ตอนที่ 122 จึงยังเป็นคนโสดอยู่กับความกล้าแกร่งของตนเองเช่นนี้ ! (ปลาย) – ตอนที่ต้องอ่านของ หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์
ตอนนี้ของ หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 122 จึงยังเป็นคนโสดอยู่กับความกล้าแกร่งของตนเองเช่นนี้ ! (ปลาย) จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
บทที่ 122 จึงยังเป็นคนโสดอยู่กับความกล้าแกร่งของตนเองเช่นนี้ ! (ปลาย)
ครู่ใหญ่ต่อมา องค์หญิงจึงลุกขึ้นยืน “คืนนี้ เจ้ากับข้า พวกเราจะไปที่สำนักอัปสรเมรัย”
“สำนักอัปสรเมรัยหรือพะย่ะค่ะ ?”
องค์หญิงเก้าตรัสด้วยสีหน้าเรียบเฉย “เมื่อสามวันก่อนอาการของเจ้าอยู่ในช่วงวิกฤต ข้าได้ส่งคัมภีร์ ยุทธ์ชั้นยอดขั้นปฐพีไปที่สำนักอัปสรเมรัยให้จัดการประกาศเปิดประมูลราคา พวกเขาปิดประกาศเมื่อสามวัน ก่อน ส่วนการประมูลจะมีขึ้นในคืนนี้!”
เยี่ยฉวนพยักหน้า “เยี่ยมเลย พะย่ะค่ะ !”
องค์หญิงเก้าชายตามองผู้พูด “ไม่มีความเห็นหรือ ?”
ชายหนุ่มสะดุ้งเล็กน้อย “ความเห็นอะไรหรือพะย่ะค่ะ ?”
คราวนี้ทรงหันพระวรกายมามองจ้องลึกลงไปในดวงตาคนตรงหน้า ราวกับจะค้นหาความจริง “เจ้า เสี่ยงชีวิตแทบตายเพื่อคัมภีร์ยุทธ์ชั้นยอดขั้นปฐพี เจ้าควรมีสิทธิ์เป็นผู้ครอบครองคัมภีร์ แต่ข้ากลับนำออก ประมูลราคา เจ้าไม่มีความรู้สึกตะขิดตะขวงใจบ้างหรือ ?”
“เป็นอย่างนี้เอง !
เยี่ยฉวนเผยยิ้ม “ทำไมข้าจึงควรรู้สึกตะขิดตะขวงใจกัน ?”
อีกฝ่ายจ้องหน้าเขาไม่วางตา ปราศจากคำพูดโต้ตอบ
เมื่อเป็นเช่นนั้นชายหนุ่มจึงนิ่งคิดสักครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยขึ้นว่า “พวกเราเป็นสหาย ไม่สมควรช่วยเหลือกันหรือพะย่ะค่ะ ?”
ครานี้คู่สนทนาจึงเป็นฝ่ายที่นิ่งเงียบไปบ้าง ก่อนที่นางจะหมุนตัวตั้งท่าจะกลับออกไป แต่ทว่าในขณะที่องค์หญิงหันหน้าไป ดาบทองคำพลันหล่นลงเบื้องหน้าเยี่ยฉวน ชายหนุ่มตะลึงงัน เขาเอื้อมมือไปเก็บโดย สัญชาตญาณ และส่งคืนดาบทองให้แก่เจ้าของที่ยืนเบื้องหน้า
องค์หญิงหันมองด้วยแววตาเย็นชา “เจ้าสัมผัสดาบแล้ว ข้าไม่ประสงค์จะใช้ดาบเล่มนี้อีกต่อไป !”
ตรัสจบก็หันขวับเดินออกจากกระโจมไปทันที
เยี่ยฉวนอึ้งไปด้วยความสับสนงงงัน “แม่เจ้าโวย…”
ผ่านไปอีกนานกว่าเยี่ยฉวนจะกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง เขานั่งมองดาบทองคำในมือ ทันใดนั้นกลับต้องประหลาดใจ ! ด้วยดาบทองคำเป็นศาสตราวุธจิตวิญญาณ ! นอกจากนั้นมันยังเป็นถึงสุดยอดศาสตราวุธ จิตวิญญาณซึ่งเหนือชั้นกว่ากระบี่หลิงเซี่ยวของตนเองเสียอีก
ว่าแล้วชายหนุ่มจึงรีบผลุนผลันออกจากกระโจมตามหลังองค์หญิงเก้าทันที เขาไล่ตามพลางพูดละล่ำ ละลัก “ดาบของท่าน ดาบทองคำของพระองค์เป็นสุดยอดศาสตราวุธ ท่านคิดทิ้งขว้างจริง ๆ หรือพะย่ะค่ะ ?”
