ตอน บทที่ 240 ประสบการณ์สิบปี จาก หวานเย็น กรุ่นใจ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 240 ประสบการณ์สิบปี คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ หวานเย็น กรุ่นใจ ที่เขียนโดย ช็อคโกแลต เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
“อย่างนั้นหลายปีมานี้เธอไปอยู่ที่ไหน ตอนนี้ยังจำพี่ได้หรือเปล่าว่าพี่เป็นใคร” เมื่อได้นยินว่าพชิราสูญเสียความจำ ชัชวาลก็รีบจับพชิราหันมา มองเธอแล้วถามขึ้น กลัวว่าเธอจะลืมตัวเองที่เป็นพี่ชายคนนี้
“พี่” พชิราที่จะยิ้มก็ไม่ใช่จะร้องไห้ก็ไม่เชิง “ถ้าหากว่าจำไม่ได้แล้ว ฉันจะกลับมาหาพวกพี่ได้อย่างไร”
ไม่ได้ตระหนักว่าตัวเองได้ถามคำถามที่โง่เขลามาก เมื่อได้ยินพชิราบอกว่ายังจำตัวเองได้ ชัชวาลสูดลมหายใจด้วยความโล่งอก “แล้วหลังจากนั้นล่ะ เธอไปที่ไหนอีก”
“ตอนนั้นที่ออกจากโรงพยาบาล ฉันเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองควรจะไปไหนดี บนตัวไม่มีเงินสักบาท จึงได้หาโรงแรมเพื่อสมัครเป็นพนักงานเสิร์ฟ พวกเขาเห็นว่าคุณสมบัติของฉันใช้ได้ จึงได้ให้ฉันทดลองงานก่อน”
“มีอยู่ครั้งหนึ่งตอนที่เสิร์ฟอาหาร ฉันไม่ทันระวังทำน้ำซุปที่ร้อนหกไปราดโดนตัวของลูกค้าท่านหนึ่ง ลูกค้าคนนั้นเห็นฉันค่อนข้าง……” พชิราหยุดชะงักครู่หนึ่ง ไม่ได้กล่าวต่อ แต่ทุกคนล้วนเข้าใจว่าหมายถึงอะไร ชัชวาลสีหน้าก็ยิ่งเย็นชา
“จากนั้นเขาก็ลงไม้ลงมือกับฉัน ภายใต้ความโกรธ ฉันจึงหยิบน้ำบนโต๊ะสาดไปที่ตัวของเขา เขาเห็นท่าทางของฉันที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง จึงหยุดความคิดที่จะตีฉัน แต่ทว่ากลับไม่ยอมปล่อยฉัน ต้องการให้โรงแรมไล่ฉันออก
สองสามีภรรยาคู่หนึ่งที่กำลังรับประทานอาหารอยู่ที่โรงแรมเห็นภาพนี้ จึงได้ลุกขึ้นมาช่วยฉันพูด แต่สุดท้ายฉันก็ถูกโรงแรมไล่ออก สองสามีภรรยาคู่นั้นไม่พอใจอย่างมากกับการกระทำของโรงแรม แต่ว่าก็ทำอะไรไม่ได้ จึงได้พูดสองสามประโยคเพื่อปลอบโยนฉัน
ระหว่างการสนทนา พวกเขาได้รู้เกี่ยวกับสถานการณ์ของฉัน และรู้สึกสงสารเวทนา พวกเขาบอกว่าลูกสาวคนเดียวของพวกเขาเพิ่งจากไปด้วยอุบัติเหตุอย่างกะทันหัน ในเมื่อฉันจำครอบครัวไม่ได้และอยู่คนเดียวไร้ที่พึ่ง พวกเขาจึงอยากรับฉันเป็นลูกบุญธรรม และต่อไปก็ใช้ชีวิตอยู่กับพวกเขา
ตอนนั้น ฉันก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี จึงตอบตกลงกับพวกเขา และต่อมาก็ได้ย้ายไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกาพร้อมกับพวกเขา หลายปีมานี้ฉันอยู่ที่นั่นนมาโดยตลอด”
เมื่อได้ยินในสิ่งที่พชิราประสบพบเจอ ชัชวาลก็รู้สึกเจ็บหัวใจเล็กน้อย เธอเดิมทีเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลนิธิธราสกุล อยู่ข้าง ๆ ตัวเองมีชีวิตที่ถูกรักและตามใจ “ เพชร หลายปีมานี้เธอต้องลำบากแน่เลย”
พชิรายิ้มให้กับชัชวาล “หลายปีมานี้ พ่อแม่บุญธรรมให้ความรู้สึกฉันเหมือนกับความรู้สึกที่ให้ต่อลูกสาวของพวกเขา พวกเขาปฏิบัติกับฉันอย่างดี พี่ไม่ต้องเป็นห่วง”
