หลังจากธนพัตและสาริศาได้ออกจากงานประมูลไปแล้วนั้น จึงขึ้นรถทันที เพื่อเตรียมตัวกลับบ้าน
งานประมูลการกุศลเกิดเรื่องราวมากขึ้นตั้งมากมาย โดยไม่รู้ว่าต่อไปจะมีข่าวลื่อแพร่สะพัดไปยังโลกภายนอกว่ายังไงบ้าง
การประมูลสินค้าของธนพัตราคาสูงเสียดฟ้าไปตั้ง 50 ล้าน ต้องกลายเป็นข่าวดังเป็นพลุแตกของเมือง S แน่นอน ไม่แน่อาจจะยังได้พาดหัวข่าวบนหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งก็ได้นะ
เมื่อสาริศาขึ้นรถมาแล้ว จึงใช้ผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กเช็ดคราบไวน์ที่เปรอะอยู่บนตัวและแขนของธนพัต
เธอกระซิบพูดเสียงต่ำ “ขอโทษค่ะ เป็นความผิดของฉันเอง ที่สร้างความวุ่นวายให้คุณอีกแล้ว”
สร้างความวุ่นวายงั้นเหรอ?
ธนพัตหัวเราะแผ่วเบา
สาริศา คุณเป็นตัวก่อความวุ่นวายเจ้าปัญหาจริงๆ แหละ
แต่ว่า ผมยินยอมจะถูกคุณก่อความวุ่นวาย การที่มีคุณอยู่ข้างกาย ธนพัตอย่างผมยินยอมยุ่งวุ่นวายแบบนี้เพื่อคุณทุกวัน
ธนพัตแตะเธออย่างแผ่วเบา พลางพูดทันที “ไม่เป็นไรครับ ผมชอบ”
ในใจสาริศานั้นซาบซึ้งใจธนพัตมาก ซึ่งเธอที่จะได้รับความรู้สึกความรักอันอบอุ่นของเขาได้ทุกครั้ง
เขาทำเพื่อเธอทุกอย่าง โดยไม่สามารถตีค่าประเมินได้
การได้รับความรักของธนพัตนั้น สาริศารู้สึกว่าตนเองมีความสุขมาก ตั้งแต่เด็กจนโตใช้ชีวิตอย่างยากจนข้นแค้นหัวเดียวกระเทียมลีบ สาริศาไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าอะไรคือความรัก เมื่อรู้จักกับธีภพ เธอคิดว่านั่นมันคือความรัก ที่ทุกวันสามารถใช้ชีวิตใต้แสงอาทิตย์อย่างสว่างไสวได้ทุกเมื่อเชื่อวัน และมีความสุขมาก
ทว่า เมื่อได้พบเจอกับธนพัตแล้ว สาริศาถึงได้รับรู้ว่าอะไรที่เรียกว่าความรักที่แท้จริง
ธนพัตปกป้องเธอตั้งแต่เริ่มแรก ในวันดูตัวนั้นเขาได้ช่วยจัดการเรื่องค่าอาหารแทนเธอ เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงให้เธออับอาย จากนั้น ยังแสดงความต้องการจะแต่งงานกับเธอ และคอยช่วยจัดการปัญหาเรื่องทะเบียนบ้านของสาริศาในระหว่างนั้นด้วย จนกันยามารดาของเธออาการฟื้นตัวสุขภาพดีขึ้น จากนั้นต่อมา ยังแสดงความรักและเอ็นดูและคอยเป็นวีรบุรุษที่คอยเข้ามาช่วยสาวงามจนนับครั้งไม่ถ้วน ผู้ชายเฉกเช่นนี้คุ้มค่าในการฝากชีวิตไว้ทั้งชีวิต
สาริศาถลาเข้าไปกอดธนพัตทันควัน
แผงอกของเขาช่างอบอุ่นเหลือเกิน ยังกว้างมาก สาริศารู้สึกสบายมากที่สุดแล้ว
เธอสัมผัสได้ถึงหัวใจเต้นและความอบอุ่นของร่างกายเขาที่แผ่ซ่านออกมา ในเวลานี้เธอแค่อยากจะอิงแอบแนบชิดอยู่ในอ้อมอกของเขาอยู่แบบนี้อย่างเดียว และลืมเลือนเรื่องที่ไม่สบายใจไปทั้งหมด
สาริศาพูดทันควัน “ธนพัต ขอบคุณนะคะ ไม่ใช่เพราะว่าขอบคุณเรื่องเงิน50ล้านนะ แต่เป็นเพราะว่าความรักของคุณที่คอยปกป้องฉัน ขอบคุณนะคะ”
หัวใจธนพัตสูบฉีดทันที เพราะว่านี่ถือเป็นครั้งแรกที่สาริศาออกตัวกอดเขาก่อน เธอน่าจะไม่โกรธเขาแล้วแหละ
ธนพัตยังไม่ทันได้แสดงท่าทางตอบสนอง สาริศาเป็นอะไรไปเนี่ย?
