อ่านสรุป ภาค 1 ตอนที่ 4 ข้ากับการเริ่มต้นใหม่ จาก ฮูหยินไร้พ่าย โดย เสาเย่า
บทที่ ภาค 1 ตอนที่ 4 ข้ากับการเริ่มต้นใหม่ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายใช้ชีวิต ฮูหยินไร้พ่าย ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย เสาเย่า อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
4
ข้ากับการเริ่มต้นใหม่
หลี่ซิ่วอิง
หลังจากที่องค์หญิงอู๋เซียวเหยา เข้าเฝ้าฮ่องเต้ซึ่งเป็นพี่ชายขององค์หญิง หลังจากที่คุยกันเสร็จเรียบร้อยแล้วองค์หญิงก็กลับมาด้วยใบหน้าที่สดชื่นขึ้นมากว่าก่อนไปดูแล้วมีความสุขกับรอยยิ้มขององค์หญิงข้าก็อยากรู้ว่าจะเป็นเช่นไรแต่ก็ไม่กล้าถาม จึงได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจ แต่เมื่อสังเกตองค์หญิงแล้วแสดงว่า ต้องมีข่าวดีอย่างแน่นอน องค์หญิงเมื่อมาถึงก็ไม่ปล่อยให้ข้าทนสงสัยได้นาน จึงเอ่ยปากขึ้นมาก่อนที่ข้าจะถามนาง เสียอีก
"สหายข้า ข้ามีข่าวดีมาบอกเจ้าเมื่อกี้นี้ข้าไปเข้าเฝ้าเสด็จพี่ทูลร้องขอความเป็นธรรมให้แก่เจ้าตรัสว่าไม่ให้เจ้าสอบเข้ากองทัพแล้วแต่ให้เจ้าขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นท่านแม่ทัพทันทีและให้เจ้าคอยดูแลหัวเมืองฝั่งซ้ายแทนแม่ทัพใหญ่ที่เคยดูแลทั้งหมดและท่านแม่ทัพใหญ่ต้องโดนลงโทษเพราะดูหมิ่นเชื้อพระวงศ์เช่นข้า"
“องค์หญิงเพคะ หม่อมฉันจะไม่โดนผู้อื่นต่อว่าข้อหาใช้เส้นขององค์หญิงที่เป็นขนิษฐาของฝ่าบาทหรือเพคะ หม่อมฉันไม่อยากถูกกล่าวหาโดยไร้ซึ่งความผิดนะเพคะ"
" เรื่องนั้นเจ้าไม่ต้องห่วงเสด็จพี่กล่าวไว้ว่าจะออกราชโองการประทานยศให้แก่เจ้าหากใครดูหมิ่นในตัวเจ้าก็เปรียบเสมือนดูหมิ่นพระองค์โดยเช่นกันเจ้าไม่ต้องห่วงพวกมันโกงเจ้าก่อนไม่เช่นนั้นเจ้าจะทวงสิทธิ์ของตนเองทำไมจงจำไว้เจ้าทำดีก็ได้รับผลตอบแทนจงจำเอาไว้"
“ถ้าเช่นนั้นหม่อมฉันขอทูลลานะเพคะ"
“งั้นข้าจะให้คนของข้าไปส่งเจ้าดีไหม"
“คงไม่ดีมั้งเพคะ"
"สกุลหยางไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่ที่ไปหักแขนขาบุตรชายของพวกเขาเช่นนั้นงั้นเอาอย่างนี้ก็แล้วกันนะให้กุนซือซึ่งเป็นคนรู้จักของข้านั้นไปส่งเจ้าแล้วให้องครักษ์ของข้าไปตามดูแลเจ้าดีกว่า"
"แต่ว่า...”
