หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 127

เมธาวินจากห้องทำงานไปอย่างรีบร้อน เขากลัวว่าธนพัตกับชรัณจะเปลี่ยนใจ แล้วใช้อุบายอะไรกับตัวเองอีก รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหางก่อนจะดีกว่า แต่ว่าเรื่องที่รับปากธนพัต เขาจะต้องทำได้อย่างแน่นอน

คำพูดของเมธาวินทำให้ธนพัตตกอยู่ในห้วงความคิด 

เหมือนอย่างที่เมธาวินพูด เพื่อนของเขาส่วนใหญ่เป็นคนที่สนิทใกล้ชิด และยังมีเหล่าเพื่อนลูกค้าที่ร่วมมือกันมาหลายปี หรือว่าผู้ชายที่ข่มเหงสาริศาจะเป็นหนึ่งในนั้น

ในบรรดาคนเหล่านี้ จะมีคนที่เขารู้จักไหม

ดวงตาของธนพัตหม่นลง สีหน้าดูแย่ขึ้นเรื่อย ๆ 

ถึงแม้เรื่องราวเมื่อสองปีก่อนจะเป็นเพียงอุบัติเหตุ แต่เขาก็ได้ตัดสินใจแล้วว่าจะสั่งสอนผู้ชายคนนั้น แต่ถ้าผู้ชายคนนั้นคือคนที่เขารู้จัก จะไม่ดูอึดอัดเหรอ

แต่เมื่อนึกถึงความเจ็บปวดที่สาริศาได้รับ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นใคร เขาจะไม่มีทางปล่อยไปอย่างแน่นอน

กล้าแตะต้องผู้หญิงของเขา แถมยังกระทำก่อนหน้าเขาอีก

สมควรตายชะมัด

ชรัณไม่ค่อยไว้ใจเมธาวิน มักรู้สึกว่าคนคนนี้ ไม่ว่าจะเป็นการพูดจาหรือว่าการกระทำรู้สึกไม่ค่อยน่าเชื่อถือ

เขาถามขึ้น “คุณธนพัตเชื่อคำพูดของเมธาวินจริงเหรอ ”

ธนพัตครุ่นคิด จากนั้นกล่าวหนักแน่น “หลายปีที่เป็นเพื่อนกับเมธาวิน ฉันค่อนข้างรู้จักคนคนนี้ดี เขาไม่ใช่คนที่กล้าทำแล้วไม่กล้ารับ แต่สำหรับความเชื่อมั่นในการงานของเขานั้น เป็นเรื่องที่พูดยากจริง ๆ”

ชรัณพยักหน้าเข้าใจโดยปริยาย

ธนพัตจึงกล่าว “หวังว่าเขาจะช่วยฉันสืบอะไรบางอย่างได้เถอะ  อย่างน้อยพวกเราก็ใกล้เข้าความจริงอีกหนึ่งก้าว”

ในขณะเดียวกัน ที่คฤหาสน์ ตระกูลกีรติเมธานนท์ โชติ ผู้ช่วยของบุรินทร์ได้มารายงานการทำงาน

ก่อนอื่นเขาได้รายงานงานบางส่วนให้บุรินทร์ที่กำลังฟังอยู่ จากนั้นก็จดบันทึกลงในแล็ปท็อป

บุรินทร์ถาม “ยังมีเรื่องอื่นที่ต้องการรายงานอีกไหม แค่นี้เหรอ”

โชติที่ยืนตัวตรง ยึดอก เขาคิดว่าเรื่องที่จะรายงานต่อไปนี้นั้นสำคัญมาก

เขากล่าว “ยังมีครับ ประธานบุรินทร์ ผมได้ข่าวใหญ่มา เป็นข่าวที่ใหญ่มาก ๆ !”

บุรินทร์เบิกตากว้าง จากนั้นกล่าว “อย่างนั้นก็รีบ ๆ พูดมาสิ ชักช้าทำไม”

โชติจึงกล่าวต่อ “คืออย่างนี้ครับ ประธานบุรินทร์  ตอนบ่ายเมื่อสองสามวันก่อน ผมได้ยินข่าวจากโรงแรมเซ็นจูรี่ ว่ามีสองสามคนทะเลาะกันที่หน้าล็อบบี้ของโรงแรม มีผู้หญิงคนหนึ่งได้ดื่มจนเมามาย……”

เวลานี้บุรินทร์แทบอยากจะเบิ๊ดกะโหลกของโชติจริง ๆ เรื่องแบบนี้มีเกลื่อนตามท้องถนน พักนี้เขาแอบขี้เกียจหรือเปล่า หรือเห็นว่าเงินเดือนต่ำเกินไป หรือว่าไม่อยากจะทำงานแล้ว!

