ตื่นขึ้นในเช้าตรู่วันต่อมา สาริศากับธนพัตก็ทานอาหารเช้าพร้อมกันที่โรงแรม
ปมในใจของสาริศาเมื่อสองปีก่อนคลายออกแล้ว มีความสุขมากอย่างเห็นได้ชัด
ธนพัตสั่งบริการอาหารเช้าจากทางโรงแรม อาหารเช้าสไตล์ตะวันตกเต็มโต๊ะ มากมายละลานตามาก แต่มีพนักงานคอยปรนนิบัตรอยู่ข้างๆตลอดเวลา สาริศาก็รู้สึกไม่ชินเท่าไหร่นัก
ธนพัตส่งน้ำส้มคั้นสดให้สาริศาหนึ่งแก้ว พูดเบาๆว่า “เมื่อคืนคุณคงเหนื่อยมากเกินไป ทานเยอะๆหน่อย”
“ธนพัต คุณพูดเบาๆหน่อยสิ ที่นี่ยังมีคนอื่นอยู่นะ ไม่อายบ้างเลย” สาริศาอายจนหน้าแดง มองพนักงานโรงแรมที่อยู่ข้างๆอย่างตื่นตระหนก
คุณภาพการบริการของพนักงานดีมาก สีหน้าท่าทาง เหมือนว่าไม่ได้ยินอะไรเลยอย่างนั้น
ขณะที่สาริศากำลังกินข้าวอยู่นั้น จู่ๆก็นึกอะไรขึ้นมาได้ ถามธนพัตว่า “ถ้าเช่นนี้ เช้าตรู่เมื่อสองปีก่อน ก็เป็นคุณที่ให้เงินฉันสองหมื่น เอาวางไว้ที่หัวเตียง”
ธนพัตได้ฟัง พูดว่า “ต่อมาพอผมรู้ว่า……อะแฮ่ม เป็นครั้งแรกของคุณ ผมก็เลยรู้สึกผิด”
เมื่อสองปีก่อน ตอนแรกที่เขาเห็นสาริศา เพราะว่าเธออยู่ด้วยกันกับชายแก่ ดังนั้นเขาคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงประเภทนั้น
แต่คิดไม่ถึงว่า ต่อมาเขาจะพบว่า เป็นครั้งแรกของเธอ
แม้เขาจะไม่ได้รู้สึกอะไรกับสาริศาในตอนแรก แต่ก็ยังรู้สึกผิด
เธอพูดว่า “คุณคงไม่ถือสาที่ฉันบริจาคเงินไปแล้วนะคะ ฉันบริจาคให้กองทุนเด็กยากไร้”
“คุณทำถูกแล้ว” ธนพัตชื่นชมเธอ
สาริศายิ้ม พูดว่า “ตอนแรกฉันคิดว่าอยากจะให้เงินสองหมื่นนี้ได้แสดงคุณค่าของมันออกมา สำหรับฉันแล้ว เงินพวกนั้นก็เป็นเงินสกปรก ฉันไม่อยากเก็บเอามาไว้ข้างกาย”
ธนพัตกินเสร็จแล้ว เช็ดปาก พูดว่า “แน่นอนว่าผมเข้าใจ สาริศา คุณไม่ชอบเงินขนาดนั้น”
บนโลกใบนี้ มีใครไม่รักเงินบ้าง สาริศาคิด
สาริศาพูดกับธนพัตว่า “ฉันจะไม่ชอบเงินได้ยังไง ฉันชอบมากนะ ไม่มีเงิน ค่าหมอค่ายาของแม่ฉันที่โรงพยาบาลจะทำยังไง ไม่มีเงิน ทุกเดือนฉันจะกินจะดื่มอะไร! ทุกปีฉันเฝ้ารอเงินโบนัส ทุกเดือนฉันเฝ้ารอเงินเดือนออก ใครบ้างไม่ชอบเงิน”
สาริศาพูดว่า “แต่ว่า เงินพวกนั้นเป็นเงินสกปรก ฉันไม่อยากเห็นมัน ก็เลยบริจาคไป ถือซะว่าเอาร่างกายตัวเองไปแลกกับชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนอื่น แบบนี้ฉันก็รู้สึกสสบายใจขึ้นมาบ้าง”
“ตอนนี้ล่ะ” ธนพัตมองเธอ สายตาเย้ายวน “ยังรู้สึกว่าเงินนั่นสกปรกอยู่มั้ย”
“ไม่สกปรก” สาริศาแลบลิ้นปลิ้นตา “แต่ฉันก็ยังไม่อยากจะเก็บมันไว้อยู่ดี อย่างไรเสีย……ฉันไม่อยากคิดว่า เหมือนกับครั้งนั้น เป็นธุรกิจอย่างหนึ่ง”
สาริศาหน้าแดงก่ำ
ธนพัตมองเธอ ใจอ่อนระทวยทันที
หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว ธนพัตก็เช็ดปาก พูดเบาๆว่า “ไปเถอะ นั่งรถผมไปทำงาน”
สาริศารีบโบกมือ “ไม่ต้องไม่ต้อง ฉันไปเองดีกว่าค่ะ”
ธนพัตขมวดคิ้ว “ตอนนี้ทุกคนก็รู้หมดแล้วว่าผมกับคุณเป็นอะไรกัน คุณจะกลัวอะไรอีก ”
สาริศาอึ้ง
ใช่แล้ว ที่ธนพัตพูดก็มีเหตุผล
สาริศาพูดว่า “งั้นก็ได้ค่ะ ฉันก็คงต้องทำตามคำสั่งแล้ว”
ดังนั้น สาริศาจึงเข้าไปนั่งในรถเบนท์ลีย์สีดำของธนพัต พวกเขาออกเดินทางพร้อมกัน
ตลอดทางสาริศาเอาแต่ครุ่นคิด ว่าตกลงตนเองควรจะใช้สถานะไหนไปเผชิญหน้ากับคนพวกนั้นในสำนักงาน พวกเขาต้องเฝ้ารอคำอธิบายของเธออยู่แน่นอน
ธนพัตเห็นใบหน้าเล็กๆของสาริศาวิตกกังวล จึงถามว่า “คุณกำลังคิดว่าจะไปเผชิญหน้าเพื่อนร่วมงานพวกนั้นยังไงเหรอ”
“อืม ฉันกลัวนิดหน่อย ธนพัต”
“อย่ากลัว” ธนพัตกุมมือเธอไว้ “มีผมอยู่”
ก็เพราะมีคุณไงฉันถึงได้กลัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...