บทที่ 258 พิทักษ์สามีอย่างสุดชีวิต
อย่างไรก็ตาม เย่หยุนเทาก็ยังดูถูกเย่สวน ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะให้เขาขอร้องเย่สวนในตอนนี้
เขาลุกขึ้นจากโซฟาแล้วมองไปที่เย่สวนและพูดว่า “เย่สวน เธอช่วยให้เกียรติกันด้วยนะ คุณย่าให้เกียรติเธอถึงได้เรียกเธอกลับไปในฐานะประธานบริษัท เหอะ เดี๋ยวนี้เธอกล้าฝ่าฝืนคำสั่งของคุณย่าแล้วสินะ อยากถูกไล่ออกจากตระกูลมากเลยใช่ไหม?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้เย่สวนก็เงียบไป จริงๆ แล้วเธอไม่ได้สนใจเรื่องการถูกไล่ออกจากตระกูล แต่ถ้าถูกไล่ออกจากตระกูลจริงๆ พ่อที่จากไปแล้วคงต้องผิดหวังในตัวเธออย่างแน่นอน เพราะตลอดในช่วงชีวิตของพ่อ เขามีความปรารถนาอยากให้เธอได้เฉิดฉายความสามารถในตระกูลเย่มาตลอด
หลายปีที่ผ่านมา เธอไม่สามารถลืมสายตาที่ปรารถนาคู่นั้นของพ่อได้
เมื่อเห็นเย่สวนไม่มีการโต้ตอบ เย่หยุนเทาก็คิดว่าเธอเริ่มกลัว ดังนั้นเขาจึงพูดอย่างเย่อหยิ่งอีกครั้ง “หน้าด้านจริงๆ อย่าหลงตัวเองให้มากไปนะ เธอก็ไม่ได้สำคัญอะไรในสายคุณย่าหรอก เย่สวน จะบอกให้เธอรู้ไว้นะ ตราบใดที่ยังมีโอกาสก็รีบกลับไปซะโดยดี”
จากนั้นเขายกนิ้วชี้ขึ้นแล้วพูดกับเย่สวนอย่างประชดประชัน “เราจะให้เวลาเธอทบทวนอีกวันนะ พรุ่งนี้ถ้ายังไม่เสนอหน้ากลับไปทำงาน แล้วคุณย่าตัดพวกเธอทั้งบ้านออกจากตระกูล ถึงเวลานั้นอย่าหาว่าไม่เตือนก็แล้วกัน”
ฮ่าๆ ยัยเย่สวนถูกกดดันจนเคยชินแล้ว ไม่เชื่อหรอกว่าเธอจะกล้าฝ่าฝืนคำสั่ง
หลังจากที่เย่หยุนเทาพูดจบ เขาก็หันหน้าเดินจากไปด้วยรอยยิ้มที่ได้ใจ
แต่ก่อนที่เขาจะเดินออกจากบ้าน ลู่เสี้ยงหยางก็พูดขึ้นมาว่า “สวยเอ๋อจะไม่กลับไปทำงานให้ตระกูลเย่กรุ๊ปหรอก คุณกลับไปบอกท่านย่าให้ตายใจเถอะ อีกอย่างถ้าอยากขอร้องคนอื่นเขาก็ให้พูดจาดีๆ ตอนนี้คุณรีบกลับไปบอกท่านย่าว่าให้ท่านมาขอร้องเย่สวนด้วยตัวเอง”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เย่หยุนเทาก็หยุดเดินทันที เขารู้สึกอึ้งไปสักพัก จากนั้นค่อยๆ ตั้งสติได้
ให้ตายเหอะ ไอ้เศษสวะอย่างลู่เสี้ยงหยางกล้าพูดจาแบบนี้กับเขาด้วยหรือ
แมร้งเอ๊ย! จะมากไปแล้ว
“แมร้งเอ๊ย อะไรของมึง! เป็นแค่ไอ้กระจอกที่แต่งงานเข้าบ้านเมีย มีสิทธิ์อะไรมาออกความคิดเห็น? อยากดิ้นหาที่ตายมากเลยใช่ไหม? กูสมทบให้ได้นะ” ทันใดนั้น เย่หยุนเทาก็ชี้หน้าด่าลู่เสี้ยงหยาง
ลู่เสี้ยงหยางสายตาเย็นเยือกและกำลังจะเข้าไปจัดการเขา แต่การเคลื่อนไหวของเย่สวนเร็วกว่า เธอเดินเข้าไปหยิบแก้วน้ำบนโต๊ะชามาแล้วสาดน้ำใส่หน้าของเย่หยุนเทา จากนั้นพูดอย่างเย็นชา “เย่หยุนเทา นายจะมากเกินไปแล้ว อย่าคิดว่าตัวเองยังเป็นคุณชายตระกูลเย่ผู้สูงส่งอีกนะ ตอนนี้ฉันเข้าใจสถานการณ์ของตระกูลเย่ดีกว่านายซะอีก มันใกล้จะล้มละลายแล้ว เฮ่อๆ เมื่อเวลานั้นมาถึง นายก็แค่สุนัขจรจัดตัวหนึ่ง แล้วจะมาทำกร่างที่นี่ทำไม?”