"เจ้ากล้าทำลายความปราทนาดีของข้าหรือ"
"ไม่ใช่อย่างนั้นนะเพคะงั้นแล้วแต่องค์หญิงเลยเพคะ"
"งั้นอาหลิงไปตามหลิวจวินไปส่งซิ่วอิงที่จวนที"
"เพค่ะ"
เพียงไม่นานหลิวจวินที่องค์หญิงเรียกหาก็ปรากฏกายขึ้นมา ชายหนุ่มรูปร่างผอมสูงผิวไม่ขาวและก็ไม่ดำ ใบหน้ามีหนวดเคราขึ้น รุงรัง ยังกับโจรป่าเจ้าเล่ห์เพทุบายก็ปรากฏกายขึ้นแม้จะมองภายนอกว่าอีกฝ่ายรู้สึกอย่างกับโจรป่าแต่พอมองดีๆใบหน้าหล่อเหลาคมคายนั้นก็ยังทะลุออกมาแต่ก็หาได้สนใจที่หน้าตาดีกว่านี้รูปงามกว่านี้ก็เห็นมานักต่อนักแล้วแต่ก็ไม่สามารถ เปลี่ยนใจที่แข็งกระด้างของข้าได้
"ข้าหลิวจวิน ยินดีที่ได้พบท่านแม่ทัพคนใหม่"
"ท่านกุนซือเกรงใจกันไปแล้วตอนนี้เราออกไปจากตำหนักขององค์หญิงกันเถอะ"
"ได้งั้นข้าจะพาเจ้ากลับจวนของเจ้าตอนนี้ก็เริ่มค่ำแล้วข้าจะไปส่งเจ้าเอง"
"ขอบคุณท่านกุนซือมาก"
"ไม่เป็นไรข้ายินดี"
วันต่อมา
ข้าได้รับราชโองการให้เข้ามารับตำแหน่งแม่ทัพคนใหม่ตามที่องค์หญิงอู๋เซียวเหยาบอกกล่าวกับข้าเมื่อวันก่อน ขันทียศสูงเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าจวนของข้าแล้วประกาศราชโองการแต่งตั้งต่อหน้าประชาชนทั่วไปอย่างบ่งบอกให้รู้ว่าข้าคือคนที่ก้าวสูงกว่าคนอื่นในตอนนี้และประกาศเป็นนัยว่าไม่สมควรยุ่งกับข้าที่ได้ตำแหน่งมาด้วยมือของข้าโดยไม่โกงใครข้ายื่นมือไปรับราชโองการตามคำบอกของขันทีของฝ่าบาทก่อนที่ขันทีจะบอกลาข้าว่าจะกลับวังแล้วไม่ต้องไปส่งข้าจึงมองตามทันทียศสูงที่เดินขึ้นเกี้ยวกลับวังไป
"ยินดีด้วยท่านพี่ซิ่วอิง"
"เจ้าชั่งปากหวานยิ่งนักหลิวหยาง"
"มาเถอะท่านพี่มาทานอาหารกันเถอะข้าเตรียมอาหารเพื่อท่านพี่เลยนะเจ้าค่ะ"
"ดีจริงๆ...หลิวหยางเจ้าอยากเปิดร้านขายอาหารมั้ย"
"ท่านพี่จะทำให้ข้างั้นหรือเจ้าค่ะ"
"เจ้าอยากได้มั้ย"
"อยากได้เจ้าค่ะ"
"ดี เราสองคนไปดูร้านกันในตอนเย็นดีมั้ย"
"ดีเจ้าค่ะ"
"ซิ่วอิงเจ้าอยู่มั้ย"
"ใครมาท่านพี่"
"ข้าก็ไม่รู้"
ข้าวางตะเกียบลงก่อนจะมุ่งหน้าไปที่ประตูจวนของข้าถามว่าทำไมไม่มีสาวใช้ข้าพึ่งได้จวนใหม่ได้ไม่นานแถมยังไม่อยากใช้เงินจ้างคนมากมายถึงจะได้จวนใหม่มาแต่ก็อยู่กันแค่สองคนพี่น้องเท่านั้น ข้าเดินไปเปิดประตูจวนก็เห็นกุนซือหลิวยืนรอข้าอยู่หน้าประตู
"กุนซือหลิว เชิญข้างในก่อนเจ้าค่ะ"
"รบกวนท่านแม่ทัพแล้ว"
"ไม่ต้องเกรงใจข้าอยู่กับน้องสาวแค่สองคน"
"ขอบคุณ"
"ท่านทานอาหารมาหรือยังมาทานอาหารเช้าด้วยกันก่อนสิ"
"ขอบคุณมาก"
"ท่านมาหาข้ามีเรื่องอะไรหรือ"
"ข้าเพียงอยากมาหาเจ้า"
"งั้นหรือ"
"ข้าเอาของมาฝากเจ้าด้วย"
"ไม่เห็นต้องนำอะไรมาฝากข้าเลย"
"ไม่ลำบากหรอกข้าเพียงอยากมอบให้"
"ขอบคุณท่านกุนซือมาก"
........
.......
....
