บทที่ 98 อุ้งเท้า ! (ปลาย)
ชายชราตอบเสียงเรียบ “เจ้ารู้อยู่แก่ใจว่าข้าต้องการพูดอะไร !”
คู่สนทนาผู้อ่อนอาวุโสพูดยิ้ม “ท่านเกรงว่าข้าจะเกิดปัญหาหากสนิทสนมกับนาง ใช่หรือไม่ ?”
อาจารย์ใหญ่จี้พยักหน้า “แม่นางอันมีเจตนาดีต่อเจ้า แต่คนที่อยู่เบื้องหลังนางคงไม่คิดเช่นเดียวกัน เจ้าควรจะอยู่ให้ห่างนางไว้ดีกว่า หรือถ้าคิดจะใกล้ชิดกับนาง งั้นแล้วเจ้าก็ต้องกล้าแกร่งกว่านี้ มันจึงจะเป็นผลดีทั้งกับตัวของเจ้าเองและกับนางด้วย !”
ชายหนุ่มส่ายหน้า
ชายชรามองชายหนุ่มตรงหน้าเต็มตา เขาตอบกลับมาว่า “พวกเราเป็นเพียงคนรู้จักคุ้นเคยและมีความรู้สึกที่ดีต่อกัน หาได้มีอย่างอื่นไม่”
อาจารย์ใหญ่ส่ายหน้า “เจ้าเป็นคนยึดมั่นในอุดมการณ์ เจ้ากับแม่นางอันอาจไม่ได้มีอะไรมากกว่านี้ แต่คนอื่นเขาจะคิดว่าไม่มีอะไรมากกว่านี้ด้วยเช่นนั้นหรือ ? หรือเจ้าคิดว่าโลกนี้มีแต่ความงดงามและ ทุกคนมีเหตุมีผล ?”
เยี่ยฉวนยักไหล่ “ถ้ามีคนในตระกูลของนางขัดขวางข้า ข้าจะสู้จนกว่าไม่มีใครกล้ามาขวาง !”
อาจารย์ใหญ่จี้ยกนิ้วให้ “เจ้าเป็นคนกล้าหาญ แต่โชคร้ายที่มีเพียงเท่านั้น !”
ชายหนุ่มเกือบจนคำพูด “งั้นข้าควรทำอย่างไรเล่าขอรับ ? ควรไปบอกแม่นางอันว่าพวกเราไม่อาจเป็น แม้แต่เพื่อนเพราะข้าหวาดกลัวต่อคนในตระกูลของนาง เช่นนั้นหรือ ?”
ผู้ชรามองตรงมาที่เยี่ยฉวน “เจ้าคิดเป็นเพื่อนกับนางจริงหรือ ? ไม่ได้มีความคิดอื่นปะปน ?”
เยี่ยฉวนกะพริบตาปริบ ๆ “ข้าไม่เข้าใจที่ท่านพูด !”
พูดจบชายหนุ่มเดินทิ้งระยะห่างออกไป
ผู้อาวุโสทอดถอนใจแผ่วเบา ก่อนก้าวเดินตามไป เมื่อเข้าไปใกล้ตัวชายหนุ่ม จึงกล่าวว่า “เจ้าเลือกเองก็แล้วกัน ข้าจะไม่พูดอะไรอีก เรื่องสุดท้ายที่ข้าจะพูดก็คือ เมื่อเจ้าไปที่เทือกเขาชายแดน มีสามเรื่องที่ต้องระวัง เรื่องแรกคือสถานศึกษาฉางมู่ ยอดฝีมือทั้งสามต้องไปที่นั่นเช่นกัน ถ้าเจ้าพบกันโดยบังเอิญ จงอย่าโอ้อวดสิทธิพิเศษของตัวเจ้า หากทำได้ให้ล่าถอยเสีย เรื่องที่สองระวังคนของแคว้นถัง ในเวลานี้มีพวกเขาอยู่ที่นั่น ความ สัมพันธ์ระหว่างแคว้นเจียงและแคว้นถัง เฉกเช่นความสัมพันธ์ระหว่างสถานศึกษาฉางมู่และสถานศึกษาฉาง หลาน ฉันใดก็ฉันนั้น”
จากนั้นผู้เฒ่าหยุดพูดก่อนเอ่ยขึ้นว่า “เรื่องที่สาม เจ้าควรระมัดระวังอย่าไปมีเรื่องกับเหล่ายอดอัจฉริยะจากแคว้นอื่น เมื่อเจ้าออกจากบ้าน ย่อมเป็นเรื่องธรรมดาที่จะได้พานพบเรื่องราวมากมาย ทั้งการฆ่าและฉก ฉวยโอกาส จงระลึกไว้เสมอว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า ข้ารู้ว่าเจ้าเคยต่อสู้และเผชิญหน้ากับความตาย ตั้งแต่อายุยัง น้อย แต่การเอาชีวิตรอดของโลกภายนอกนั้นโหดร้ายกว่าที่คิดนัก”
ชายหนุ่มยอมรับแต่โดยดี “ข้าจะจดจำไว้ขอรับ !”
