“เรื่องที่ทะเลาะกันก่อนหน้านี้?” สาริศาไม่เข้าใจว่าธนพัตหมายถึงเรื่องอะไร นี่เขาอยากจะคิดบัญชีย้อนหลังอย่างนั้นเหรอ?
“อืม ตอนนั้นผมคิดว่า ให้เวลาและพื้นที่ซึ่งกันและกัน ให้เราทั้งสองคนใจเย็นลงก่อน ผมจึงตกลงที่จะไปประชุมที่ต่างประเทศ แต่ผมรู้สึกเสียใจทันทีที่ขึ้นเครื่องบิน ฉันจะไปอย่างสบายใจ แล้วทิ้งคุณไว้คนเดียวที่บ้านได้ยังไง?”
“ตอนนั้นผมควรจะกล่อมให้คุณหายโกรธก่อน ริศา ฉันยอมรับว่าตอนที่เห็นคุณใส่เสื้อผ้าชุดนั้นทำให้ผมนึกถึงพชิรา และเพราะแบบนี้ ผมถึงไม่ชอบให้คุณใส่เสื้อผ้าที่ไม่เหมาะกับคุณ”
“สำหรับผมพชิราได้กลายเป็นเรื่องในอดีตไปแล้ว ฉันไม่อยากให้เงาของเธอปรากฏขึ้นในชีวิตของเราสองคน คนที่ผมชอบคือสาริศาคนดีคนเดิม ไม่ใช่เพราะเห็นเงาของอีกคนอยู่ในตัวคุณถึงได้ชอบคุณ ริศา ผมพูดแบบนี้ คุณเข้าใจใช่ไหม”
พอได้ยินคำอธิบายของธนพัต หัวใจของสาริศาซาบซึ้งใจจนงุนงงไปหมด และแอบเกลียดตัวเองว่าทำไมเธอถึงไม่เลือกที่จะเชื่อใจธนพัตตั้งแต่ทีแรก? ทำไมถึงสงสัยความรู้สึกของ ธนพัตที่มีต่อตัวเองเพียงเพราะคำพูดไม่กี่คำจากคนอื่น?
“ฉันขอโทษค่ะ... คุณ… ฉันขอโทษ ในตอนนั้นฉันไม่ได้ตั้งใจจะทะเลาะกับคุณ... ฉันแค่... ฉัน ...” สาริศาพูดขอโทษอย่างต่อเนื่อง
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องพูด ผมก็เข้าใจ”
พอได้ยินธนพัตพูดปลอบ น้ำตาของสาริศาก็ไหลออกมามากขึ้น ในตอนนั้นเธอใจแคบมากเกินไป เพราะคำพูดที่ไม่ประสงค์ดีจากคนอื่น ก็ทะเลาะกับธนพัตโดยไม่มีเหตุผล
พอเห็นสาริศาร้องไห้ไม่หยุด ธนพัตก็ถอนหายใจเบา ๆ แล้วจุมพิตดวงตาของเธออย่างอ่อนโยน เพื่อดูดซับน้ำตาของเธอ
รู้สึกถึงจุมพิตที่นุ่มนวลราวขนนกของธนพัตบริเวณดวงตา สาริศาก็โอบแขนของเธอไว้รอบเอวของธนพัตโดยไม่รู้ตัว
จุมพิตเลื่อนลงมาเรื่อยๆ น้ำตาที่ขมขื่นไหลผ่านริมฝีปากของธนพัตเข้าสู่หัวใจ แฝงไปด้วยความเจ็บปวดเล็กน้อย แต่กลับทำให้หัวใจของเขายิ่งอ่อนลง
ในที่สุด ธนพัตก็จูบลงที่ริมฝีปากของสาริศา ปลายลิ้นที่เย็นเล็กน้อยเลื่อนเข้าไปในปากของเธอ ก่อนจะสำรวจทุกซอกทุกมุม พยายามดูดซับลมหายใจที่เป็นของเธออย่างตะกละตะกลาม ธนพัตระบายความคิดถึงที่มากมายเหลือล้นของเขาที่มีต่อสาริศาออกมา ในทุกวันนี้
สาริศาเองก็โต้ตอบกลับให้ธนพัตอย่างกระตือรือร้นไม่เหมือนที่เคย แตกต่างจากความเขินอายที่เคยมี เหมือนอยากจะระบายความน้อยใจ ความกลัว และความหวาดวิตกที่เธอได้รับในช่วงนี้ออกมากับจูบในครั้งนี้
เมื่ออารมณ์ความดูดดื่มรุนแรงมากขึ้น ทั้งสองก็เบียดชิดกันมากขึ้น แทบอยากจะจับอีกฝ่ายยัดเข้ามาในร่างกายของตัวเอง มือของธนพัตล้วงเข้าไปในชุดนอนของสาริศา แล้วลูบไล้วนไปวนมาอยู่บริเวณเอวบางของเธอ ก่อนจะค่อยๆ ขยับขึ้นมา กอบกุมหน้าอกที่แสนนุ่มนิ่มของเธอ...
ความเย็นจากมือของธนพัต ทำให้สาริศาสูดหายใจเข้าเล็กน้อย แล้วกอดเขาแน่นขึ้น ...
“หึ” เขาผละออกจากริมฝีปากของสาริศาอย่างอ้อยอิ่ง แล้วหัวเราะออกมาเบา ๆ
สาริศาตาปรือมองไปทางธนพัต เหมือนไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงหยุดกะทันหัน
“ริศา” ธนพัตหายใจข้างในหูของเธอเบาๆ “ผมยังไม่ได้อาบน้ำเลย อีกอย่าง ขาของคุณก็บาดเจ็บอยู่ด้วย” พอพูดประโยคจบ น้ำเสียงของธนพัตก็หงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด
พอได้ยินคำพูดของธนพัต สาริศาก็รู้สึกว่าศีรษะของเธอแทบจะระเบิดออกมาทันที และสติของเธอก็ชัดเจนขึ้น เมื่อตะกี้เธอมีความกระตือรือร้นมากถึงขนาดนั้น... สาริศารู้สึกว่าใบหน้าของเธอกำลังจะถูกเผาไหม้
เธอพยายามปรับอารมณ์ร่างกายของเธอที่อ่อนแรงก่อนหน้านี้ให้มั่นคง ก่อนจะผลักเขาออกห่าง “คุณไปอาบน้ำเถอะค่ะ!”
“เหอะ” ดวงตาของธนพัตเต็มไปด้วยความขี้เล่น “ใจร้อนขนาดนี้เลยเหรอ งั้นคุณไปอาบน้ำกับผมดีไหม”
“คุณธนพัต! คุณ...” ทุกครั้งที่เธอเห็นธนพัตในท่าทางแบบนี้ สาริศาก็ไม่รู้ว่าจะตอบโต้ยังไงดี ทั้งที่อยู่ข้างนอกเขาดูเรียบนิ่งมากขนาดนั้น แต่ทำไมกลับมาถึงบ้านเขากลับดูเหมือนคนเจ้าเล่ห์เพทุบายแบบนี้
“เอาล่ะ เดี๋ยวผมไปอาบน้ำก่อน” พอเห็นสีหน้าเขินอายของสาริศา ธนพัตก็ไม่ล้อเธออีก เขาก้มลงอุ้มเธอขึ้นไปบนเตียง แล้วจูบทิ้งท้ายบนหน้าผากของสาริศา ก่อนจะหันหลังเดินออกจากห้องนอนด้วยรอยยิ้ม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...