บทที่ 336 อันธพาลข้างทาง
เมื่อได้ยินเสียงพูดของคนขับรถบัสแล้ว ทุกคนก็เงยหน้าขึ้นและมองไปข้างหน้าอย่างไม่รู้ตัว
พวกเขาได้เห็นชายหนุ่มสามคนยืนขวางทางอยู่ตรงหน้า และมียายแก่คนหนึ่งถูกแบกอยู่หลังชายหนึ่งในสามคนนั้น
สีหน้าของยายคนนั้นดูโทรมและดูเจ็บปวดมาก
ในขณะนี้ ชายทั้งสามคนพยายามกวักมือเรียกรถบัส ดูเหมือนว่าพวกเขาพยายามโบกรถ
คนขับรถบัสทำงานให้ซุนยีเฉิน ดังนั้นเขาจึงมองไปที่ซุนยีเฉินเพื่อถามความคิดเห็นของเขาก่อน
ซุนยีเฉินกำลังหงุดหงิดอยู่ จึงไม่อยากใส่ใจเรื่องนี้
เขากำลังจะปฏิเสธโดยไม่ต้องคิดเพื่อบอกให้คนขับรถขับต่อไป แต่ในเวลานี้ จู่ๆ เขาก็นึกอะไรบางอย่างได้
หวังเสว่เป็นคนมีความยุติธรรมและใจดีต่อผู้อื่น ถ้าตอนนี้เขาทำความดี แล้วเธอจะประทับใจเขามากขึ้นไหม?
แต่ก่อนที่เขาจะพูดก็มีผู้หญิงหลายคนเอ่ยปากพูดขึ้นก่อนแล้ว
“คุณลุงคะ พวกเขาคงอยากนั่งรถเราไปด้วยนะ ดูเหมือนว่ายายแก่คนนั้นจะรีบไปหาหมอด้วย ลุงเปิดประตูให้เขาขึ้นมาสิ”
“จริงเหมือนกัน ลุงดูเขาสิ น่าสงสารนะ คงรีบไปโรงพยาบาลแน่เลย ลุงเปิดประตูให้พวกเขาขึ้นรถเถอะ”
ทันใดนั้นก็มีคนออกความคิดเห็นมากมาย
เมื่อลู่เสี้ยงหยางได้ยินคำพูดของคนเหล่านี้ก็รู้สึกตลกในใจ คนพวกนี้ไม่มีวิสัยทัศน์เลยจริงๆ
แวบแรกที่เห็น เขาก็สามารถสัมผัสถึงกลิ่นอายแห่งการสังหารที่เล็ดลอดออกมาจากชายสามคนนั้นได้ ถึงแม้จะนั่งอยู่ในรถ แต่เขารู้ว่าพวกเขาไม่ได้มาดีอย่างแน่นอน และถ้าหากสังเกตใกล้ๆ ก็จะเห็นตุ่มพองบนฝ่ามือของพวกเขา
ตุ่มพองนี้ไม่ได้มาจากการทำงานหนัก แต่เป็นแผลของการเสียดสีในการใช้อาวุธหรือการชกต่อยกระสอบทรายด้วยกำปั้น
โดยการสรุปจากสองข้อนี้แล้ว ลู่เสี้ยงหยางก็ยิ่งมั่นใจว่าชายทั้งสามคนนี้ต้องมีฝีมือในการใช้ศิลปะการต่อสู้และเคยก่อคดีฆาตกรรมมามากมายอย่างแน่นอน
แต่สำหรับคนขับรถกับคนในรถต่างก็อยากเปิดประตูรถบัสให้พวกเขาขึ้นมา
และในขณะนี้ ลู่เสี้ยงหยางก็พูดขึ้นมาว่า “ห้ามเปิดประตูรถ แล้วก็ อย่าให้พวกเขาขึ้นมา”
ว่าไงนะ?
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ทุกคนกลับหันมามองลู่เสี้ยงหยางเหมือนเห็นมนุษย์ต่างดาว
ให้ตายสิ ไอ้ลูกเขยกระจอกจิตใจดำ ไม่เห็นคนแก่กำลังป่วยอยู่เหรอ?
หวังเสว่มองไปที่ลู่เสี้ยงหยางแล้วถามอย่างประหลาดใจ “ทำไมเหรอ?”
เธอรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ผิดหวังในการกระทำคำพูดของลู่เสี้ยงหยาง
ลู่เสี้ยงหยางทำไมเป็นคนไร้น้ำใจเช่นนี้?
แต่ลู่เสี้ยงหยางคิดในใจ ถ้าหากเขาบอกกับทุกคนว่าชายสามคนนี้เป็นคนร้าย ทุกคนในรถต้องหาว่าเขาเป็นคนบ้าอย่างแน่นอน
ดังนั้นเขาจึงพูดได้เพียง “ที่นั่งบนรถมีการจำกัดจำนวนคน และตอนนี้มันก็เต็มทุกที่นั่งแล้ว ถ้าเรายังจอดรับคนพวกนี้อีก มันจะเป็นการผิดกฎหมายและต้องถูกปรับด้วย”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หวังเสว่ก็ยิ่งผิดหวังมากขึ้น เมื่อพูดในแง่ดีนั้น ลู่เสี้ยงหยางก็คือคนเคร่งกฎ แต่เมื่อพูดในแง่ลบแล้ว เขาก็คือคนเห็นแก่ตัว
เย่สวนส่ายหัวแล้วรีบพูดกับลู่เสี้ยงหยาง “คุณอย่าพูดมากเลย คุณยายคนนั้นดูน่าสงสารขนาดนี้ ให้เขาขึ้นมาเถอะ”
ก่อนที่ลู่เสี้ยงหยางจะพูดต่อ ซุนยีเฉินก็รีบลุกขึ้นมาชี้หน้าด่าลู่เสี้ยงหยาง “แมร้งเอ๊ย ไอ้ลู่เสี้ยงหยาง คุณมันกินข้าวฟรีเยอะไปใช่ไหม ถึงไร้พื้นฐานมนุษยธรรมแบบนี้ คุณไม่ต้องห่วงหรอก ถ้ารถคันนี้ถูกปรับผมจะรับผิดชอบเอง”
“นั่นสิ คนอะไรกัน?”
“เหอะๆ ยังมีคนแบบนี้ด้วย”
“หึหึ สมเป็นพวกหลอกกินข้าวฟรีจริงๆ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนุ่มเศรษฐีลึกลับ