“เธอยินดีที่จะให้อภัยเรื่องที่หล่อนทำกับเธอในปีนั้นมั้ย? ” ธนพัตกลับไม่อยากปล่อยโศภิตาไปง่ายๆแบบนี้
“ถึงยังไงไรยาก็ตายไปแล้ว นี่ก็ถือว่าเป็นการลงโทษที่ใหญ่ที่สุดสำหรับเธอแล้ว” สาริศาไม่อยากให้คนเป็นแม่อย่างโศภิตา แม้แต่งานศพของลูกยังไปร่วมไม่ได้ นั่นมันจะโหดร้ายเกินไป
“โอเค หากเธออยากให้หล่อนกลับมาล่ะก็ ฉันจะจัดการเอง”
“อืม” สาริศาตอบรับ และกินข้าวต่อ ไม่พูดอะไรอีก
เมื่อเห็นว่าสาริศาไม่ยินดีที่จะสนใจตน ธนพัตจึงถอนหายใจอยู่ในใจ เห็นทีหากอยากให้ทั้งสองกลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อนกับสาริศา คงจะต้องมีทางที่จะต้องเดินอีกไกล
สุดสัปดาห์ ชรัณไปส่งสาริศาที่งานศพของไรยา สุดท้ายแล้วสาริศาก็ไม่ได้ไปคนเดียว เธอเรียกกันยาไปกับเธอด้วย
หลังจากเข้ามาในงาน สาริศาก็เห็นสุวิทย์
สุวิทย์ในตอนนี้กำลังหันหลังให้รูปเหมือนของไรยา หลังงอเล็กน้อย สภาพดูไม่มีชีวิตชีวาเหมือนเมื่อก่อน จากที่เจอกันครั้งล่าสุด ราวกับแก่ลงไปมากกว่าสิบปี
มองดูแผ่นหลังของสุวิทย์ ในใจของสาริศาก็เจ็บปวดขึ้นมาเล็กน้อย ถึงแม้ว่าตั้งแต่เล็กสุวิทย์จะไม่ได้ทำหน้าที่ของคนเป็นพ่อต่อตนเลย แต่ถึงยังไงเขาก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขเดียวกับตน ตอนนี้เห็นเขาลำบากตอนมีอายุ ในใจของสาริศาก็ไม่สบายใจมากๆ
กันยาไม่ยินดีที่จะพบสุวิทย์ ดังนั้นสาริศาจึงเดินหน้าเข้าไปคนเดียว
“พ่อ” เดินมาที่ด้านหลังสุวิทย์ สาริศาก็เรียกเขาเสียงเบาๆ
หันหลังมามองสาริศาที่อยู่ด้านหลัง อารมณ์ของสุวิทย์ก็ซับซ้อนเล็กน้อย
ตอนนี้บริษัทของตระกูลธราภักดิ์ล้มละลาย โศภิตาก็ไปอยู่ไกลถึงเมืองนอก แถมตนยังต้องส่งลูกลาโลกไปก่อนอีก ถึงแม้เรื่องราวทั้งหมดนี้จะเป็นโศภิตาแม่ลูกหาเรื่องใส่ตัวเอง แต่ก็จะบอกว่าไม่เกี่ยวกับธนพัตเลยก็ไม่ได้ ตอนนี้เห็นสาริศามาร่วมงานศพของไรยา ในใจของเขาก็ว้าวุ่นขึ้นมา
แต่ไม่ว่าจะพูดยังไง สาริศาก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขเดียวของเขาที่อยู่บนโลกนี้ คิดดังนั้น สุวิทย์ก็เอ่ยปากอย่างอ่อนโยน “มาแล้วเหรอ”
“อื้ม” สาริศาไม่รู้ว่าจะพูดอะไร จึงทำได้แค่ตอบรับอย่างง่ายๆ
“มาก็ดีแล้ว จะพูดยังไงไรยาก็เป็นน้องสาวของเธอ มาส่งน้องครั้งสุดท้ายก็ดี” พูดสองประโยคนี้จบ สุวิทย์ก็น้ำตาคลอมองรูปของไรยาอีกครั้ง
สาริศาก็ไม่รู้ว่าควรจะปลอบสุวิทย์ยังไงดี จึงยืนอยู่ข้างๆเป็นเพื่อนเขาอย่างเงียบๆ
ถึงแม้ตระกูลธราภักดิ์จะล้มละลาย แต่ทุกคนต่างก็รู้ว่าธีภพเป็นคนจัดงานศพนี้ เห็นแก่หน้ากีรติเมธานนท์กรุ๊ป ยังมีคนดังในโซเชียลอีกมากมายที่มาแสดงความเสียใจต่อไรยา
ตอนนี้ธีภพกำลังพูดอยู่บนเวที
“สวัสดีทุกท่าน วันนี้ พวกเรามารวมตัวกันที่นี่ เพื่อมาไว้อาลัยให้กับคุณไรยา ดังนั้น ในนามของญาติของไรยา เป็นตัวแทนของผู้มีเกียรติทุกท่าน ขอแสดงความเสียใจกับการจากไปของไรยา และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อไรยาและญาติๆของเธอ......”