ถ้าเป็นอดีต เย่หยุนเทาพูดจาเสียดสีลู่เสี้ยงหยางเย่สวนก็คงไม่สนใจมากนัก แต่ตอนนี้เธอกับลู่เสี้ยงหยางมีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งแล้ว เธอจะไม่ยอมให้ใครมาดูถูกเหยียดหยามลู่เสี้ยงหยางอีก
ลู่เสี้ยงหยางมองไปที่เย่สวนอย่างลึกซึ้ง รอยยิ้มที่แสนอบอุ่นค่อยๆ ปรากฏบนใบหน้าของเขา
เขารู้สึกดีที่ได้รับการปกป้องจากภรรยาของตัวเอง
แต่เย่หยุนเทากลับรู้สึกตกตะลึงกับสิ่งที่เจอ ที่ผ่านมาเย่สวนเป็นคนอ่อนแอที่คอยให้เขารังแกมาตลอด แต่ตอนนี้เธอกลับปีกกล้าขาแข็งไปแล้ว
ทันใดนั้น เลือดร้อนพลุ่งพล่านในความคิดของเขา เขาอยากเข้าไปบีบคอเย่สวนให้ตายไปข้าง แต่เมื่อคิดๆ แล้วสิ่งที่เย่สวนพูดนั้นก็เป็นความจริงเหมือนกัน
ตระกูลเย่ไม่ได้มั่นคงอีกต่อไปแล้ว มันอาจจะล้มละลายเมื่อไหร่ก็ได้
อีกอย่างตอนนี้เย่สวนยังมีทรัพย์สินมูลค่านับพันล้าน เขาจะกล้าต่อกลอนกับเธอได้อย่างไร?
แต่ด้วยนิสัยของเย่หยุนเทา แม้ว่าเขาจะรู้สึกด้อยกว่า แต่ก็ยังพูดกับเย่สวนอย่างปากแข็ง “ได้ ได้สิ เธอคอยดูนะว่าคุณย่าจะจัดการกับการกระทำของเธอในวันนี้อย่างไร”
“เชิญ” เย่สวนพูดอย่างเย็นชาด้วยสีหน้าเฉยเมย
ตอนนี้เธอหาเลี้ยงชีพด้วยการไลฟ์สดได้ นอกจากนี้เธอยังมีเงินมากกว่า 1 พันล้าน เธอไม่จำเป็นต้องพึ่งพาตระกูลเย่อีกต่อไป ดังนั้นเธอจึงมั่นใจในตัวเองได้
นอกจากนี้เธอยังรู้สึกผิดอยู่เสมอ เธอรู้สึกว่าเธอเป็นหนี้ความรู้สึกของลู่เสี้ยงหยางมามากพอแล้ว ดังนั้น ตอนนี้เธอจะใช้ทุกโอกาสเพื่อปกป้องลู่เสี้ยงหยาง
“เหอะ เย่สวน แล้วเธอจะเสียใจ” เย่หยุนเทาโกรธมาก เขาทิ้งประโยคสุดท้ายแล้วรีบออกจากบ้านของเย่สวนทันที
รอยยิ้มที่หายากก็ได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหลิวจิ้ง เธอพูดกับเย่สวนว่า “ลูกจ๋า เรื่องนี้ลูกตัดสินใจถูกแล้ว ครอบครัวเราถูกตระกูลเย่กลั่นแกล้งมามากพอแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาที่เราจะพลิกผันสักที”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนุ่มเศรษฐีลึกลับ