ปลอบใจชัชวาลหนึ่งประโยคแล้ว พชิราก็กล่าวต่อ “หลายเดือนก่อน ตอนที่ฉันกับเพื่อน ๆ สองสามคนไปท่องเที่ยวกันนั้น ไม่ทันระวังจึงล้มศีรษะไปฟาดกับก้อนหิน และหมดสติลงในที่เกิดเหตุทันที”
“เมื่อฟื้นตื่นขึ้นมา ฉันก็พบว่าความทรงจำในอดีตเริ่มกลับมา และตอนนี้ถึงได้รู้ว่าที่จริงแล้วตัวเองนั้นเป็นใคร จากนั้นจึงรีบกลับมาจากสหรัฐอเมริกาเพื่อมาหาพวกคุณ”
“แต่……” มองไปยังธนพัตแวบหนึ่ง พชิราก็หรี่ม่านตาลงอีกครั้ง น้ำเสียงเศร้า “ฉันเพียงแต่คิดไม่ถึงว่า……”
ถึงแม้ว่าพชิราจะยังพูดไม่จบ แต่มีใครบ้างที่จะฟังไม่ออกถึงคำพูดที่ไม่ได้พูดออกมา เพียงแต่คิดไม่ถึงว่า ธนพัตแต่งงานแล้ว
เห็นแววตาที่เศร้าโศก จนปัญญา และตำหนิติโทษของพชิราที่มองมาทางตัวเอง ในใจของธนพัตเกิดความจุกเล็กน้อย
เงียบอยู่ครู่หนึ่ง ธนพัตจึงกล่าวกับพชิราว่า “คุณไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว” แต่ว่าแววตานั้นเฉยเมย ราวกับเป็นการปฏิบัติต่อเพื่อนที่ไม่ได้เจอมาหลายปี ไม่ใช่เป็นอดีตคนที่ตัวเองเคยรัก
เห็นธนพัตพูดเพียงประโยคนี้ ไม่ได้มีความเป็นห่วงเป็นใยตัวเองมากนัก พชิราเกิดความเจ็บปวดขึ้นในใจ หรือว่าเขาจะเป็นเหมือนกับข่าวลือข้างนอก ที่บอกว่าได้ลืมตัวเองไปแล้ว และก็รักสาริศาแทน
บังคับฝืนตัวเองและข่มความรู้สึกภายในเอาไว้ พชิราลุกขึ้นแล้วเดินไปทางสาริศา จากนั้นนั่งลงโซฟาข้าง ๆ เธอ
สถานการณ์เมื่อสักครู่คับขันขนาดนั้น เธอเองก็ไม่สามารถเดินเท้าเปล่าได้ จึงทำได้เพียงยัดเท้าที่ได้รับบาดเจ็บใส่เข้าไปในรองเท้า ตอนนี้เท้าเธอทั้งคันและเจ็บปวดมาก
ธนพัตถึงเพิ่งได้สังเกตเห็นเท้าของสาริศาได้รับบาดเจ็บ จึงขมวดคิ้ว รีบเดินตรงมาด้านหน้าของสาริศา ธนพัตนั่งยองลง แล้วค่อย ๆ ประคองข้อเท้าของสาริศาขึ้นมา จากนั้นถอดรองเท้าส้นสูงออกอย่างช้า ๆ และระมัดระวัง
ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความจริงจังและตั้งใจ ตรงข้ามกับการเคลื่อนไหวที่อ่อนโยนของมือ ยังมีร่องรอยของการตำหนิตัวเองที่ทำไมไม่สังเกตเห็น
ได้เรียกคนรับใช้ด้านนอกเข้ามา ธนพัตกำชับให้พวกเขาไปเอาน้ำร้อนมาหนึ่งกะละมังพร้อมกับผ้าขนหนูมาหนึ่งผืน
รับน้ำอุ่นมาแล้วบีบผ้าขนหนูที่แช่อยู่ในน้ำอุ่นจนแห้ง ธนพัตบรรจงเช็ดคราบเลือดและฝุ่นบนเท้าของสาริศาอย่างระมัดระวัง
เห็นเท้าของสาริศาที่บวมเป่งสองเท่าจากปกติ ด้านบนยังมีรอยคราบเลือด ธนพัตจึงอดไม่ได้ที่จะโมโหคนเหล่านี้!
หลังจากเช็ดทำความสะอาดแล้ว ธนพัตก็หยิบผ้าขนหนูแห้งมาห่อหุ้มเท้าของสาริศาไว้ จากนั้นลุกขึ้นแล้วหันไปกล่าวกับชัชวาลกับพชิราหนึ่งประโยคว่า “พวกเราขอตัวก่อน” จากนั้นธนพัตก็โน้มตัวลงคล้องแขนเข้าไปที่เอวของสาริศาแล้วอุ้มขึ้นมา มุ่งเดินตรงไปด้านนอก
เห็นความอ่อนโยนของธนพัตที่ช่วยสาริศาทำความสะอาดบาดแผล และตอนนี้ก็อุ้มสาริศาจากไปโดยที่ไม่หันกลับมามอง ไม่แม้แต่จะมองตัวเองสักแวบเดียว พชิราสีหน้าจึงเย็นชาลง ปลายเล็บจิกเข้าฝ่ามือตัวเองอย่างแรง
“เพชร” เห็นแววตาของพชิราที่อยู่ข้าง ๆ เต็มไปด้วยความไม่พอใจและขุ่นเคือง ชัชวาลจึงกล่าวด้วยความเป็นห่วง “ธนพัตแต่งงานแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...