เมธาวินจากห้องทำงานไปอย่างรีบร้อน เขากลัวว่าธนพัตกับชรัณจะเปลี่ยนใจ แล้วใช้อุบายอะไรกับตัวเองอีก รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหางก่อนจะดีกว่า แต่ว่าเรื่องที่รับปากธนพัต เขาจะต้องทำได้อย่างแน่นอน
คำพูดของเมธาวินทำให้ธนพัตตกอยู่ในห้วงความคิด
เหมือนอย่างที่เมธาวินพูด เพื่อนของเขาส่วนใหญ่เป็นคนที่สนิทใกล้ชิด และยังมีเหล่าเพื่อนลูกค้าที่ร่วมมือกันมาหลายปี หรือว่าผู้ชายที่ข่มเหงสาริศาจะเป็นหนึ่งในนั้น
ในบรรดาคนเหล่านี้ จะมีคนที่เขารู้จักไหม
ดวงตาของธนพัตหม่นลง สีหน้าดูแย่ขึ้นเรื่อย ๆ
ถึงแม้เรื่องราวเมื่อสองปีก่อนจะเป็นเพียงอุบัติเหตุ แต่เขาก็ได้ตัดสินใจแล้วว่าจะสั่งสอนผู้ชายคนนั้น แต่ถ้าผู้ชายคนนั้นคือคนที่เขารู้จัก จะไม่ดูอึดอัดเหรอ
แต่เมื่อนึกถึงความเจ็บปวดที่สาริศาได้รับ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นใคร เขาจะไม่มีทางปล่อยไปอย่างแน่นอน
กล้าแตะต้องผู้หญิงของเขา แถมยังกระทำก่อนหน้าเขาอีก
สมควรตายชะมัด
ชรัณไม่ค่อยไว้ใจเมธาวิน มักรู้สึกว่าคนคนนี้ ไม่ว่าจะเป็นการพูดจาหรือว่าการกระทำรู้สึกไม่ค่อยน่าเชื่อถือ
เขาถามขึ้น “คุณธนพัตเชื่อคำพูดของเมธาวินจริงเหรอ ”
ธนพัตครุ่นคิด จากนั้นกล่าวหนักแน่น “หลายปีที่เป็นเพื่อนกับเมธาวิน ฉันค่อนข้างรู้จักคนคนนี้ดี เขาไม่ใช่คนที่กล้าทำแล้วไม่กล้ารับ แต่สำหรับความเชื่อมั่นในการงานของเขานั้น เป็นเรื่องที่พูดยากจริง ๆ”
ชรัณพยักหน้าเข้าใจโดยปริยาย
ธนพัตจึงกล่าว “หวังว่าเขาจะช่วยฉันสืบอะไรบางอย่างได้เถอะ อย่างน้อยพวกเราก็ใกล้เข้าความจริงอีกหนึ่งก้าว”
ในขณะเดียวกัน ที่คฤหาสน์ ตระกูลกีรติเมธานนท์ โชติ ผู้ช่วยของบุรินทร์ได้มารายงานการทำงาน
ก่อนอื่นเขาได้รายงานงานบางส่วนให้บุรินทร์ที่กำลังฟังอยู่ จากนั้นก็จดบันทึกลงในแล็ปท็อป
บุรินทร์ถาม “ยังมีเรื่องอื่นที่ต้องการรายงานอีกไหม แค่นี้เหรอ”
โชติที่ยืนตัวตรง ยึดอก เขาคิดว่าเรื่องที่จะรายงานต่อไปนี้นั้นสำคัญมาก
เขากล่าว “ยังมีครับ ประธานบุรินทร์ ผมได้ข่าวใหญ่มา เป็นข่าวที่ใหญ่มาก ๆ !”
บุรินทร์เบิกตากว้าง จากนั้นกล่าว “อย่างนั้นก็รีบ ๆ พูดมาสิ ชักช้าทำไม”
โชติจึงกล่าวต่อ “คืออย่างนี้ครับ ประธานบุรินทร์ ตอนบ่ายเมื่อสองสามวันก่อน ผมได้ยินข่าวจากโรงแรมเซ็นจูรี่ ว่ามีสองสามคนทะเลาะกันที่หน้าล็อบบี้ของโรงแรม มีผู้หญิงคนหนึ่งได้ดื่มจนเมามาย……”
เวลานี้บุรินทร์แทบอยากจะเบิ๊ดกะโหลกของโชติจริง ๆ เรื่องแบบนี้มีเกลื่อนตามท้องถนน พักนี้เขาแอบขี้เกียจหรือเปล่า หรือเห็นว่าเงินเดือนต่ำเกินไป หรือว่าไม่อยากจะทำงานแล้ว!
โชติเห็นท่าทีที่ไม่ค่อยดีของบุรินทร์ จึงรีบกล่าวขึ้น “ดูสิ ท่านใจร้อนอีกแล้ว ผมยังไม่ทันพูดจบเลย ท่านฟังผมพูดให้จบก่อนสิครับ ”
“ยังไม่รีบพูดอีก!” โชติคนนี้ เวลาพูดมักจะหายใจหอบตลอดเวลา จนบุรินทร์ทนไม่ไหวกับการรายงานของเขาแต่ละครั้ง ที่มักทำให้เขาเข็ดฟันอยู่เรื่อย
โชติยิ้มอย่างโล่งอกและกล่าวขึ้น “เดิมทีนี่ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหรอกครับ เพียงแต่ที่น่าแปลกคือกล้องวงจรปิดทั้งหมดของโรงแรมถูกลบทิ้งไปหมด! ดังนั้น ด้วยความฉลาดหลักแหลมของฉัน ฉันรู้สึกว่าเรื่องนี้จะต้องไม่ชอบมาพากลอย่างแน่นอน เพราะว่าคืนวันนั้นดูเหมือนธนพัตจะไปที่นั่น สาริศาไปที่นั่น และธีภพก็ไปที่นั่น”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...