เศษเสี้ยววินาทีวิกฤตชั่วขณะนั้น มีคนเอาตัวมาขวางไวน์แดงที่สาดเข้ามาแทนเธอ
สาริศาหันศีรษะไปมอง จึงมองเห็นเป็นบุคคลซึ่งกำลังแสดงสีหน้าแววตาอันเย็นเฉียบที่นั่งอยู่บนรถเข็น!
เป็นธนพัตนั่นเอง! ไวน์แดงกระเด็นมาเลอะอยู่บนตัวและแขนของธนพัต
เวลานั้นเอง ธนพัตกลัวว่าสาริศารอนานเกินแล้วจะเหงาจนเกิดเบื่อขึ้นมา ดังนั้นจึงเข็นรถเข็นมุ่งหน้ามาหาเธอ ไม่คิดเลยว่าจะประจวบเหมาะที่ได้เห็นไรยาเดินออกจากห้องด้านข้างที่ติดกับสาริศาพอดี
เขามีลางสังหรณ์ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ฉะนั้นก็รีบเพิ่มความเร็วพุ่งมาทางด้านหน้า ไม่คิดเลยว่า ประจวบเหมาะกับเห็นท่าทางการแสดงออกอันโหดเหี้ยมของไรยาอยู่พอดี แถมในมือยังยกแก้วไวน์แดงขึ้นอีก!
ธนพัตใช้แววตาเย็นเฉียบมองไรยาที่ตกใจจนโง่ไปแล้ว
ไรยารีบโยนแก้วไวน์ทิ้งทันควัน
แก้วไวน์หล่นลงพื้นจนแตกละเอียด และเรียกสายตาทุกคนที่อยู่ในงานมาหมด ภายในห้องจัดเลี้ยงก็เปลี่ยนเป็นเงียบกริบขึ้นมาก
สาริศายืนอยู่ด้านข้างธนพัต พลางเอ่ยปากถามทันควัน “ธนพัต คุณบาดเจ็บตรงไหนมั้ยคะ? ขอฉันดูหน่อยนะคะ?”
“ผมไม่เป็นไรครับ”
เมธาวินเดินเข้ามาหาทันที พลางมองสถานการณ์นั้นแบบรวบรัด จากนั้นก็มองไปทางทุกคนและพูดออกไป “โอ๊ย ไม่มีอะไรครับไม่มีอะไร แค่ไม่ทันระวังจนทำแก้วไวน์แตกเท่านั้นเองแหละครับ ทุกคนสนุกสนานกันต่อเลย สนุกกันต่อได้เลยครับผม!”
เมื่อมองเห็นว่าไม่มีการฉุดกระชากลากถูอะไร ทุกคนก็เริ่มกลับมาพูดคุยเรื่องของพวกเขาต่อ ภายในห้องจัดเลี้ยงก็กลับมาเป็นปกติทันที
เมธาวินใช้ผ้าเช็ดหน้าที่เป็นผ้าไหมของตนเองเอาออกมาเช็ดแขนให้ธนพัต
เมธาวินพูดทันควัน “โอ้โห นี่ไปทำอีท่าไหนเนี่ย ขนาดคุณธนพัตดื่มไวน์แดงจนหกราดไปทั่วทั้งตัวแล้วสิ? ฮ่า ๆ ผมต้องออกไปคุยกับผู้จัดการห้องจัดเลี้ยงของที่นี่สักหน่อยแล้ว เพื่อให้พวกเขาจากนี้ต่อไปอย่าได้นำเข้าไวน์แดงยี่ห้อนี้อีก ซวยจริง”
ธนพัตรับผ้าเช็ดหน้ามา และจัดการเช็ดเอง
เมธาวินมองพฤติกรรมเช่นนี้ของเขา จู่ๆ สีหน้าแววตาก็ออกอาการตกตะลึงทันที ราวกับฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้
ไรยารู้สึกว่าเรื่องนี้มันรอดแล้ว จึงรีบขอโทษทันควัน “ขอโทษค่ะ ขอโทษด้วยคุณธนพัต ฉันไม่ได้ตั้งใจจะสาดใส่คุณ อ้อ ไม่สิ ฉันไม่ได้ตั้งใจทำค่ะ”
สาริศารับรู้ได้ทันที ที่แท้ไรยาสาดมาทางตนเอง
เวลานี้ ธีภพก็วิ่งเข้ามาทางนี้พอดี
เขาดื่มเหล้าหนักมาก จึงคว้ามือของสาริศา และเอ่ยถามอย่าร้อนรน “สาริศา คุณบาดเจ็บตรงไหนมั้ย?”
เมื่อเห็นว่าเป็นธีภพ สาริศารีบถอนมือกลับทันควัน พลางก้มหน้าพูด “ฉันไม่เป็นไรค่ะ”
ธีภพมองสาริศา และเผลอออกอาการชั่วขณะ
ไรยาเห็นว่าธีภพทำให้เธออับอายขายหน้าต่อหน้าสาธารณชนที่อยู่ในงานจนไม่มีชิ้นดี กระทั่งโมโหจนกระทืบเท้าเหยงๆ
ทุกคนที่อยู่ในงานต่างมองมาทางกลุ่มคนหลายคน มีหลายคนที่รู้เรื่องภายในก็ได้เริ่มเอียงหูฟังพูดจากระซิบกระซาบกันแล้ว
หนึ่งในนั้น มีคนพูดว่า “เห็นกันมั้ย? อากับหลานชายของตระกูลกีรติเมธานนท์ดูท่าจะไม่ค่อยลงรอยกันสักเท่าไหร่”
“ไอ้หลานชายคนนี้ ดูแล้วก็คล้ายเป็นห่วงเป็นใยอาสะใภ้ของเขามากทีเดียว คุณอย่าลืมนะตอนที่ประมูลของกันอยู่นั้น เขาก็เป็นหนึ่งในคู่แข่งในการประมูลยันต์คุ้มภัยนั้นด้วย”
ธนพัตไม่ชอบให้ธีภพเข้ามาอยู่ใกล้สาริศา เขาทำเสียงแข็งใส่ จนทำให้คนรู้สึกหนาวจนเสียวสันหลังขึ้นมา
ธนพัตกล่าวทันที “ธีภพ ทางที่ดีแกควรดูแลว่าที่ภรรยาของแกให้ดีๆ หน่อยนะ”
การเยาะเย้ยถากถางอย่างเป็นทางการของธนพัต ทำให้ธีภพค่อนข้างตกใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...