ขณะที่ทุกคนกำลังสนใจที่ธีภพพูด อยู่ๆที่หน้าประตูก็มีเสียงความวุ่นวายดังขึ้น ในนั้นมีเสียงร้องไห้ของผู้หญิงปนอยู่ด้วย ทันใดนั้นสายตาของผู้คนก็ถูกดึงดูดไปหาทันที
เห็นแค่รปภ.กำลังขวางห้ามไม่ให้ผู้หญิงคนนึงเข้ามาในงาน แต่ผู้หญิงคนนั้นราวกับเสียสติ ตีรปภ.อย่างสุดแรง แถมยังใช้เล็บข่วนไปทางหน้าของรปภ.ไม่หยุด ตอนนี้รปภ.หลายคนก็เอาไม่อยู่ สุดท้ายผู้หญิงคนนั้นก็ลอดเข้ามา
สาริศารู้สึกคลุมเครือว่าคุ้นเสียงของผู้หญิงคนนั้นมากๆ จึงเข้าไปใกล้เงาร่างนั้นยิ่งขึ้น ในที่สุดสาริศาก็จำได้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร ปรากฏว่าเป็นโศภิตา
แต่ว่าโศภิตาในตอนนี้กลับไม่มีลักษณะเป็นคุณนายเหมือนแต่ก่อนเลย ผมเผ้าดูกระเซอะกระเซิง บนตัวสวมเสื้อคลุมสีฟ้าลายดอกที่มีแต่คนแก่จะใส่กัน บนเสื้อยังมีรอยเย็บปะหลายที ที่เท้าสวมรองเท้าลายพรางคู่นึงที่เก่าและพังแล้ว ดูแล้วจะใหญ่ไปหน่อย ตอนที่เธอขยับ ส้นเท้าก็หลุดตามออกมา
แล้วก็ ตอนนี้โศภิตาผอมลงจนน่ากลัว ราวกับเหลือแต่โครงกระดูก เสื้อผ้าก็ห้อยหลวมๆ ไว้บนตัว แก้มก็ซูบตอบลงไป ผิวที่เหลืองดูซีด เห็นได้ชัดว่าได้รับสารอาหารไม่ครบเป็นเวลานาน
สาริศาเคยเห็นโศภิตาเป็นแบบนี้ที่ไหน เมื่อเห็นเลยตกใจเล็กน้อย โศภิตาในความทรงจำ เป็นคนที่แต่งตัวดูดีมาตลอด และดูหยิ่งผยอง ตอนนี้กลายมาเป็นเหมือนหญิงชราขอทานข้างถนนได้ยังไง ธนพัตส่งหล่อนไปที่ไหนกันแน่นะ? ทำไมถึงได้ถูกทรมานขนาดนี้?
ท่ามกลางสายตาช็อกของผู้คนโศภิตาก็ตะเกียกตะกายวิ่งมาจนถึงด้านหน้าร่างของไรยา จากนั้นก็คุกเข่าลงดังปึ้ก
“ลูกสาวแม่ ทำไมลูกถึงจากแม่ไป ลูกทำใจให้แม่คนเฒ่าคนแก่ต้องส่งลูกไปก่อนงั้นเหรอ? แม้แต่ก่อนตายแม่ยังไม่ได้เจอหน้าลูกเป็นครั้งสุดท้ายเลยนะ? ”
ธีภพที่กำลังจะเข้ามาห้ามได้ยินเสียงร้องไห้ของโศภิตาก็จำได้ ทันใดนั้นก็ไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย เขาใช้เวลาสักพักกว่าจะมีปฏิกิริยาเขาปัดมือให้รปภ.พวกนั้นที่จะเข้ามาห้ามโศภิตาอีกครั้งให้ถอยไป
“ไรยา ลูกแม่ ลูกตายอย่างไม่เป็นธรรม ลูกถูกคนทำร้ายจนตาย แม่มันไม่ได้เรื่อง แม่ไม่ได้ปกป้องลูกให้ดี!......”