ค่ายทหาร
ในปีนี้ตัวข้าเองได้มีโอกาสมายังค่ายทหารแห่งนี้แคว้นอู๋แม้จะมีกำลังคนไม่มากเท่าแคว้นหรงที่ข้าที่ยังเป็นเพียงผู้เยาว์ในวัยนั้นมีโอกาสตาท่านแม่ไปยังค่ายทหารที่มีทั้งสตรีและบุรุษที่ออกรบช่วยกันข้าที่ยังยังไม่เก่งเท่าตอนนี้ก็คอยมองพวกเหล่าทหารฝึกซ้อมรบกัน ข้าคิดถึงตอนนั้นจริงๆการได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาของครอบครัวของเราแต่ตอนนี้ข้ายังไม่อาจกลับไปยังบ้านเกิดได้เพราะท่ารแม่เคยพูดเอาไว้กี่ยวกับแคว้นหรงของเรา
“เจ้าเหมออะไรหรือ”
“ข้าไม่เป็นอะไรท่านกุนซือพักอยู่ที่นี้หรือ”
"หลิวจวิน อื้อ!! ข้า..อื้อ.."
"ข้าต้องการเจ้า...ซิ่วอิง”
"อื้อ!!!"
ร่างกายร้อนผ่าวทั้งสองร่างกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอย่างเมามันความรักที่อดกั้นมานานหลายปีได้ปลดปล่อยออกมาในวันนี้ร่างของทั้งคนทั้งสองแนบชิดกันมอบความอบอุ่นและความรักให้แก่กันและกันอย่างหวานซึ่ง
วันต่อมา
วันนี้ ข้าออกไปซื้อของและซื้อผ้าเนื้อดีเอามาตัดชุดแต่งงานของข้า และเตรียมของแต่งงานในอีก 2 เดือนข้างหน้าของข้ากับ กุนซือหลิว เมื่อคืนที่ข้ากับเขามอบความรักให้แก่กันจนถึงเช้าบ่ายของวันนี้ข้าจะมีแรงออกมาซื้อของข้าคงยังไม่ได้เล่าเมื่อ 2 ปีก่อนน้องสาวของข้าได้ออกเรือนไปกับรองแม่ทัพ ซึ่งที่จวนของข้าก็เหลือแต่เพียงผู้เดียว ข้าจึงต้องอยู่ผู้เดียว แต่เมื่อคืนนี้ค่าไฟค้างที่จวนของกุนซือหลิว แต่ก็ไม่ได้ย้ายไปอยู่ที่นั่นหรอกนะข้ายังอยากที่จะอยู่ที่จนของข้าเช่นเดิมในก่อนแต่งงานก็ควรอยู่จวนองตัวเองแค่ใจง่ายยอมเขาเมื่อวานก็น่าอายเกินพอมากแล้ว
"ซิ่วอิง ผ้าผื่นนี้ก็เนียนสบายมากเลยนะ"
"อืมข้าก็ว่างั้น เฒ่าแก่ข้าเอาผืนนี้"
"แม่นางเลือกได้เก่งจริงๆผ้าผืนนี้ข้าพึ่งได้มาจากเมืองทางใต้บอกผ้าผืนนี้นั้นมาจากโรงทออี้เหรินที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากเลยนะยี่สิบห้าตำลึงขอรับ"
"นี้เงินของเจ้าเฒ่าแก่"
"พวกเจ้ากำลังจะแต่งงานกันหรือ"
"ใช่แล้วเฒ่าแก่ท่านตาถึงจริงๆ"
"ข้าดูดวงเป็นนะ ไอหยา...ข้าคงดูไม่ได้แล้วล่ะแม่นาง"
"อ้าวทำไมล่ะ"
"ข้าดูไม่ได้จริงๆงั้นข้าจะแถมผ้าให้เจ้าอีกผืนนะแม่นาง"
"งั้นก็ได้ขอบคุณท่านมากนะท่านผู้เฒ่า"
"เชิญๆ"
...
...
"อุ๊ย! ดูสิใครมา"
"นั้นสิข้าก็นึกว่าใครกันที่มาตลาดเดียวกับข้า"
"กลายเป็นแม่ทัพไม่กี่ปีหยิ่งพยองขึ้นเยอะเลยนะหลี่ซิ่วอิง"
"ใช่สิไม่เจอกันนานฮูหยินหยางยังคงปากหาเรื่องเจ็บตัวอยู่เลย!"
"เจ้า!!!"
"แล้วจะทำไม เจ้ายังคอยหาเรื่องข้าไม่เว้นวันอยู่เลยสตรีเช่นเจ้าจะทำอะไรข้าได้งั้นหรือ!!"
"เจ้า!!!!"
"ข้าจะบอกเจ้าให้ได้รู้ว่าข้ากำลังจะแต่งงาน แล้วเลิกคิดว่าข้าจะมาเอาสามีของเจ้าสักทีเถอะข้ารังเกียจไปกันเถอะหลิวจวิน"
"อืม"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฮูหยินไร้พ่าย
เปลี่ยนชื่อเรื่องเป็น่ฮูหยิน กระบือเถอะ...