เห็นสาริศาพูดกับตนเองว่า “ต้องเชื่อเธอ” หลังจากนั้นก็เข้าสู่ห้วงแห่งความคิด ท่านประเสริฐรู้สึกแปลกมากกำลังจะเอ่ยปากถามเธอว่าตอนแรกเกิดเรื่องอะไรขึ้น ก็เห็นสาริศาหมุนตัวเดินไปข้างนอก
“ริศา!” ท่านประเสริฐอยากจะรั้งตัวสาริศาไว้อย่างรีบร้อน แต่แค่เพียงชั่วพริบตาสาริศาก็ลงไปชั้นล่างแล้ว แทบไม่ได้ยินเสียงเรียกเขาเลย
หลังจากวิ่งหนีออกมาจากคฤหาสน์ สาริศารีบร้อนวิ่งไปเรียกรถแท็กซี่ข้างถนน บอกที่อยู่ของTNP Groupกับคนขับรถ
ระหว่างทาง ในใจสาริศาเต็มไปด้วยความวิตกกังวล ตนเองควรจะอธิบายเรื่องนี้กับธนพัตอย่างไร ธนพัตจะเชื่อตนเองเหรอ หรือว่าจะเหมือนกับคุณปู่ที่คิดว่าตนเองลืมเรื่องนี้ไปแล้ว
หลังจากมาถึงTNP Groupแล้ว สาริศาเองก็ไม่ได้ทักทายกับประชาสัมพันธ์ของบริษัท ตรงขึ้นลิฟต์ไปที่ห้องทำงานธนพัตทันที
โชคยังดีที่พนักงานประชาสัมพันธ์สาวจำสาริศาได้ ดังนั้นจึงไปได้ขัดขวางเธอ เพียงแต่รู้สึกแปลกใจมาก ภรรยาท่านประธานรีบร้อนมาหาท่านประธานขนาดนี้ด้วยเรื่องอะไร อีกอย่างท่าทางเหมือนเพิ่งร้องไห้มา หรือว่าจะทะเลาะกับท่านประธาน
นึกมาถึงตรงนี้ พนักงานประชาสัมพันธ์สาวก็มองโทรศัพท์ตรงหน้าอย่างอึดอัดใจเล็กน้อย เช่นนั้นแล้วตนเองควรจะโทรไปรายงานท่านประธานหน่อยดีมั้ย
ช่างเถอะ อย่าไปยุ่งเรื่องในครอบครัวคนอื่นเลย ตนเองระวังไม่ให้ไปหาเรื่องเดือดร้อนมาใส่ตัวก็พอ
สาริศาไม่เห็นธนพัตอยู่ที่ห้องทำงาน เลขาหน้าประตูห้องของธนพัตบอกเธอว่า ธนพัตกำลังประชุมอยู่ในห้องประชุม ให้เธอรอที่ห้องทำงานสักครู่
“รบกวนคุณช่วยเข้าไปแจ้งเขาหน่อยได้มั้ยคะ ว่าฉันอยากพบธนพัตตอนนี้” สาริศามีท่าทางแข็งกร้าวที่เห็นได้ยาก
เมื่อเห็นภรรยาท่านประธานที่มักจะให้ความรู้สึกอ่อนโยนมาตลอดมาตอนนี้กลับมีสีหน้าเคร่งเครียด เลขาเองก็พอจะเดาได้ว่าต้องมีเรื่องสำคัญอะไรบางอย่าง
“ได้ค่ะ อย่างนั้นคุณรอสักครู่นะคะ ฉันจะไปแจ้งให้เดี๋ยวนี้เลย”
ธนพัตกำลังฟังหัวหน้าแต่ละแผนกรายงานประจำวัน เห็นเลขาเดินมาทางตนเอง ก็ขมวดคิ้วเบาๆ เขาไม่ชอบให้ใครเข้ามารบกวนเวลาประชุม
เลขาเดินมาข้างๆธนพัต พูดเบาๆว่า “ท่านประธานคะ คุณสาริศาต้องการพบคุณ บอกว่ามีเรื่องด่วนค่ะ ตอนนี้กำลังรออยู่ที่ห้องทำงานค่ะ”
ได้ยินว่าสาริศามาหาตนเอง ธนพัตตัดบทการรายงานของหัวหน้าแผนก “พอแค่นี้ก่อน ที่เหลือตอนบ่ายค่อยว่ากัน แยกย้ายกันก่อน”
หลังจากพูดจบ ธนพัตก็เดินออกจากห้องประชุม ปล่อยให้บรรดาหัวหน้าแผนกมองหน้ากันไปมา
จู่ๆธนพัตมาถึงบริษัทแต่เช้าบอกว่าจะประชุม อีกอย่างท่าทางเห็นชัดว่าอารมณ์ไม่ดี พวกเขาได้แต่เผชิญหน้ารับมืออย่างระมัดระวัง กลัวว่าตนเองไม่ทันระวังก็จะไปทำให้เทพเจ้าคนนี้โกรธเข้า
คิดไม่ถึงว่าเพิ่งจะประชุมได้ครึ่งทาง จู่ๆธนพัตก็เลิกประชุมแล้ว ดูท่าวันนี้พวกเราคงต้องเป็นผู้เสียสละพลีชีพแล้วละ
ตอนที่กลับมาถึงห้องทำงานปิดประตู ธนพัตหันมาก็มองเห็นสาริศารีบวิ่งมาทางตนเองด้วยความรีบร้อน จับมือตนเอาไว้พูดด้วยสีหน้ากังวลว่า “ธนพัต ฉันตั้งท้องลูกของเรานะคะ คุณต้องเชื่อสิ่งที่ฉันพูดนะ!”
เมื่อได้ยินคำพูดของสาริศา สีหน้านพัตเย็นยะเยือก แต่ก็พาสาริศามานั่งบนโซฟาด้วยความอดทน
“ริศา เรื่องบางเรื่องผมไม่สะดวกที่จะบอกคุณ คุณก็เชื่อผม พวกเราจะไปโรงพยาบาลเอาเด็กคนนี้ออกดีมั้ย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...