โศภิตาร้องไห้โฮออกมาไม่สนใจภาพลักษณ์ตัวเองแม้แต่น้อย ในบรรดาแขกหญิงที่มาร่วมงานก็มีพวกที่มีอดีตมิตรภาพกับโศภิตา ตอนนี้ได้เห็นรูปลักษณ์ของโศภิตาที่ไม่เคยอ่อนโยนต่อผู้อื่น อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้า ทันใดนั้นผู้คนก็เริ่มพูดถึงกัน
ตอนแรกสุวิทย์ก็ตกใจที่โศภิตามางาน ตอนนี้ถึงดึงสติมาได้ จึงรีบเข้าไปดึงโศภิตาออกมา “ตอนนี้เป็นงานศพของไรยา ทุกคนก็อยู่กันหมด เธออย่าทำขายหน้าได้มั้ย? ”
“ฉันทำขายหน้า!” เมื่อได้ยินที่สุวิทย์พูด โศภิตาก็ลุกพรวดขึ้นมาจากพื้น ใช้มือทั้งสองคว้าเสื้อของสุวิทย์ และพูดด้วยสีหน้าโมโห “มาถึงขั้นนี้แล้ว คุณยังห่วงภาพลักษณ์อีกเหรอ? สุวิทย์ คุณมันสารเลว แม้แต่เมียและลูกสาวของตัวเองยังปกป้องไม่ได้ คุณยังเป็นผู้ชายอยู่มั้ย ยังเป็นพ่อคนอยู่หรือเปล่า? ”
ไม่รู้ว่าโศภิตาไปเอาแรงมากมายแบบนี้มาจากไหน สุวิทย์เลยสะบัดเธอไม่หลุด แถมยังถูกเธอเขย่าจนเอนไปมา หน้าแดงเพราะถูกเนกไทรัด
เมื่อเห็นว่าสุวิทย์ใกล้จะหายใจไม่ออกแล้ว สาริศาจึงรีบเข้าไปช่วยแกะมือของโศภิตาออก
เมื่อเห็นสาริศา โศภิตาจึงยิ่งบ้าคลั่ง ปล่อยมือจากสุวิทย์และเข้าไปจะตบหน้าสาริศาอย่างแรง สาริศาหลบหลีกได้ทัน แต่ปลายแหลมที่แหลมคมของโศภิตาก็ยังคงทิ้งรอยเลือดไว้บนแขนของสาริศาอยู่หลายรอย
“สาริศาแกมันนังแพศยา แกยังกล้ามางานศพของไรยาอีกเหรอ! ถ้าหากไม่เพราะแก ไรยาของฉันจะตายไปตั้งแต่อายุน้อยๆอย่างนี้เหรอ วันนี้ฉันจะฆ่าแกนังสารเลว!”
โศภิตาพูดพลางอยากจะเข้าไปตบสาริศา แต่ก็ถูกสุวิทย์ห้ามไว้ทัน ธีภพก็รีบเข้ามาเอาตัวสาริศาไว้ด้านหลัง พลางมองรอยแผลที่แขนของสาริศาด้วยสีหน้าร้อนรนและถามขึ้น “เธอไม่เป็นไรนะ? ”
สาริศาส่ายหน้า อยากจะบอกธีภพว่าตัวเองไม่เป็นไร ให้เขาไม่ต้องกังวล แต่ทันทีที่ขยับบาดแผลก็กระทบกระเทือน เจ็บจนสาริศาขมวดคิ้วขึ้น
“สุวิทย์ คุณมันหน้ามืดตามัว คุณยังมาขวางฉัน ยัยสารเลวนี่มันทำให้ลูกสาวแท้ๆของคุณต้องตายนะ!” เมื่อเห็นสุวิทย์ขวางอยู่ข้างหน้าตน โศภิตาทั้งต่อยและเตะเขา และกรีดร้องอยากใจจะขาด
“สาริศาก็เป็นลูกสาวของฉัน ตอนนี้ฉันก็มีเธอเป็นลูกคนเดียวแล้ว จะไม่ปกป้องเธอได้ยังไง!” สุวิทย์เห็นท่าทีปากร้ายของโศภิตา ก็โมโหขึ้นมาในใจ วันนี้ต่อหน้าคนมากมาย ทำตัวขายหน้าจนขายหน้ามาถึงตระกูลแล้ว “มีเรื่องอะไรกลับบ้านค่อยว่ากัน เธออย่ามาโวยวายที่นี่ได้มั้ย!”
“ฮ่าๆ ฮ่าๆ!” เมื่อได้ยินที่สุวิทย์พูด โศภิตาก็หัวเราะขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง “มันก็เป็นลูกของคุณ? สุวิทย์ คุณโดนหลอกมาตั้งนานแล้ว ตัวเองยังไม่รู้อีกเหรอ? ”
“เธอหมายความว่ายังไง!” สีหน้าของสุวิทย์เปลี่ยนเป็นเข้มขึ้น
“สุวิทย์ ฉันจะบอกคุณให้นะ ยัยสาริศานี่ไม่ใช่ลูกของคุณเลย หล่อนมันก็เป็นแค่ลูกที่ไม่มีพ่อ หลายปีที่ผ่านมาคุณก็ช่วยเลี้ยงลูกของคนอื่นเท่านั้นแหละ!” หลังจากตะโกนป่าวประกาศเรื่องนี้ไปแล้ว โศภิตาก็ร้องไห้เสียงดังอีก “ตอนนี้คุณยังปกป้องมัน สุวิทย์ ยัยสารเลวนี้มันทำร้ายลูกสาวแท้ๆคนเดียวของคุณจนตายคุณรู้บ้างมั้ย!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