โชติเห็นท่าทีที่ไม่ค่อยดีของบุรินทร์ จึงรีบกล่าวขึ้น “ดูสิ ท่านใจร้อนอีกแล้ว ผมยังไม่ทันพูดจบเลย ท่านฟังผมพูดให้จบก่อนสิครับ ”

“ยังไม่รีบพูดอีก!” โชติคนนี้ เวลาพูดมักจะหายใจหอบตลอดเวลา จนบุรินทร์ทนไม่ไหวกับการรายงานของเขาแต่ละครั้ง ที่มักทำให้เขาเข็ดฟันอยู่เรื่อย

โชติยิ้มอย่างโล่งอกและกล่าวขึ้น “เดิมทีนี่ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหรอกครับ เพียงแต่ที่น่าแปลกคือกล้องวงจรปิดทั้งหมดของโรงแรมถูกลบทิ้งไปหมด! ดังนั้น ด้วยความฉลาดหลักแหลมของฉัน ฉันรู้สึกว่าเรื่องนี้จะต้องไม่ชอบมาพากลอย่างแน่นอน เพราะว่าคืนวันนั้นดูเหมือนธนพัตจะไปที่นั่น สาริศาไปที่นั่น และธีภพก็ไปที่นั่น”

“ทำไมนายไม่พูดตั้งแต่แรก” บุรินทร์ถามด้วยความสงสัย “จากนั้นล่ะ นายได้ไปสืบได้อะไรมา ใครเป็นลบกล้องวงจรปิดนั้น ธนพัตเหรอ”

โชติพยักหน้าอย่างหนักแน่นแล้วกล่าว “ใช่ครับ ท่านเดาถูกแล้วประธานบุรินทร์ เป็นธนพัตที่สั่งให้ชรัณไปลบกล้องวงจรปิดของโรงแรมจริง ๆ แต่ว่ายังมีเรื่องที่น่าแปลกกว่านี้อีก”

บุรินทร์ถูกโชติเรียกน้ำย่อย จึงรอฟังอย่างเงียบ ๆ ในนี้จะต้องมีเรื่องที่ไม่ชอบมาพากลอย่างแน่นอน สาริศา ธีภพ ธนพัต กล้องวงจรปิดของโรงแรม……ในใจของเขารู้สึกราง ๆ ว่าเรื่องการลบกล้องวงจรปิดนี้ ธนพัตต้องการปกปิดอะไรบางอย่างแน่นอน

โชติกล่าว “โรงแรมลูกค้าคนหนึ่ง ได้เห็นคนที่หน้าเหมือนกับธพนพัตมากในคืนนั้น แต่ว่าคนคนนั้นไม่ได้นั่งอยู่บนรถเข็น แต่กลับยืนอยู่ เป็นผู้ชายปกติที่สามารถเดินวิ่งได้

บุรินทร์ช็อกมาก เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้

นี่ช่างเป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงจริง ๆ !

เขาจับคอเสื้อของโชติแล้วตะคอกขึ้น “นายแน่ใจนะ! ว่านี่เป็นเรื่องจริง!”

หลังจากที่โชติถูกบุรินทร์จับไว้ เขารู้สึกว่าเริ่มหายใจไม่ออก เขาพยายามหายใจพลางกล่าว “ผมแค่คาดเดาครับ ไม่อย่างนั้นทำไมเขาต้องลบ……กล้องวงจรปิดของโรงแรม”

บุรินทร์คลายมือออก โชติจึงไอแค่ก ๆ สองสามที

ใช่ ไม่ได้กระทำเรื่องผิดมาย่อมไม่กลัวผีสางเคาะประตู ธนพัตลบวงจรปิดของโรงแรม จุดประสงค์มีเพียงสองอย่าง หนึ่งคือสาริศา สองคือตัวเขาเอง!

