วินาทีที่ก้าวออกมาจากคฤหาสน์ตระกูลธราภักดิ์ สาริศาก็รู้สึกกังวลขึ้นมาทันที
สุดท้ายแล้วก็คือการตัดบัวไม่เหลือใยเหรอ……
นับตั้งแต่นี้ต่อไป เธอจะไม่ติดค้างอะไรกับสุวิทย์ ไม่เป็นหนี้บุญคุณตระกูลธราภักดิ์อีกต่อไปแล้ว และทุกอย่างที่ตระกูลธราภักดิ์ทำกับเธอ ก็ไม่สำคัญอีกต่อไป
นับแต่นี้ต่อไป คนในครอบครัวเธอ มีแค่แม่เท่านั้น
อ้อ ไม่ใช่
ยังมีธนพัตด้วย
คิดมาถึงตรงนี้ ทันใดนั้นสาริศาก็รู้สึกอบอุ่นภายในหัวใจ ราวกับว่าเต็มไปด้วยพละกำลัง
หลังจากออกมาจากคฤหาสน์ตระกูลธราภักดิ์แล้ว ธนพัตก็พาสาริศาขึ้นรถ ให้ชรัณขับรถไปส่งพวกเขากลับบ้าน
ระหว่างทาง สาริศาบางทีก็เหม่อลอยจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว บางครั้งก็ก้มหน้าคิดอะไรบางอย่าง ขอบตาแดงก่ำ
ธนพัตคิดว่าควรจะให้สาริศาได้ปลดปล่อยออกมาบ้าง
เธอเหนื่อยเหลือเกิน เหตุการณ์ในอดีตที่ต้องกล้ำกลืนฝืนทนมากมายผุดขึ้นมาในวันนี้ หากปราศจากความเข้มแข็งก็คงไม่สามารถแบกรับอะไรได้มากขนาดนี้
เมื่อต้องเผชิญกับการทิ้งระเบิดอย่างบ้าคลั่งของคนตระกูลธราภักดิ์สาริศาที่อ่อนแอในใจคงจะแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เธอต้องเศร้าเสียใจมากเป็นพิเศษแน่นอน
ธนพัตเอาเธอเข้ามากอด พูดเบาๆว่า “อยากร้องไห้ก็ร้องออกมาเถอะ”
ซุกอยู่ในอ้อมอกที่อบอุ่นของธนพัต สาริศาเหมือนได้เจอกับเตาผิง อบอุ่นไม่ต้องกลัวดาบน้ำแข็งอีกต่อไปแล้ว
สาริศาซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดเขาสะอื้นไห้ ปลดปล่อยความคับข้องใจทั้งหมดตั้งแต่วัยเด็กจนถึงตอนนี้ ต่อหน้าธนพัต เธอไม่จำเป็นต้องเสแสร้งแกล้งทำเข้มแข็ง ร้องไห้ออกมาก็ได้ เอาความน้อยเนื้อต่ำใจทั้งหมดออกมา
การระรานไม่หยุดในหลายปีที่ผ่านมา ในที่สุดสาริศาก็สามารถตัดขาดจากตระกูลธราภักดิ์ได้ การข่มเหงรังแก ด่าทอ ทรมานที่ได้รับในวัยเด็ก เติบโตแล้วก็ยังต้องได้รับเยาะเย้ยถากถางของพวกเขาอีก สาริศารู้สึกว่าตนเองเกิดมาผิดที่ผิดทางจริงๆ
แต่ว่า ตอนนี้จบแล้ว ในที่สุดเธอก็สามารถหลุดพ้นจากตระกูลธราภักดิ์ได้แล้ว!
สาริศารู้สึกว่าร่างกายผ่อนคลายลงไปมากทันที ที่แท้ภาระหนักอึ้งที่แบกรับอยู่บนบ่าหลายปีนั้นมันหนักหนามาก
ธนพัตกอดสาริศาอยู่ข้างกายอย่างเงียบๆ
รอจนสาริศาร้องไห้จนพอใจแล้ว ธนพัตจึงก้มหน้ามามองเธอ “อารมณ์ดีขึ้นบ้างหรือยัง”
สาริศาพยักหน้า
“ตอนนี้คุณเต็มใจที่จะเล่าเรื่องในอดีตของคุณบ้างแล้วหรือยัง ผมเต็มใจที่จะรับฟัง นี่ก็เป็นการระบายนะ”
ธนพัตจูบเบาๆบนหน้าผากเธอ
สาริศาเช็ดน้ำตาให้แห้ง เล่าเรื่องสมัยเด็กให้ธนพัตฟัง
สาริศาเล่าว่า “ตอนเด็กๆ มีครั้งหนึ่งพวกเขาบอกว่าจะพาฉันไปเที่ยวทะเล ฉันดีใจมาก ฉันไม่เคยเห็นว่าทะเลหน้าตาเป็นยังไงมาก่อน รู้แค่ว่าในหนังสือเขียนว่าทะเลมีสีฟ้า แนวชายฝั่งที่ไม่มีที่สิ้นสุดได้ล่องลอยไปยังอีกด้านหนึ่งของโลก สวยจริงๆนะ”
ธนพัตเขยิบเข้าไปนั่งใกล้ๆอีกนิด เอาศีรษะของสาริศาวางบนตักตนเอง ในเธอนอนลง แบบนี้อาจจะทำให้เธอผ่อนคลายลงบ้าง
“ธนพัต ฉันชอบทะเลมาก มันทำให้ฉันรู้สึกถึงความปลอดภัยบางอย่าง ครั้งนั้น ที่พวกเราไปก็คือมอริเชียส เป็นสถานที่ที่โรแมนติกแห่งหนึ่งตอนนั้นฉันอยากจะไปที่นั่นมานานมากแล้ว แม่คิดว่าคงไม่มีเวลาพาฉันไป ก็เลยตกลงที่จะให้ฉันไปเที่ยวกับพวกเขา ตอนแรกทั้งครอบครัวก็เล่นกันที่ชายหาดอย่างมีความสุข ทะเลสวยมากจริงๆ ความทุกข์ความวิตกกังวลในหัวฉันเหมือนกับว่าถูกลมทะเลพัดจนสลายหายไปเลยแต่ว่า จู่ๆตุ๊กตาบาร์บี้ในมือของไรยาก็ตกลงไปในช่องหิน เธอร้องไหโวยวายจะหยิบตุ๊กตานั้นขึ้นมาให้ได้”
พูดมาถึงตรงนี้ สาริศาก็ถอนหายใจลึกๆโดยไม่รู้ตัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...