หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 293

“ทำไมคะ!” สาริศาเอ่ยถามด้วยใจที่แตกสลาย “คุณปู่ ทำไมคุณปู่กับธนพัตต่างก็ไม่อยากได้เด็กคนนี้ นี่เป็นลูกของหนูกับธนพัตนะคะ!”

ได้ยินคำพูดของสาริศา ท่านประเสริฐเองก็นึกขึ้นได้ว่าธนพัตเคยบอกกับตนว่า เพราะสาริศาได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจมากเกินไปจึงเลือกที่จะลืมเรื่องที่ตนเองถูกข่มขืนไป ดูท่าจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ

“ริศา เธอไม่ต้องถามอะไรมาก เธอเชื่อธนพัตเถอะ ไปที่โรงพยาบาลเอาเด็กคนนี้ออกก็ถูกแล้ว” ท่านประเสริฐเองก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายกับสาริศาอย่างไร

เซถลาลงมานั่งบนโซฟา สาริศาคิดไม่ถึงว่าคุณปู่ก็ยังไม่ยอมช่วยตนเองเอาเด็กคนนี้ไว้ ตอนนี้ตนเองจะทำอย่างไรดีนะ

เห็นสีหน้าท่าทางเสียใจผิดหวังของสาริศา ท่านประเสริฐก็อดไม่ได้ที่จะนั่งลงข้างๆพลางปลอบเธอว่า “ริศา ที่ธนพัตทำแบบนี้ก็ต้องมีเหตุผลของเขาแน่ เขาอาจจะไม่สะดวกที่จะบอกเหตุผล แต่เธอต้องเชื่อ ว่าธนพัตหวังดีต่อเธอ”

“งั้นคุณปู่บอกหนูได้มั้ยคะว่าทำไม” สาริศามองท่านประเสริฐ แววตาเต็มไปด้วยความเสียใจ และอ้อนวอน

ความจริงเห็นธนพัตกับคุณปู่ต่างก็เกลี้ยกล่อมให้ตนเองเอาเด็กออกสาริศาก็พอจะเดาได้ว่า เรื่องราวต้องไม่ธรรมดาอย่างที่ตนเองคิดขนาดนั้น

ถ้าธนพัตไม่ต้องการเด็กคนนี้เพราะพชิรา เช่นนั้นท่านประเสริฐล่ะ ทำไมท่านประเสริฐถึงไม่ต้องการเด็กคนนี้

เห็นว่าท่านประเสริฐไม่ได้ตอบคำถามของตนเอง แล้วยังหลบสายตาตนเองด้วย สาริศาก็ยิ่งมั่นใจการคาดเดาของตนเอง นี่ต้องมีสาเหตุที่ตนเองไม่รู้แน่นอน

“คุณปู่ ถือว่าหนูขอร้องนะคะ คุณปู่บอกหนูได้มั้ยคะ ในเมื่อคุณปู่กับธนพัตต้องการให้หนูเอาเด็กคนนี้ออก หนูก็ควรจะได้รู้เหตุผล ไม่เช่นนั้น หนูไม่มีทางยอมให้ใครมาทำร้ายลูกหนูเด็ดขาด!”

เมื่อได้ยินคำพูดของสาริศา ในใจท่านประเสริฐก็หวั่นไหวอยู่บ้าง

ใช่ ถ้าไม่บอกเหตุผลสาริศา ทำแบบนี้โหดร้ายไปหน่อยสำหรับเธอจริงๆ เธอก็ไม่มีทางรับปากแน่นอน

สุดท้ายท่านประเสริฐก็ถามอย่างลังเลว่า “ริศา เธอยังจำเรื่องที่เธอถูกจับตัวไปวันนั้นเมื่อหนึ่งเดือนก่อนได้มั้ย”

“จำได้ค่ะ” สาริศาพยักหน้า ไม่เข้าใจว่าทำไมท่านประเสริฐจึงเอ่ยถามถึงเรื่องนี้

“เธอจำได้ทั้งหมด แน่ใจว่าไม่ได้ลืมอะไรนะ”

“ไม่มีค่ะ เรื่องในวันนั้นหนูจำได้ชัดเจนทุกอย่างค่ะ” หรือว่าตนเองลืมอะไรไปเหรอ สาริศาคิดอย่างไม่แน่ใจ

“งั้นเรื่องที่เธอถูกข่มขืนเธอก็จำได้เหรอ”

“อะไรนะคะ!” สาริศาถามอย่างตกใจ “หนูถูกข่มขืนเหรอคะ”

