สาริศานอนในห้องนอนรับแขกที่อยู่ด้านข้างกันตลอดทั้งคืน ส่วนธนพัตกลับเป็นคนที่นอนไม่หลับตลอดทั้งคืน
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น สาริศาก็ออกไปจากบ้านตั้งแต่เช้าตรู่ และไม่ได้เจอหน้าธนพัตเลยด้วยซ้ำ
ยามกลางคืน ธนพัตเลิกงานกลับมา สาริศาก็อยู่ในบ้านแล้ว เธอกินข้าวเย็นเสร็จก็เอาแต่เก็บตัวเงียบอยู่ในห้องนอนคนเดียว
ธนพัตเองก็ไม่อยากพูดอะไร ยังคงรักษาความเงียบงันอยู่ตลอดเวลา
สาริศาใส่เสื้อผ้าล้มตัวนอนลงบนเตียง และเว้นที่ว่างเอาไว้ให้ธนพัตจนกว้างขวางมาก
เธอข่มตาลง ราวกับนอนหลับสนิทเช่นนั้น
ธนพัตนั่งอยู่บนรถเข็นและเข้ามาเหลือบมองเธอแวบหนึ่ง พลางถอนหายใจออก และเอาผ้าห่มกับหมอนวางลงบนหน้าตักเขาและมุ่งหน้าไปนอนในห้องหนังสือแทน ทิ้งสาริศาให้นอนอยู่ในห้องนอนคนเดียว
รุ่งอรุณแรกแย้มตื่นมารับประทานอาหารเช้าพร้อมกัน ทั้งสองคนต่างจืดชืดเย็นชาใส่กัน และไม่มีการพูดคุยกันสนิทสนมและสนุกสนานเฉกเช่นทุกวันที่ผ่านดังก่อนเลย ราวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนั้นมันทำให้กลายเป็นคนแปลกหน้ากันไปแล้ว
ทั้งสองคนกำลังอยู่ในสงครามเย็นอยู่ตลอดเวลา ขนาดแม่บ้านก็มองออก ซึ่งคิดอยู่ในใจว่าคนสองคนคู่ควรกันมากนั้น อยู่ดีๆ มาบึ้งตึงใส่กันเสียนี่ คำที่พูดว่าผัวเมียข้าวใหม่ปลามันทะเลาะตบตีกันสุดท้ายก็จบลงด้วยเรื่องบนเตียงไม่ใช่เหรอ? นี่มันหลายวันแล้วนะ ยังไม่เห็นจะคืนดีกัน น่าปวดหัวจริงๆ
พี่เลี้ยงที่อยู่ในบ้านเห็นเหตุการณ์แล้ว ก็ไม่กล้าจะพูดอะไรมาก ภายในบ้านเงียบงันกว่าปกติลงไปเยอะ
ใครก็ไม่กล้าจะเอ่ยปากพูดกับอีกฝ่าย ทั้งสองคนต่างโกรธอีกฝ่ายอยู่
ธนพัตคิดว่าสาเหตุที่สาริศาโกรธเขาเป็นฟืนเป็นไฟแบบนี้ ต้องเป็นตอนที่เขากำลังแสดงบทรักกับเธอและจงใจให้ธีภพได้ยิน จนทำให้สาริศารู้สึกอับอายขายหน้า หรือว่าเธอสนใจมากในวิธีคิดและทัศนคติของธีภพที่มีต่อตนเอง
เรื่องนี้กลับทำให้ธนพัตโกรธเคืองหนักขึ้นกว่าเก่า
ทว่าความจริงสิ่งที่ทำให้สาริศาโกรธเคือง ก็คือการที่เขาไม่ให้เกียรติตนเอง น่าจะเป็นเรื่องที่ต่างฝ่ายต่างยินดีมอบให้กันและกันสิ แต่ธนพัตทำให้เรื่องราวมันเปลี่ยนความรู้สึกไปเสียนี่
วันนี้ สาริศากำลังเดินทางไปทำงาน รถยนต์ของธนพัตก็ทะยานแล่นผ่านข้างกายเธอไป และไม่แสดงท่าทีจะหยุดลงแม้แต่น้อย ราวกับว่าเธอไม่มีตัวตนอยู่เช่นนั้น
ก่อนหน้านี้รถของธนพัตจะรอเธออยู่ตรงปากทางถนน จากนั้นก็จะรับเธอไปจอดตรงประตูรถไฟใต้ดิน จากนั้นค่อยขับออกไป
สาริศาเดินทางมาถึงออฟฟิศอย่างหมดสภาพ
ธีภพชะเง้อมองออกมาจากห้องทำงานของตนเอง จึงเห็นสีหน้าบอกบุญไม่รับของสาริศามาหลายวันแล้ว ตัวคนก็ไม่มีชีวิตชีวา ทว่าเขาก็ไม่กล้าจะซักถามออกไปแม้จะเป็นคำครึ่งคำก็ตาม
บวกกับ ครั้งที่แล้วที่เขาไปหักหาญน้ำใจบุกจูบเธอด้วย เขาเองก็จำต้องหลบหน้าเธอเอาไว้ กลัวว่าสาริศาจะโกรธเคืองหรือทำตัวไม่ถูก
ทว่าเขากลับร้อนอกร้อนใจอยู่ในใจเงียบๆ
ท่าทางตื่นเต้นเรียกเสียงฮือฮาไปทั่วออฟฟิศ ราวกับเฉลิมฉลองอะไรบางอย่างอยู่
เมย์วิ่งเข้ามาหา และกอดสาริศาเต็มเหนี่ยว
เธอดีใจจนยิ้มตาหยี และพูดกับสาริศา “พี่ริศา พี่รู้มัย ครั้งที่แล้วข่าวที่เราไปแอบถ่ายรูปประธานธนพัตกับจงกล ไม่ใช่แค่ทำให้นิตยสารรายปักษ์นั้นขายดิบขายดี แถมยังขึ้นแท่นยอด Bestseller ขายดิบขายดีเทน้ำเทท่าของเดือนนี้! พี่ริศา พวกเราชนะแล้วนะ!
ทุกคนต่างปรบมือให้กับทีมเล็กของสาริศา เพื่อแสดงความหมายต้องศึกษาเรียนรู้จากพวกเขา
เวลานั้นเอง บก.ลิลลี่ก็เดินเข้ามาและพูดทันที “ฉันจะมาแจ้งข่าวดีให้ทุกท่านทราบกันนะคะ! เพราะว่าพวกเราแสดงผลงานได้ดีเกินคาด บริษัทตัดสินใจแล้วว่าจะให้รางวัลแก่พวกเรา! ไม่สิ การเที่ยวประจำปีใกล้จะมาถึงแล้ว ครั้งนี้ทุกคนสามารถพาคนในครอบครัวไปเที่ยวด้วยกันได้ค่ะ!”
ว้าว! ทุ่มสุดตัวมาก!โชคดีจริงๆ! บก.สุดยอด!ทุกคนต่างส่งเสียงฮือฮาออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...