พอเห็นธนพัตอุ้มพชิราเดินจากไป อีกทั้งตั้งแต่ออกจากลิฟต์มาไม่แม้แต่จะมองเธอเลยด้วยซ้ำ สาริศาจึงรู้สึกหลายอารมณ์สับสนกันไปมา
แต่พอเห็นว่าพชิราหมดสติไปแล้ว อาการน่าจะหนักมาก ดังนั้นธนพัตจะดูแลพชิราก่อนก็สมควรแล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่พชิรา เธอเชื่อว่าธนพัตจะทำเช่นเดียวกัน พอคิดได้แบบนี้ สาริศาก็รู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย และรีบวิ่งไปหาธนพัต
แต่สาริศาเพิ่งวิ่งตามลงมาข้างล่าง เธอก็เห็นว่าธนพัตจากไปพร้อมกับรถพยาบาลแล้ว ในขณะที่สาริศากำลังไม่รู้ว่าจะไปโรงพยาบาลยังไงดี เธอก็เห็นชรัณขับรถออกจากที่จอดรถ
“คุณชรัณคะ!” สาริศาตะโกนชื่อชรัณพร้อมกับวิ่งไปทางชรัณ
พอได้ยินเสียงของสาริศา ชรัณก็รีบหันพวงมาลัยรถ แล้วจอดรถไว้ข้างๆ สาริศา ก่อนจะโผล่หน้าออกมาแล้วถามว่า “คุณนายน้อย มีอะไรหรือเปล่าครับ?”
“คุณรู้ไหมคะว่าธนพัตกับคุณพชิราอยู่ที่โรงพยาบาลไหน คุณช่วยพาฉันไปที่นั่นได้ไหม” สาริศาถามอย่างกังวลใจ
“ผมกำลังจะไปที่นั่นพอดีครับ คุณนายน้อยขึ้นรถเลยครับ” พอสาริศาขึ้นรถ ชรัณก็ขับรถไปโรงพยาบาล
เธอตกใจกับความเร็วในการขับขี่ของชรัณ สีหน้าของสาริศาซีดเซียว และท้องของเธอรู้สึกปั่นป่วนไปหมด แต่เธอรีบร้อนจะไปโรงพยาบาล เธอจึงพยายามทนต่อความรู้สึกมวนท้องและปิดปากแน่น
ไม่นานพวกเธอก็มาถึงโรงพยาบาล หลังจากลงจากรถ สาริศาก็รู้สึกวิงเวียนศีรษะ จนเกือบจะล้มลงกับพื้น
พอเห็นอาการของสาริศาชรัณก็รีบเข้าไปประคองอย่างรวดเร็ว “คุณนายน้อยครับ ขอโทษด้วยนะครับ เมื่อตะกี้ผมขับรถเร็วไป”
“ไม่เป็นไร” สาริศายิ้มแหย ปล่อยให้ชรัณช่วยพยุงอยู่สักพัก จนอาการวิงเวียนศีรษะเริ่มดีขึ้น สาริศากับชรัณจึงเดินเข้าไปที่โรงพยาบาล
หลังจากเข้าไปในโรงพยาบาลและสอบถามพยาบาล สาริศารู้ว่าพชิรากำลังอยู่ในห้องผ่าตัด จากคำบอกทางของพยาบาล เธอจึงหาห้องผ่าตัดเจออย่างรวดเร็ว
ตอนนี้ธนพัตกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ตรงทางเดินของห้องผ่าตัด พอเห็นสาริศาวิ่งเข้ามา ธนพัตก็ลุกขึ้นมาประคองเธออย่างรวดเร็ว
หลังจากที่สาริศาหอบหายใจยืนได้มั่นคง ธนพัตก็มองมาที่เธอ และถามด้วยสีหน้าขมวดคิ้วว่า “ทำไมคุณถึงรีบร้อนขนาดนี้ล่ะ! สีหน้าก็ดูไม่ดีเลย”
“ฉัน...” สาริศาไม่รู้จะอธิบายความวิตกกังวลของเธอยังไงดี ที่จริงแล้ว เธอเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงต้องรีบไปโรงพยาบาลเร็วขนาดนี้
“คุณพชิราเป็นยังไงบ้างคะ?” เธอรีบเปลี่ยนหัวข้อ สาริศาถามอาการของพชิรา
เขาจับไหล่ของสาริศา และกดให้เธอนั่งลงบนเก้าอี้ ธนพัตเองก็นั่งลงข้างๆ เธอ “ผลที่ตามมาจากไฟไหม้ครั้งก่อน ระบบทางเดินหายใจและหัวใจของเธอไม่ค่อยดี คราวนี้เธอถูกขังอยู่ในลิฟต์เป็นเวลานาน อาจเป็นเพราะขาดออกซิเจนเล็กน้อย ทำให้หายใจลำบากจนเป็นลมหมดสติไป”
“แล้วเธอจะอาการหนักไหมคะ” สาริศาเอ่ยถามอย่างประหม่า ถึงแม้พชิราจะเป็นศัตรูหัวใจของเธอ และเธอเองก็ไม่ชอบไม่ชอบนิสัยของอีกฝ่ายมากนัก แต่ก็เป็นชีวิตหนึ่ง หวังว่าพชิราจะปลอดภัย
“อาการป่วยเดิมของเธอ คงไม่เป็นอันตรายถึงชีวิตหรอก” ธนพัตไม่แน่ใจ
ทั้งสองหยุดพูดคุยพูดคุยกันและนั่งรออย่างเงียบๆ รอให้การผ่าตัดสิ้นสุดลง
“จริงสิคะ คุณได้โทรไปบอกคุณชัชวาลแล้วหรือยังคะ” จู่ๆ สาริศาก็นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ชัชวาลเป็นญาติคนเดียวของพชิรา ดังนั้นควรจะเรียกเขามาเร็ว ๆ ถึงจะถูก
“อืม” ธนพัตพยักหน้า “ผมให้ชรัณโทรไปบอกเขาแล้ว คงจะมาถึงเร็ว…”
ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ ก็เห็นชัชวาลรีบวิ่งเข้ามา
“มาแล้ว” ธนพัตหันไปพูดกับสาริศา
“เพชรเป็นยังไงบ้าง” ชัชวาลถามธนพัตทันทีที่เขามาถึง
“ยังอยู่ในห้องผ่าตัด” ธนพัตมองหน้าชัชวาลเพื่อให้เขาสบายใจ “ไม่ต้องเป็นห่วงเกินไป น่าจะไม่เป็นอะไรมาก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...