เขาถามเธอกลับอย่างระแวดระวัง “คุณไม่โกรธผมแล้วใช่มั้ย”
“ฉันหายโกรธคุณนานแล้วค่ะ” สาริศาพูดสารภาพออกมาจากใจจริง “ก่อนหน้านี้ฉันก็แค่รู้สึกว่าคุณไม่ให้เกียรติฉันดีพอ ทำไมถึง...ปฏิบัติตัวกับฉันอย่างเอาแต่ใจขนาดนั้นด้วย ไม่มีความอ่อนโยนสักนิด แรงเยอะจริงๆ แต่ฉันคิดดูแล้ว ความจริงตอนนั้นคุณน่าจะโกรธจัดเท่านั้นเอง ฉันไม่สามารถถือโทษโกรธความคุณได้ทั้งหมดหรอกค่ะ”
ธนพัตขมวดคิ้วเอาไว้ “ที่แท้คุณก็โกรธแค่เรื่องนี้เองเหรอเนี่ย?”
สาริศาเอียงศีรษะและพูดด้วยท่าทางแปลกประหลาด “ไม่งั้นให้ฉันไปโกรธเรื่องอะไรล่ะ?”
ธนพัตคิดว่าสงครามเย็นที่กินเวลามาหลายวัน ก็เป็นเพราะว่าสาริศาให้ความสนใจกับความคิดของธีภพถึงได้โกรธเคืองเอา ดังนั้นเขาถึงได้ไม่สบายใจ
ที่แท้กลับตาลปัตรเป็นเรื่องนี้เอง
ธนพัตไม่ได้ตอบคำถามของสาริศาทันที แต่กลับยิ้มและพูดออกมา “ไม่โกรธกันก็ดีแล้วครับ”
สาริศาพูดต่อ “งั้น คุณเองก็ไม่ได้โกรธใช่มั้ย?”
เดิมทีธนพัตก็อยากจะถามเรื่องรูปภาพที่ธีภพจู่โจมจูบสาริศาบ้าง ทว่ากลับไม่อยากให้สาริศาไปนึกถึงผู้ชายคนนี้อีกแล้ว
ในเวลาเดียว ก็รู้สึกราวกับไม่จำเป็นต้องรู้ด้วยซ้ำ เพราะสาริศาในเวลานี้ นั่งอยู่ข้างกายของเขาอย่างเชื่อฟัง และจ้องมองตนเองอย่างสื่อความหมาย เขารู้สึกว่าไม่มีอะไรสำคัญไปกว่านี้อีกแล้ว
เขาเชื่อมั่นเธอ
ก็แสนง่ายดายแค่นั้นเอง
ธนพัตพูดต่อ “ยัยเด็กบ๊อง ผมก็ไม่ได้โกรธคุณตั้งนานแล้ว”
“แล้วทำไมหลายวันที่ผ่านมานี้ คุณไม่สนใจฉันเลยล่ะคะ? ฉันทรมานใจจนจะตายอยู่แล้วนะ” สาริศาทำหน้านิ่วคิ้วขมวดตอนเอ่ยปากถาม
ธนพัตมองท่วงท่าออดอ้อนของสาริศา พลางคิดอยู่ในใจว่าตกลงเขาจะจัดการเธอยังไงดีนะ?
“ผมไม่ได้ไม่สนใจคุณนะ” เขากอดเธอ พลางกระซิบพูด “และไม่ได้โกรธด้วย”
สาริศาขมวดคิ้วขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...