บุรินทร์ให้โชติรีบส่งคนไปสืบมาให้ละเอียด อย่างปล่อยให้พลาดแม้แต่รายละเอียดใด ๆ 

โชติรู้สึกลำบากใจเล็กน้อย เขาจึงกล่าวขึ้น “คนที่เห็นกันนั้น ตอนนี้ต่างหาไม่เจอแล้วครับ จับพิรุธของเขาไไม่ได้

ในใจของบุรินทร์เริ่มรู้สึกเป็นกังวล จนถึงขั้นที่กลัว

หากว่าลูกค้าคนนี้เห็นนั้นเป็นธนพัตจริง ๆ อย่างนั้นธนพัตตั้งใจปิดบังคู่ขาของตัวเองที่ไม่ได้พิการ จุดประสงค์ของเขาคืออะไร เรื่องนี้คุณปู่ท่านรู้เรื่องไหม

โชติเห็นบุรินทร์ขมวดคิ้ว จึงถามขึ้น “คุณบุรินทร์ครับ หรือไม่พวกเราลองวิธีเมื่อสิบก่อนอีกครั้ง ท่านคิดว่าอย่างไรครับ”

เมื่อสิบปีที่แล้วธนพัตเป็นเพียงหมาป่าตัวน้อย แต่ว่าตอนนี้ธนพัตไม่เพียงแต่เป็นราชาหมาป่า ยังเป็นถึงสัตว์ร้าย ธนพัตเสียเปรียบไปแล้วครั้งหนึ่ง จึงได้แข็งแกร่งขึ้น จึงไม่ง่ายที่จะรับมือ ยิ่งไปกว่านั้น เขามีการระมัดระวัง ไม่ง่ายที่จะทำประสบผลสำเร็จ

บุรินทร์ดุด่า “ไม่เอาไหน! นายคิดว่าตอนนี้จับธนพัตนั้นเป็นเรื่องง่ายเหรอ รอบกายเขายังมีชรัณ อาศัยนายจะสู้เขาได้เหรอ นอกจากเขาจะนอนหลับแล้ว ก็ไม่เคยอยู่ห่างธนพัตเลย”

โชติระอาใจที่ฝีมือของเขาไม่สามารถสู้ชรัณ แต่ว่าเขาฉลาด

เขาจึงเสนอวิธีหนึ่ง กล่าวขึ้น “คุณบุรินทร์ครับ ความหมายของผมคือ……พวกเราสามารถลงมือจากผู้หญิงข้างกายของธนพัต สาริศาภรรยาของเขาที่เพิ่งแต่งงานกัน ผมเห็นเขาค่อนข้างชอบเธอมาก จนแทบอยากจะกุมเธอไว้ในฝ่ามือทุก ๆ วัน”

สาริศา? เขาเคยเห็นเธอ คุณปู่ก็ดูเหมือนจะตามใจเธอมาก ยังจำวิดีโอที่ปล่อยออกมาในวันนั้นได้ เห็นทีว่าผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ธรรมดา เบื้องหลังและภูมิหลังล้วนเป็นปริศนา ดูจากวิดีโอแล้ว ธนพัตคนนี้ไม่น่าจะใช่ผู้หญิงดีเด่นอะไร แต่ว่า สามารถได้รับความโปรดปรานจากธนพัตได้ เธอจะต้องแตกต่างจากคนทั่วไป

เขาพยักหน้า และกล่าวชื่นชมโชติ “สาริศา ใช่ ดี ดีมาก โชติ ครั้งนี้นายพูดได้เป็นภาษามนุษย์มาก”

โชติถูกชื่นชมเช่นนี้ กลับไม่รู้ว่าจะตอบกลับอย่างไร ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้พูดภาษามนุษย์เหรอ หรือว่าพูดเรื่องไร้สาระ ก็เปล่านิ

บุรินทร์เพิ่งจะเข้าใจเจตนาเดิมของโชติ จึงกล่าวรีบเร่งขึ้น “นายยังยืนอึ้งอะไรอีก รีบไปเตรียมการสิ! เรื่องนี้ถ้านายจัดการได้ดี มีรางวัลอย่างงาม!”

โชติได้รับคำสั่งแล้วก็ออกไป

ธนพัต ความลับของแกถูกเปิดเผยแล้ว จุดอ่อนของแกก็คือสาริศา! ขอเพียงกุมสองชีพจรนี้ไว้ ธนพัตชีวิตของแกถึงทางตันแล้ว

เมื่อคิดถึงตรงนี้ บุรินทร์ก็เผยรอยยิ้มที่โหดเหี้ยมออกมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