“ฉันอยากจะลากลับบ้าน ตอนบ่ายก็ไม่มาทำงานแล้ว”
สาริศาได้ลากับธีภพไปโต้ง ๆ ด้วยความโกรธเคือง แล้วหันหน้าออกไปจากห้องทำงานของเขา
พอสาริศาออกมา คนในสำนักพิมพ์ก็ได้คึกครึ้นกันขึ้นมาอีกครั้ง
“นี่ ๆ เห็นแล้วหรือยัง มีคนอับอายจนพาลโกรธไปแล้ว!”
“ฉันขอเดานะว่าคงจะถูกทางคุณธีภพปฏิเสธมาหรือเปล่า อยากจะช่วยหล่อนแต่ก็ช่วยไม่ได้ ฮ่า ๆ ๆ...”
สาริศาถลึงตาใส่พวกเธอไป ทุกคนก็ได้หยุดวิพากษ์วิจารณ์กันไปทันที แต่ทุกคนต่างก็ได้ใช้สายตาที่แปลก ๆ ขมีขมันตั้งอกตั้งใจและสำรวจจำบางอย่างมองมาที่สาริศา นี่ได้ทำให้สาริศายิ่งไม่อาจอยู่ที่สำนักพิมพ์ต่อไปได้อีก
เธอตัดสินใจว่าจะรีบไปที่TNP Groupในทันที ตอนนี้ เดี๋ยวนี้เลย ตนจะไปถามธนพัตให้รู้เรื่องไปเลยว่า ตกลงแล้วใครเป็นคนเล่นตุกติกอยู่เบื้องหลังกันแน่
หลังจากที่ลงจากตึกมาแล้ว ก็ได้โบกรถไปยังTNP Groupด้วยความรวดเร็ว พอเข้ามาที่บริษัท อย่างที่คิด คนในบริษัทเห็นเธอมา ก็ได้ใช้สายตาแปลก ๆ มองเธอมาเช่นกัน พวกเขาคงจะเห็นข่าวกันไปหมดแล้วล่ะมั้ง
“เฮ้ มาแล้ว ๆ ภรรยาของท่านประธานมาแล้ว รีบร้อนเสียขนาดนั้น เธอว่าเรื่องในข่าวเป็นความจริงหรือเปล่า?”
“คงจะใช่ล่ะมั้ง ถึงยังไงคุณธนพัตก็พิการ มันก็พูดลำบากเหมือนกัน”
“ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้เธอท้องแล้วหรือไง? เด็กคนนั้นเป็นลูกใครกัน? ฉันจำได้ว่าเมื่อตอนนั้นคุณธนพัตดีใจมากเลย คงจะไม่ได้...”
“ใครจะไปรู้กันล่ะ นี่ รู้หน้าไม่รู้ใจหรอกนะ”
“เลิกพูดกันได้แล้ว เดินเข้ามาใกล้แล้ว ได้ยินเข้าจะไม่ดีนะ”
พวกคนที่รวมกลุ่มกันสามสี่คนพูดนินทากันมาเบา ๆ แล้วมองไปทางเธออยู่บ่อยครั้ง แต่ก็เหมือนกับว่าจะกลัวว่าเธอจะค้นพบเข้าด้วยยังไงอย่างนั้น
ไม่มีเวลาไปสนใจสายตาแปลก ๆ ของคนอื่น และคำซุบซิบนินทาไร้สาระที่ไม่มีมูลความจริงเลยแม้แต่น้อยพวกนั้น สาริศาขึ้นลิฟต์ส่วนตัวเฉพาะธนพัตเท่านั้นตรงมายังห้องทำงานของประธานบริษัท
ธนพัต ธนพัต
ตอนนี้เธอคิดเพียงแค่อยากจะเจอธนพัตโดยเร็วเท่านั้น เรื่องอื่นไม่ได้อยากจะเข้าไปยุ่งมากมายเลย
เลขาที่อยู่ด้านนอกห้องเห็นเธอ ก็ไม่ได้เต็มใจจะทักทายเธอเท่าไหร่นักเช่นกัน และก็ได้ปล่อยให้เธอเข้าไปเลย สาริศาเองก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรพวกนี้อยู่แล้ว
เลขาเห็นเงาร่างสาริศาเดินเข้าไปด้วยความรีบร้อน ก็อดที่จะนึกถึงข่าวเมื่อเช้าขึ้นมาอย่างเสียไม่ได้อีก ในใจคิดว่าสาริศาจะต้องรีบมาแก้ตัวกับธนพัตแน่ ๆ ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกไม่ยุติธรรมแทนท่านประธานของตนขึ้นมา
ธนพัตถึงแม้ว่าขาทั้งสองข้างจะมีปัญหา แต่ก็เป็นผู้ชายที่ดีเสียขนาดนั้น ปกติแล้วกับพนักงานตัวเล็ก ๆ อย่างตนก็ยังดูแลกันดีมากเลย กับสาริศานั้นยิ่งแทบจะไม่ต้องพูดถึงเลยด้วยซ้ำ
ครั้งที่แล้วได้ยินว่าสาริศาท้อง ท่าทางที่ดูดีอกดีใจนั้นของธนพัต มันไม่เข้ากับภาพลักษณ์ที่เย็นชาในตอนปกติของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว ตอนนี้มาได้ยินข่าวนี้เข้า ท่านประธานของพวกเธอคงจะต้องเสียใจมากแน่ ๆ เลยล่ะมั้ง
คิดมาถึงเรื่องพวกนี้แล้ว สายตาที่เลขามองไปทางสาริศาก็ได้มีความโกรธแค้นเพิ่มออกมาอีกครั้ง
ตอนที่สาริศาเข้าห้องทำงานประธานบริษัทไปนั้น ธนพัตกำลังอยู่ในกองเอกสาร
เห็นท่าทางตั้งอกตั้งใจทำงานของธนพัตแล้ว ไม่รู้ว่าทำไม สาริศาที่รีบร้อนมาตลอดทาง จู่ ๆ ก็ได้สงบลง คิดว่าถึงแม้ว่าทุกคนจะไม่เชื่อพวกเขาแล้วมันจะยังไงกันล่ะ? ขอเพียงแค่ระหว่างพวกเขาเชื่อในกันและกันก็พอแล้ว
ธนพัตเหมือนกับว่ามีกระแสจิตเลยยังไงอย่างนั้น พอเงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นสาริศายืนอยู่ตรงหน้าประตู
เห็นสาริศามีท่าทางกระหืดกระหอบอยู่บ้าง ธนพัตตกตะลึงไปเล็กน้อย ไถรถเข็นเคลื่อนไปที่ใกล้ ๆ สาริศา ดึงมือของเธอมาแล้วเอ่ยถามออกไป “คุณมาได้ยังไง? ทำไมถึงต้องรีบร้อนขนาดนี้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...