หลังจากที่ได้เสร็จสิ้นลง ธนพัตกอดสาริศานั่งอยู่บนโซฟา
สาริศาในตอนนี้ใบหน้าได้แดงก่ำไปหมด อยากจะหาหลุมมุดเข้าไปเสียให้ได้เลย นึกไม่ถึงว่าตนจะ...ร่วมรักกับธนพัตที่ห้องทำงานของเขา...ถ้าให้คนอื่นรู้เข้า ตนจะออกไปเจอหน้าคนอื่นได้ยังไงอีก?
ธนพัตเห็นสาริศาที่เอาหัวฝังเข้ามาที่หน้าอกของตน พูดอะไรก็ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาเลย รู้ว่าเธออายเอามาก ๆ แต่ไม่รู้ว่าทำไม ตนดันอยากจะหยอกเย้าเธอไปสักหน่อย
เขาพูดเย้าออกไป “ตอนนี้เพิ่งจะมารู้จักอายเอานะ มันจะสายไปหน่อยหรือเปล่า? เมื่อกี้ก็ไม่รู้ว่าใครกันที่...”
“ธนพัต หุบปากไปนะ คุณห้ามพูดมาอีก!” สาริศาฟังมาถึงตรงนี้แล้ว ก็รีบใช้มืออุดปากของธนพัตเอาไว้ ไม่ให้เขาเอ่ยปากพูดออกมาอีก
เมื่อก่อนธนพัตไม่ได้เป็นแบบนี้ โชคดีที่ตอนแรกตนยังคิดว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษที่สุภาพเรียบร้อยคนหนึ่ง นึกไม่ถึงว่าเบื้องหลังเขาจะเป็นแบบนี้ไปได้
แต่ เห็นธนพัตที่ประสบความสำเร็จในอาชีพแบบนี้ สาริศาต้องยอมรับเลยว่าตนเหมือนกับว่าจะชอบมากเลยทีเดียว เพราะว่านี่เป็นธนพัตที่มีเพียงแค่เธอเท่านั้นที่จะเห็นได้ เป็นของเธอแค่คนเดียวเท่านั้น
เห็นท่าทางร้อนรนสุด ๆ ของสาริศาแล้ว ธนพัตรู้สึกแค่เพียงว่าอารมณ์มันดีขึ้นมาแบบไม่มีที่สิ้นสุดเลยทีเดียว เหมือนกับว่าได้ประดับไปด้วยพระอาทิตย์ดวงหนึ่งอยู่ในใจ รู้สึกแค่เพียงตัวเขามันรู้สึกอบอุ่นใจไปหมด รู้สึกมีความสุขแบบพูดไม่ออกเลย
จูบลงไปที่ในฝ่ามือของสาริศาที่กำลังปิดปากของตนอยู่ ธนพัตได้มองสาริศาไปด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
ถึงแม้ว่าธนพัตจะจูบไปที่ฝ่ามือของตน แต่สาริศากลับรู้สึกว่าได้จูบไปที่บนยอดดวงใจของเธอไป ทำให้เธอสั่นสะท้านไปหมด ก้มหน้าลงไปด้วยความเขินอายทันที ไม่กล้าจะมองเขาไปอีก
ธนพัตรู้จักนิสัยของสาริศา รู้ว่าถ้าเย้าหยอกเธอต่อไปอีก เกรงว่าเธอคงจะต้องเขินอายจนพาลโกรธไปด้วยแน่เลย ดังนั้นแล้วก็เลยไม่ได้พูดออกไปอีก เพียงแค่ยิ้มแล้วโอบเธออยู่ในอ้อมแขนไปเท่านั้น
ผ่านไปได้สักพักใหญ่ ๆ สาริศาถึงได้สงบสติอารมณ์ลงไปได้ นึกถึงสาเหตุที่ตนมาหาธนพัตขึ้นมาได้
เงยหน้าไปมองธนพัตไปอย่างจริงจัง สาริศาเอ่ยถามออกไป “คุณรู้หรือเปล่าว่าข่าวเมื่อเช้านี้ตกลงแล้วมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นมากันแน่?”
ตั้งแต่ที่เธอมาจนถึงตอนนี้ ท่าทางของธนพัตเหมือนกับว่าจะไม่ได้กังวลเลยสักนิดเดียว เธอก็เลยคิดว่าธนพัตคงจะรู้แล้วว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น
ธนพัตลังเลออกมาเล็กน้อย คิดว่าจะบอกกับสาริศาไปดีหรือเปล่า เขาไม่อยากให้เธอกังวลอยู่กับเรื่องพวกนี้ เขาหวังว่าสาริศาจะสามารถอยู่ข้างกายเขาไปอย่างมีความสุขได้ตลอดไป ไม่ใช่มาถูกข่าวซุบซิบพวกนี้มาทำร้ายเอา
แต่พอคิดดูอีกทีแล้ว สาริศาเองก็เป็นคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน มีสิทธิ์ที่จะรู้เรื่องพวกนี้ อีกอย่างให้เธอรู้ไป หลังจากนี้ก็จะได้ระวังหน่อย เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกคนที่มีใจมุ่งมั่นหมายจะมาทำร้ายเอาอีก
ใคร่ครวญไปซ้ำ ๆ แล้วก็เห็นสายตาที่อยากรู้อยากเห็นปะปนไปกับสายตาที่จริงจังของสาริศามาอีก สุดท้ายธนพัตก็เลือกที่จะพูดออกไป “ผมพอจะรู้แล้วบ้างว่าเรื่องนี้เป็นฝีมือของใคร”
“คุณรู้จริง ๆ ? ตกลงแล้วเป็นใครกัน ทำไมถึงต้องแพร่ข่าวลือแบบนี้ออกไป?” ได้ยินธนพัตพูดออกมาว่ารู้ สาริศาก็ตื่นตัวขึ้นมาทันที เธออยากรู้ ตกลงแล้วใครกันแน่ที่พูดจาให้ร้ายพวกเขามาขนาดนี้
ธนพัตยิ้มพลางมองสาริศาไป เขาชอบมองท่าทางที่เธอกังวลแทนเขา อย่างนี้จึงสามารถอธิบายออกมาได้ว่าในใจของเธอนั้นเขาสำคัญมาก ดังนั้นแล้วเธอก็เลยเป็นกังวลแทนตนขึ้นมา
ธนพัตไม่ได้ตอบคำถามของสาริศาออกไป แต่ได้ถามเธอออกไปแทน “คุณคิดว่าจะเป็นใครกันที่พยายามคิดหาวิธีพวกนี้ไปทุกวิถีทางเพื่อโจมตีพวกเราให้สำเร็จกันล่ะ?”
สาริศาคิดไปเล็กน้อย ในเมื่อธนพัตพูดมาอย่างนี้แล้ว อย่างนั้นแล้วคนที่ทำจะต้องไม่ได้พุ่งเป้ามาที่พวกเขาเป็นครั้งแรกอย่างแน่นอน หรือว่าจะเป็น...
ถึงแม้ว่าจะไม่คิด และก็ไม่อยากจะไปเชื่อ แต่สาริศาก็ยังพูดคาดเดาแบบหยั่งเชิงออกไปอยู่ดี “จะเป็นพวกไรยากับบุรินทร์หรือเปล่า?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...