อาจารย์ใหญ่จี้หยุดเดินยกไหสุราขึ้นดื่มอึกหนึ่ง “จิตวิญญาณอัคนีในกายน้องเจ้าจะยังคงอยู่ แต่คงอีก ไม่นาน เมื่อเจ้าไปที่ตำหนักจ้าวกระบี่ที่อยู่ในเขตภูเขาไฟ หากมีโอกาสจงค้นหาวัตถุที่มีคุณสมบัติให้ความร้อน ยิ่งร้อนมากเท่าไรยิ่งดีเท่านั้น”
เยี่ยฉวนกระแทกกำปั้นกับฝ่ามือแสดงคารวะขอบคุณ “น้องสาวของข้าอยู่ที่นี่ ขอฝากให้ท่านช่วยดูแล นางแทนข้าด้วยได้หรือไม่ขอรับ ?”
อาจารย์ใหญ่ตอบว่า “เชื่อใจเถิด นางจะอยู่อย่างปลอดภัย”
พลันหยุดชะงักนิดหนึ่ง ก่อนที่ชายแก่จะพูดต่อว่า “ก่อนที่เจ้าจะเดินทางไปเทือกเขาชายแดน ต้องฝึก ปรือพลังหมัดให้สำเร็จเป็นดีที่สุด ในเวลานี้หมัดชกยังขาดแรงผลักดัน จึงเรียกได้ว่าเป็นหมัดที่ชกจนพสุธาพินาศไม่เต็มปากนัก เจ้าต้องใช้แรงผลักดันทะยานเข้าสู่หมัดก่อนที่จะออกพลังหมัดออกไป นี่ต่างหากจึงจะบรรลุใน พลังหมัดอย่างแท้จริง ส่วนเคล็ดวิชาต่อสู้ จงอย่าเร่งรัดเพื่อให้ได้ผลดั่งต้องการ การก้าวสู่ขั้นปรมาจารย์การต่อสู้ของเจ้านั้นต้องค่อยเป็นค่อยไปทีละขั้นทีละตอน การจะเป็นปรมาจารย์การต่อสู้แห่งเต๋าไม่อาจรีบร้อน หนทางแห่งความสำเร็จนั้น เจ้าต้องรู้จักที่จะอดเปรี้ยวไว้กินหวาน !”
เยี่ยฉวนแสดงคารวะขอบคุณอีกครา “ขอบพระคุณอาจารย์ใหญ่ ที่ช่วยชี้แนะขอรับ !”
ผู้เป็นอาจารย์ใหญ่พยักหน้า “เอาล่ะ กลับไปฝึกฝนได้ เมื่อเจ้าสามารถบรรลุพลังหมัด สิ่งนี้จะช่วยเจ้า ได้เมื่อไปถึงเทือกเขาชายแดน !”
ก่อนลาเยี่ยฉวนแสดงคารวะอีกครั้งแล้วจึงหันหลังกลับ
ชายชรามองตามหลังจนชายหนุ่มกายไป ก่อนที่ชายแก่จะรำพึงกับตนเอง “อย่าวู่วามและอย่าวิตก… เขาเป็นศิษย์ที่มีแวว…”
หลังจากนั้นจึงยกไหสุราซดอีกอึกใหญ่ ก่อนเดินลับหายไปอย่างรวดเร็ว
ณ หลังเนินเขา
ในไม่ช้าเยี่ยฉวนก็ย้อนกลับมาฝึกฝนหมัดชกภูเขาอีกครั้ง ด้วยเหตุนี้หลังภูเขาจึงปรากฏเสียงดังสนั่นต่อเนื่องอยู่ไม่ขาด ใต้น้ำตกร่างของไป๋เจ๋อปีนป่ายทวนกระแสน้ำ และในป่าทึบบนภูเขา โม่อวิ๋นฉีมีความรู้สึกราว คนบ้า ด้วยเวลานี้มิได้มีเพียงสุนัขป่าปีศาจเพียงหนึ่งแต่เพิ่มเป็นสองสุนัขป่าปีศาจที่ไล่ติดตามในเวลานี้ !
สำนึกผิด !
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์