องค์หญิงหันมาจ้องหน้าเยี่ยฉวน สายตาเยือกเย็น “ในที่สุดข้าก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเจ้าจึงอยู่คนเดียวมาได้ตั้งนานขนาดนี้ !”
กล่าวจบนางก็สะบัดหน้าเดินดุ่ม ๆ ลับหายไปจากสายตาของเยี่ยฉวน
เยี่ยฉวนงงงัน “…”
“คิกคิก !”
ทันใดนั้นพลันมีเสียงหัวเราะดังขึ้นทางเบื้องหลัง
เมื่อเยี่ยฉวนหันไปมองจึงพบกับสตรีนางหนึ่งสวมชุดยาวสีเขียว นางผู้นี้คือแพทย์หลวงเสี่ยวอี้ซึ่งมีหน้าที่คอยดูแลรักษาเยี่ยฉวนนั่นเอง
“ท่านคือใคร ?” ชายหนุ่มถามด้วยความสงสัย
ในเวลาที่แพทย์หลวงเสี่ยวอี้ทำการรักษาให้เยี่ยฉวนนั้น อาการของเขาอยู่ในภาวะวิกฤต ดังนั้นจึงไม่ สามารถจดจำสตรีที่ยืนอยู่เบื้องหน้าตนได้
เสี่ยวอี้ยิ้มน้อย ๆ “ตอนที่เจ้าอาการหนัก ข้าเป็นคนคอยทำแผลให้ !”
เมื่อได้ยินนางพูดเช่นนั้น ชายหนุ่มรีบประสานมือคำนับพร้อมกับค้อมตัวลงแสดงคารวะต่อนาง “ขอบ คุณขอรับ !”
ชายหนุ่มเดินตามมาข้าง ๆ “จะเกิดปัญหาไหมพะย่ะค่ะ ?”
อีกฝ่ายตรัสอย่างใจเย็น “วางใจได้ ที่นี่เป็นพื้นที่ของสำนักอัปสรเมรัย มันเป็นสถานที่เพียงแห่งเดียวที่ สถานศึกษาฉางมู่ไม่อาจก้าวก่าย ตามปกติจึงไม่น่าจะเกิดปัญหา สถานศึกษาฉางมู่ไม่คิดเป็นศัตรูกับสำนัก อัปสรเมรัยเพียงเพื่อคัมภีร์ยุทธ์ชั้นยอดขั้นปฐพีหรอก”
เยี่ยฉวนพยักหน้า เขาทำท่าเหมือนจะเพิ่งนึกถึงบางสิ่ง จึงเอ่ยถามว่า “ข้าออกไปเดินสำรวจในค่าย ทหารของท่าน แต่ไม่พบสตรีที่มีนามว่าอาอวี้ ไม่ทราบว่านางเป็นทหารในหน่วยของพระองค์หรือไม่ พะย่ะค่ะ”
อาอวี้
แน่ล่ะ เขายังจำอาอวี้ได้ !
องค์หญิงเก้าหยุดคิดนิดหนึ่ง จึงตอบว่า “อ๋อ เจ้ามิใช่คนที่นี่ดังนั้นจึงไม่รู้ ว่าหลังจากที่เจ้าออกจากเมืองไปแล้ว มีหญิงชราคนหนึ่งมารับตัวอาอวี้ไป”
นางหยุดพูดหันมามองเยี่ยฉวน “เจ้าไม่ต้องกังวลใจ ควรยินดีกับนางเสียด้วยซ้ำ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เยี่ยฉวนจึงพยักหน้า “เป็นเช่นนั้นก็ดีแล้วพะย่ะค่ะ”
ทันใดนั้น ก็ได้ปรากฏร่างของบุรุษในชุดดำเบื้องหน้าองค์หญิงเก้า ท่าทีของเขาต้องการเข้ามาใกล้ พระองค์ ทว่านางกลับตรัสด้วยสุรเสียงเรียบ ๆ ออกมาเสียก่อน “รายงานมา !”
บุรุษนั้นเหลือบมองเยี่ยฉวน ก่อนพยักหน้า “ฝ่าบาท แคว้นถังและแคว้นหนิงต่างส่งผู้แทนเข้าร่วม ประมูลราคาด้วยพะย่ะค่ะ !”
เมื่อได้ยินผู้กล่าวรายงาน สีหน้าขององค์หญิงพลันเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม พระเนตรฉายแสงแปลบปลาบราวคมดาบ !
ชั่วขณะหนึ่ง นางหันมายิ้มมุมปาก “เตรียมตัวให้พร้อม เห็นทีพวกเราอาจต้องเผชิญกับคืนอันตรายเสียแล้ว !”
เยี่ยฉวน “…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์