคว้นหนิงงั้นหรือ ? ข้าไม่รู้จัก !”
สิ้นคำพูดประโยคนั้น เยี่ยฉวนจึงยกฝ่าเท้ากระแทกเข้าที่ศีรษะคนบนพื้นเต็มแรง
เปรี้ยง !
ชายสวมผ้าคลุมดำผงะหงายหลัง โลหิตทะลักพรวด !
เยี่ยฉวนเดินเข้าไปที่ร่างนั่นอย่างใจเย็น ก่อนที่เขาจะก้มลงหยิบถุงผ้าซึ่งเหน็บอยู่ที่เอวของร่างนั้น ก่อนจะย้อนกลับมาที่องค์หญิงเก้ายืนอยู่ ซึ่งมันก็เป็นเวลาเดียวกับที่คนคู่ชายและหญิงตามมาทัน โดยไม่รั้งรอ ชายหนุ่มพลันหันไปคว้าแขนขององค์หญิงและออกแรงฉุดให้รีบวิ่งหนีเตลิดอีกครา !
คู่ชายหญิงเห็นเช่นนั้นยิ่งไม่ยอมเลิกรา ทั้งสองออกวิ่งตามไปทันที พวกเขาวิ่งไล่ติดตามอย่างรวดเร็ว โดยมีอีกห้าหกคนตามมาเบื้องหลัง
ทั้งเยี่ยฉวนและองค์หญิงต่างวิ่งเตลิดโดยอย่างไม่คิดชีวิต ขณะที่บาดแผลที่หน้าอกมีโลหิตไหลซึมไม่ ขาดสาย
แม้ว่าสมรรถนะทางกายจะแข็งแกร่งอย่างไร แต่ก็ยังไม่อาจหลีกเลี่ยง ชายสวมผ้าคลุมสีดำเป็นผู้ฝึก ปราณซึ่งขั้นพลังไม่น้อยกว่าทะยานสวรรค์ การที่เขาพยายามต้านทานพลังของคนผู้นั้นไว้ได้ มันก็นับว่า สมรรถนะทางกายน่าเกรงขามยิ่งนัก !
หากเป็นคนธรรมดาสามัญแล้วถูกฟาดฟันโดยลำแสงอสุนีบาต คาดว่าร่างคงถูกตัดออกเป็นสองท่อน นานแล้ว !
วิ่งเตลิดอีกต่อมาไม่นาน ทั้งสองคนพลันต้องชะงักฝีเท้าลงอีกคราด้วยมีสตรีผู้หนึ่งยืนขวางทางอยู่ !
“เป่ยเฉิน !”
เยี่ยฉวนและองค์หญิงเก้าเห็นคนที่ยืนขวางทางได้ชัดเจน ทั้งสองสีหน้าสลดวูบ !
คนที่ยืนขวางทางกวาดสายตามองคนทั้งสองที่เพิ่งมาถึงด้วยแววตาเคร่งขรึม เพียงครู่เดียวร่างของ เป่ยเฉินก็พลันเลือนหายไป !
เมื่อเห็นเช่นนั้น เยี่ยฉวนตั้งท่าพุ่งเข้าไป ฉับพลันองค์หญิงเก้าก็ได้ดันเขาออกพ้นทาง นางก้าวออกมา พลางฟาดดาบโค้งออกเบื้องหน้า “วายุพิฆาต !”
ทันทีที่คมดาบฟาดฉับกลางอากาศ มันก็ได้ปรากฏแสงวาบของรัศมีแห่งดาบเจิดจ้าทั่วลานกว้าง
ชิ้ง !
เสียงบาดแหลมก้องสะท้อน ซึ่งเกิดจากพลังวายุพิฆาตแห่งดาบชี่ !
ฉับพลันนั้น ต่อหน้าองค์หญิงเก้าพลันปรากฏลำแสงสีเขียวพุ่งวาบเข้าปกคลุมดาบพลังชี่ !
พลันเกิดความเงียบสนิท
ตู้ม !
บรรยากาศก่อตัวเป็นลูกคลื่นแตกระเบิดดังสะท้านไปทั่วลาน องค์หญิงเก้าล่าถอยกลับมาที่เยี่ยฉวน ส่วนทางด้านเป่ยเฉินเองก็ล่าถอยห่างออกไปไกลไม่น้อยกว่าสามจั้ง
พื้นดินตรงกลาง เกิดเป็นหลุมลึกหลายแห่ง !
เป่ยเฉินมองตรงมายังองค์หญิงเก้า “เขาว่ากันว่าทรงเกิดมาเพื่อการรบ แต่ไม่คิดเลยว่าชั้นเชิงดาบของพระองค์จะร้ายกาจไม่น้อย ทำให้ข้าประหลาดใจยิ่งนัก !”
องค์หญิงเก้าจ้องหน้าเขม็ง “ยังมีสิ่งหนึ่งซึ่งเจ้าควรรู้ ว่าความละโมบมักนำพาหายนะมาสู่ตัวของเจ้าเอง !”
เป่ยเฉินหัวเราะออกมาเบา ๆ “ข้ารู้ แต่ทว่าคัมภีร์ยุทธ์ชั้นยอดขั้นปฐพีช่างยั่วใจข้านัก !”
ขณะเดียวกัน กลุ่มคนที่ไล่ติดตามคนทั้งสองก็ได้ตามมาทันแล้ว !
ในเวลานี้ ทั้งเยี่ยฉวนและองค์หญิงสีหน้ามีความกังวลชัดเจน !
องค์หญิงเหลือบตามาทางชายหนุ่มที่ยืนข้าง “เจ้าคิดว่าอย่างไร ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์