บทที่ 131 ข้ายอมรับไม่ได้ !!! (ต้น)
“พอที ทนไม่ไหวแล้ว !”
เยี่ยฉวนมีความรู้สึกแว่บขึ้นในใจ เพราะความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นมากมายนัก …ราวกับว่าร่างกายจะแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเสียให้ได้ !
ในขณะนั้น พลันภาพหอคอยแห่งเรือนจำเลือนหายไปจากบริเวณหว่างคิ้ว จากนั้นลำแสงแห่งวัตถุสี เหลืองอมน้ำตาลพลันเข้าห่อหุ้มร่างของเยี่ยฉวน
ตู้ม !
ร่างกายเริ่มสั่นสะท้านรุนแรงขึ้นทุกขณะ ชั่วพริบตาพลังแห่งวัตถุสีเหลืองอมน้ำตาลจำนวนมหาศาล ซึ่งรายรอบโดยรอบก็พากันไหลรวมเข้าสู่ร่างกายโดยเริ่มจากปลายเท้า ด้วยปริมาณแห่งพลังที่หลั่งไหลเข้ามา อย่างต่อเนื่อง มันก็ทำให้รอยแตกตามเนื้อตัวชายหนุ่มเริ่มประสานเข้าหากันอย่างช้า ๆ!
การฟื้นฟู !
แน่ชัดว่ากฎแห่งเต๋าย่อมสามารถฟื้นฟูร่างกายได้ !
แม้ว่าจะได้กฎแห่งเต๋ามาช่วยฟื้นฟูกายเนื้อ แต่ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นก็รุนแรงเสียจนเยี่ยฉวนรู้สึก อยากจะตาย !
ด้วยความรู้สึกว่าร่างกายกำลังถูกพลังมากมายกระทุ้งกระแทกภายใน มันทำให้ชายหนุ่มบังเกิดความ เจ็บปวดรวดร้าวอย่างแสนสาหัสจนเกือบทำให้หมดสติก็ว่าได้ นับว่ายังเคราะห์ดีที่เยี่ยฉวนพยายามยืนหยัด อดทน หากเขาหมดสติลงในเวลานี้ เป็นไปได้ว่ายิ่งทำให้เกิดผลร้ายหนักเข้าไปอีก !
และด้วยเหตุนี้ สภาวะทางกายจึงสมานเข้าหากันอย่างช้า ๆ
ภายในเวลาหนึ่งชั่วยามต่อมา บาดแผลตามร่างกายของชายหนุ่มสมานเข้าหากันเกือบทั้งหมด นอก จากนั้นยังบังเกิดเป็นสีทองจาง ๆ เคลือบบริเวณผิวหนังชั้นนอกไปทั่ว
เวลานี้เยี่ยฉวนค่อยลืมตาขึ้นช้า ๆ เขาเหลือบตาลงมองตามเนื้อตัวร่างกายของตนเอง และโดยสัญชาตญาณ… มือของชายหนุ่มพลันกำหมัดเกร็งแน่น
วาบ !
ทันใดนั้นประกายสีทองแห่งพลังพลันเปล่งแสงออกห่อหุ้มร่างกาย พลังแสงสีทองเข้ารายล้อมร่างไว้ ราวกับเสื้อเกราะทองน่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างยิ่ง !
“สิ่งนี้คืออะไร ?” น้ำเสียงเจือแววแห่งความประหลาดใจ
สตรีลึกลับตอบมาว่า “นี่คือเกราะแห่งปฐพี มันเกิดจากการผนึกรวมของพลังแห่งปฐพี เมื่อใดที่ฝ่าเท้า ของเจ้าสัมผัสลงบนพื้นดิน เมื่อนั้นเจ้าจะได้ทั้งพลังและเกราะแห่งปฐพี ด้วยสถานะขั้นพลังของเจ้า เจ้าจะ สามารถคงอานุภาพแห่งพลังไว้ได้ไม่เกินครึ่งชั่วยาม และภายในครึ่งชั่วยามนั้น …หากเจ้าไม่เร่งปลดปล่อยทั้ง หมด เกรงว่าคงจะเกิดผลข้างเคียงแห่งพลังให้ได้รับความทุกข์ทรมาน”
“เกราะแห่งปฐพี ? พลังปฐพี ?”
เยี่ยฉวนนิ่งอึ้งไป ทันใดนั้นเขารีบถามขึ้นว่า “ผู้อาวุโส ในเวลานี้ข้าได้รับกฎแห่งเต๋าสำเร็จแล้วหรือไม่ ?”
เสียงของสตรีลึกลับตอบทันควัน “โถ ฝันไปเถอะ เจ้ามิได้ผนึกรวมกับกฎแห่งเต๋า หากเพียงแต่ขอยืมใช้ เป็นครั้งคราว อีกทั้งตอนนี้เจ้ายังหาได้ถ่องแท้ในกฎแห่งเต๋าไม่ เมื่อใดที่เจ้ายืมพลังออกมาใช้ จงใช้ให้ดี เพราะ มันจะช่วยให้เจ้าถ่องแท้ในกฎแห่งเต๋าได้ลึกซึ้งขึ้น ส่วนในเวลานี้นั้น เจ้ามีอยู่สามสิ่งที่จะต้องถือปฏิบัติ ประการแรกควรหมั่นฝึกปรือพลังชี่ ประการที่สองหมั่นฝึกปรือวิทยายุทธ์ ประการที่สามค้นหากระบี่เสริมภายใน เมื่อเจ้าใช้พลังจากกฎแห่งเต๋าแล้ว พลังปราณจะเพิ่มขึ้นสองในสิบส่วนจากพลังของกฎแห่งเต๋า ถึงจะเพิ่มเพียงเท่านี้ แต่ก็นับว่าเพียงพอทีเดียว”
ชายหนุ่มพยักหน้ารับคำ พลางก้มลงมองเสื้อเกราะที่ห่อหุ้มร่างกาย “ผู้อาวุโส ขั้นผสมลมปราณของข้าสามารถรับมือกับยอดฝีมือขั้นทะยานสวรรค์ได้หรือยัง ?”
“เจ้าในเวลานี้งั้นหรือ ต่อให้เป็นขั้นสันโดษ เจ้าก็สามารถรับมือได้ ไม่ต้องพูดถึงขั้นทะยานสวรรค์อะไร นั่นเลย เข้าใจหรือไม่ ?”
“ขั้นสันโดษ ?!”
เยี่ยฉวนสีหน้าเครียดเคร่งทันที ชายหนุ่มออกจะมีท่าทางลังเล “ข้ามสองขั้นเลยหรือ ไม่ใช่ว่าคุยโม้โอ้ อวดเกินไป ?”
“คุยโม้โอ้อวดอะไรกัน ?!”
สตรีลึกลับกล่าวด้วยเสียงเย็นชา “ในสมัยของข้า คนที่ไม่สามารถสังหารศัตรูซึ่งมีขั้นพลังเหนือกว่าสองขั้นจะไม่ถือเป็นยอดฝีมือด้วยเพราะนั่นคือความน่าละอาย”
เยี่ยฉวน “…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์