หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 227

ธนพัตพูดอย่างเยือกเย็นว่า “คดีลักพาตัวเมื่อสิบปีก่อน มีปัญหาบางอย่างที่ผมคิดไม่ออก หลังจากได้รับเงินแล้วคนที่ลักพาตัวก็น่าจะหนีไปให้ไกล แต่สุดท้ายทำไมพวกเขาถึงต้องจุดไฟเผาผมให้ตายด้วย ทำเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องใหญ่โตมีผลดีอะไรกับพวกมัน”

“หลายปีมานี้ผมแอบสืบมาตลอด โดยพื้นฐานแล้วมั่นใจว่า บุรินทร์ก็คือผู้อยู่เบื้องหลังการลักพาตัวผม ตอนนั้นคนที่จับตัวผมไปไม่ได้ต้องการเงิน แต่ต้องการชีวิตผม การเรียกร้องค่าไถ่จากตระกูลกีรติเมธานนท์ เป็นเพียงภาพลวงตาที่สร้างขึ้นโดยบุรินทร์ เพื่อหลบเลี่ยงสายตาของผู้คน แต่เขาคิดไม่ถึงว่า เหตุไฟไหม้ครั้งนั้นไม่ฆ่าผม สุดท้ายผมก็หนีออกมาได้”

พูดมาถึงตรงนี้ ธนพัตอดที่จะกำหมัดแน่นไม่ได้ ภาพที่เขาหนีออกมาจากกองเพลิงเมื่อสิบปีก่อนยังคงติดตา เขาสาบาน เขาต้องทำให้พวกเขาชดใช้ให้ได้

สาริศาเห็นธนพัตมีรังสีความดุร้ายแผ่ออกมาทั่วทั้งตัว ไม่รู้ว่าควรจะปลอบเขาในตอนนี้อย่างไรดี

ผ่านมานานขนาดนั้นแล้ว แต่เมื่อเอ่ยถึงเรื่องตอนนั้น ธนพัตกลับ ไม่อาจทำเป็นไม่รู้ร้อนรู้หนาวได้ คิดแล้วก็คงจะรู้ได้ ว่าเหตุการณ์ตอนนั้นคงทำร้ายเขามาก

สาริศาค่อยๆแกะกำปั้นที่ธนพัตกำเอาไว้แน่นออก ใช้มือของตนเองกุมมือเขาเอาไว้ หวังว่าจะสามารถปลอบใจเขาได้บ้าง

สัมผัสได้ถึงความห่วงใยของสาริศา ธนพัตสูดหายใจเข้าลึกๆ สงบอารมณ์ความรู้สึกของตนเองลง พูดเบาๆว่า “ไม่เป็นไร มันผ่านไปแล้ว ตอนนี้พวกเขาทำร้ายผมไม่ได้แล้ว”

มองเห็นธนพัตที่เป็นฝ่ายกลับมาปลอบตนเอง ในใจสาริศาก็รู้สึกเสียใจอย่างพูดไม่ออก จากนั้นสิ่งที่ตามมาก็คือความโกรธที่อยู่เต็มหัวใจ

จะอย่างไรเธอก็คิดไม่ถึง ว่าคนที่ลักพาตัวธนพัตตอนแรกจะเป็นบุรินทร์ เธอเองก็รู้มาโดยตลอด ว่าความสัมพันธ์ของบุรินทร์และธนพัตไม่ดีนัก แต่กลับคิดไม่ถึงว่าบุรินทร์จะถึงขั้นนี้ได้

“ทำไมบุรินทร์ต้อง……” ยังไม่ทันได้พูดออกมา สาริศาก็เข้าใจกระจ่างแล้ว ยังจะเพื่ออะไรได้อีก ก็เพื่อมรดกไงล่ะ

ความรักที่คุณปู่มีต่อธนพัตเธอเองก็เห็นชัดเจน คาดว่าตอนนั้น ธนพัตก็คงเป็นทายาทของบริษัทที่เหมาะสมที่สุดในใจของคุณปู่ ถ้าบุรินทร์ต้องการจะเป็นเจ้าของบริษัทตระกูลกีรติเมธานนท์ วิธีที่ง่ายที่สุดก็คือกำจัดธนพัต

“งั้นที่คุณแกล้งทำเป็นขาสองข้างพิการมาหลายปีขนาดนั้น ก็เพื่อจะได้ปลอดภัยจากบุรินทร์เหรอ” สาริศาถาม

“อืม แม้ว่าตอนนั้นผมจะรู้สึกผิดปกติ แต่ว่าผมยังเด็กมากในตอนนั้น แทบไม่รู้วิธีในการปกป้องตัวเองเลย ได้แต่แกล้งทำเป็นขาสองข้างพิการ เพื่อให้บุรินทร์ลดความหวาดระแวงที่มีต่อผม ต่อมาผมก็ไปอเมริกาด้วยเหตุผลที่ว่าไปพักฟื้นรักษาตัว คือไม่อยากจะเป็นเป้าสายตาของบุรินทร์ เพื่อสร้างขุมอำนาจของตัวเอง ค่อยๆทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น ขอแค่เพียงมีพลังมากพอที่จะต่อกรกับเขา ผมถึงจะสามารถสืบความจริงในตอนนั้นได้ ให้พวกเขาชดใช้ในสิ่งที่ทำกับตนเองทั้งหมด

ตอนนี้ TNP Groupก็เข้าที่เข้าทางแล้ว ผมเองก็ไม่ใช่ธนพัตที่ทำอะไรไม่ได้อย่างในตอนแรกอีกแล้ว ได้เวลาที่จะเปิดเผยเรื่องนี้แล้ว ต่อให้หลังจากนี้บุรินทร์รู้แล้วยังไม่ยอมเลิกรา ผมก็จะไม่ให้โอกาสนี้กับเขาอีกแล้ว”

สาริศาฟังธนพัตเล่าสาเหตุความเป็นมาเป็นไปของคดีลักพาตัวเมื่อสิบปีก่อน เล่าถึงความพยายามและอดทนตลอดสิบปีอย่างเงียบๆ

ก่อนหน้านี้ธนพัตไม่เคยเล่าเรื่องเหล่านี้ให้เธอฟังมาก่อนเลย บางครั้งตนเองก็ถามเขาเพราะความอยากรู้อยากเห็น แต่เขาก็มักจะเปลี่ยนหัวข้อสนทนาไป ไม่ยอมเลารายละเอียดให้ตนเองฟัง

ตอนนี้เขายอมแบ่งปันเรื่องราวในอดีตให้กับตนเอง หมายความว่า ในที่สุดเขาก็เปิดใจให้กับตัวเอง เต็มใจที่จะให้ตัวเองเข้ามาในหัวใจของเขา

เป็นแบบนี้ ธนพัตพูด สาริศาฟัง ทั้งสองคนก็ค่อยๆหลับไป……

คืนนี้ บนเตียงที่เล็กและแคบของโรงพยาบาล ทั้งสองกลับนอนหลับสนิทเป็นพิเศษ

เช้าวันต่อมา เพราะมีเรื่องที่บริษัทต้องจัดการเล็กน้อย ธนพัตจึงต้องไปทำงานแต่เช้า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