บทที่ 465 นี่ถึงจะเป็นความสามารถอันยิ่งใหญ่
ในขณะนี้ จางเวยก็ร้อนอกร้อนใจที่จะจัดการลู่เสี้ยงหยางให้ตายแล้ว
อย่างไรเสียไอ้เด็กนี่ก็เพิ่งจะคุยโวโอ้อวดตอบกลับคำพูดกับตนเองอย่างไม่อาย ให้ตนเองจ่ายสิบล้านมาซื้อชีวิต
ดีสิ เช่นนั้นตอนนี้ตนเองก็ให้โอกาสเขาสักครั้ง
ต่อมา ยกมือขึ้น พูดกับคนของเขาทุกทิศทางว่า "พี่น้องทั้งหลาย ต่อมาจัดการไอ้เด็กนี่ให้ตายให้ฉันซะ"
"รับทราบ ลูกพี่" ลูกน้องไม่น้อยตอบกลับ ถูมือถูเท้าเตรียมจะเริ่มลงมือ
ในตอนนี้ พวกเขาก็ไม่มีความกังวลใดแล้ว
ตามองเห็นการปะทะของทั้งสองฝั่งกำลังจะระเบิดขึ้นอย่างฉับพลัน เฉินซวงซวงถูกทำให้ตกใจจนใบหน้าซีดขาว ร่างงามสั่นระริก พูดกับหานเชียนเชียนว่า "เชียนเชียน ไม่เช่นนั้นเธอโทรไปหาคุณปู่สามของเธออีกครั้งดีไหม ให้เขาปกป้องนายคนนี้ด้วยกันอีกคน"
หานเชียนเชียนส่ายหน้า เอ่ยอย่างทำอะไรไม่ได้ "ฉันอยู่ในตระกูลมีฐานะอะไร เธอก็รู้ เมื่อครู่คุณปู่สามเพิ่งจะออกหน้าแก้ปัญหาให้พวกเรา ก็ให้หน้ามากแล้ว ถ้าตอนนี้ฉันโทรไปหาเขาอีกครั้ง เกรงว่าผลที่ได้ตรงข้ามกับความคาดหวัง"
"นี่...งั้น งั้นพวกเราทำได้เพียงมองเขาไปตายเฉยๆ หรือ? " เฉินซวงซวงดวงตาใกล้จะแดงแล้ว ถึงแม้ช่วงเวลาที่รู้จักลู่เสี้ยงหยางจะไม่มาก แต่ในใจเธอเอาลู่เสี้ยงหยางไว้เป็นเพื่อนที่ไม่มีอะไรไม่พูดกันแล้ว
หานเชียนเชียนเงียบงันไม่พูดจา ถึงแม้ในใจจะเป็นทุกข์ ก็ไม่อาจตัดใจมองลู่เสี้ยงหยางถูกคนพวกนี้ตีตายทั้งเป็น แต่ก็จนปัญญา
อย่างไรก็เป็นเรื่องที่เกินขอบเขตกำลังของตนเอง ตนเองก็ทำไม่ได้ เฮ้อ จะโทษก็โทษนายนั่นที่เมื่อครู่ไม่ฟังคำเตือน นี่ไม่ใช่ว่าตัวเองอยู่ต่อหาความตายหรือ ถ้าเมื่อครู่เขาฟังคำของตน รีบหนีไปให้ไว ก็สามารถรักษาชีวิตน้อยๆ นี้ไว้ได้แล้ว
อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์เช่นนี้ ที่ทำให้ทุกคนคิดไม่ถึงก็คือ ลู่เสี้ยงหยางถึงแม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่อับจน แต่ก็ยังคงสงบนิ่ง ควักโทรศัพท์ออกมาอย่างเชื่องช้า โทรศัพท์ออกไปสายหนึ่ง
รอจนวางสายโทรศัพท์แล้ว เขามองจางเวยแสยะยิ้มมุมปาก "ตอนนี้ถ้าจะคุกเข่าลง เป็นหมาปั๊กสักตัวหนึ่ง หรือว่าจะจ่ายสิบล้านซื้อชีวิตสุนัขของแก"
อะไรนะ? ไอ้บ้านี่!
คำพูดนี้เพิ่งหลุดออกมา ทุกคนก็โกรธจนหัวเราะ นี่มันเวลาไหนแล้ว ไอ้เด็กนี่ยังจะเสแสร้ง
หานเชียนเชียนคนนั้นโทรศัพท์ออกไป สามารถขอความช่วยเหลือจากตระกูลหาน แกมันไอ้ไก่อ่อนคนหนึ่ง โทรศัพท์ออกไป ขอความช่วยเหลือจากใครได้?
ฮ่าๆ ไอ้เด็กนี่ไม่ต้องตลกขนาดนี้ก็ได้
เฮียเปียวแม้แต่น้ำตาก็หัวเราะจนไหลออกมาแล้ว ชี้ไปที่ลู่เสี้ยงหยางแล้วเอ่ยว่า "เด็กน้อย อีกครู่หนึ่งฉันจะให้แกได้ลิ้มลองรสชาติของการตายไปยังดีกว่าการมีชีวิตอยู่ ค่อยๆ ลิ้มลองเถอะ"
พูดจบมือข้างหนึ่งของเขาก็ยกไม้เบสบอลในมือ เตรียมจะพุ่งไปที่ลู่เสี้ยงหยาง
ติ๊งๆ!
ก็เป็นในตอนนี้ โทรศัพท์ของจางเวยดังขึ้นมา
ควักออกมาดู เกือบจะทำให้เขาตกใจจนวิญญาณหลุดลอย
เพียงแค่เห็นหน้าจอแสดงสองตัวอักษร--'ลูกพี่'
ถึงแม้จะพูดว่าเขาจางเวยเป็นจักรพรรดิของที่ทางแถบนี้ แต่ที่สุดแล้วก็ยังเป็นแค่นักเลงตัวเล็กๆ
ปัจจุบันนี้โลกใต้ดินทั่วทั้งปินเหอถูกรวมเป็นหนึ่งแล้ว ที่นี่ยังเป็นอาณาบริเวณของปินเหอ แน่นอนว่าเป็นธรรมดาที่ยกหลิวผิงและถังหลงให้ใหญ่ที่สุด
อีกทั้งในมือของถังหลงและหลิวผิง มีลูกน้องอยู่หกคน หกคนนี้แบ่งกันดูแลปินเหอแต่ละเขตตามลำดับ
ที่บังเอิญก็คือ จางเวยก็อยู่ในลูกน้องทั้งหกคนนี้
เพียงแต่ว่าภายในลูกน้องหกคนนี้ จางเวยเป็นผู้ที่มีฐานะต่ำที่สุดคนนั้น
"แปลก ลูกพี่โทรมาหาตนเองตอนนี้ทำไมกัน หรือว่ามีเรื่องด่วนหรือ? " จางเวยตื่นตระหนกกดปุ่มรับสาย
แต่ยังไม่รอให้เขาเปิดปากพูดคุย พลันมีเสียงด่าทอเสียงหนึ่งดังคว่ำใส่หน้าของจางเวย
จางเวยตอนแรกงุนงง ยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ถูกด่าแล้ว แต่หลังจากนั้น เขาก็ยิ่งกลัวจนหัวใจแทบกระดอน คิดไม่ถึงว่า ตอนนี้คนที่เขาล่วงเกินถึงกับเป็นลูกพี่ใหญ่ของลูกพี่ คือคนเบื้องหลังของคนเบื้องหลังของเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนุ่มเศรษฐีลึกลับ