เห็นท่าทีของสาริศา ท่านประเสริฐคิดในใจว่า ดูท่าทางเธอจะจำเรื่องนี้ไม่ได้

“อืม วันนั้นเธอถูก……” ท่านประเสริฐมองสาริศาอย่างอึดอัดเล็กน้อย เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พูดออกมาได้ยากลำบากมากจริงๆ “เธอถูกขอทานสี่คนข่มเหง เมื่อกี้ที่เธอบอกว่าท้องได้หนึ่งเดือนแล้ว ดังนั้นมันเป็นไปได้มากว่า เด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของธนพัต แต่เป็น……ลูกของเธอกับขอทานสี่คนนั้น”

หลังจากพูดจบ ท่านประเสริฐก็มองสาริศาอย่างรู้สึกผิด เป็นเพราะบุรินทร์ไอ้ลูกทรพีนั่น ที่ทำเรื่องแบบนี้ เป็นเพราะเขาสั่งสอนมาไม่ดีเอง

“คุณปู่กำลังพูดเรื่องอะไรคะ” สาริศาอึ้งไปเล็กน้อย “วันนั้นหนูไม่ได้ถูกผู้ชายสี่คนนั้นข่มเหงนะคะ ลูกในท้องจะเป็นลูกพวกเขาได้ยังไงกันคะ”

“ริศา เธออาจจะลืมเรื่องนี้ไปแล้ว เธอเชื่อปู่กับธนพัตเถอะนะ เด็กคนนี้เอาไว้ไม่ได้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นต่อไปเธอจะเสียใจ”

“หนูจะลืมได้ยังไงคะ” สาริศาคิดว่าตนเองยิ่งฟังคำพูดคุณปู่ก็ยิ่งไม่เข้าใจ ในหัวยุ่งเหยิงอย่างยิ่ง อะไรก็ไม่เข้าใจ

“คุณหมอบอกว่าเธออาจจะได้รับการกระทบกระเทือนทางจิตใจมากเกินไป ดังนั้นร่างกายจึงเลือกวิธีที่จะปกป้องตัวเองด้วยการเลือกที่จะลืมความทรงจำช่วงนั้นไป ดังนั้นเธอจึงลืมเรื่องที่ตนเองถูกข่มเหงไป”

นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย ตอนนี้สาริศารู้สึกคลุ้มคลั่งเล็กน้อย หลับตาลงสูดหายใจลึกๆสองครั้ง สาริศาจัดระเบียบความคิดตัวเองให้ดี

“คุณปู่ เรื่องวันนั้นหนูจำได้แม่น ตอนแรกสี่คนนั้นคิดจะข่มเหงหนู แต่สุดท้ายแล้วชัชวาลมาช่วยหนูไว้ได้ทัน ดังนั้นผู้ชายสี่คนนั้นไม่ได้ทำสำเร็จ ต่อมาชัชวาลก็ไปส่งหนูที่โรงพยาบาล หลังจากที่หนูฟื้นขึ้นมาก็เห็นธนพัต เรื่องก็เป็นแบบนี้ หนูไม่ได้ลืมอะไรนะคะ”

“ริศา เธออาจจะถูกการทำร้ายที่รุนแรงเกินไป จึงไม่ยอมจดจำเรื่องนี้ ดังนั้น จึงสร้างความทรงจำช่วงนี้ให้ตนเองในใจ นั่นเป็นเหตุผลที่คุณบอกกับตัวเองในเชิงจิตวิทยา และสร้างความทรงจำให้ตัวคุณเอง” เห็นชัดว่าท่านประเสริฐไม่เชื่อคำพูดของสาริศา

“หนูเปล่านะคะ!” สาริศาไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไร “คุณปู่ ทำไมคุณปู่ไม่เชื่อหนูล่ะคะ เรื่องวันนั้นหนูไม่ได้ลืม หนูไม่ได้ถูกผู้ชายสี่คนนั้นข่มขืนจริงๆ”

“แต่หลังจากที่คุณหมอตรวจดูร่างกายเธอแล้ว บอกว่าเธอถูกสี่คนนั้นข่มขืนแล้วจริงๆ ” ท่านประเสริฐเองก็ถูกคำพูดสาริศาทำเอางงไปเลย ตกลงว่าเกิดเรื่องอะไร

“ทำไมคุณหมอพูดอย่างนั้น” เวลานี้สาริศาเองก็ไม่เข้าใจ ขมวดคิ้วแน่นพลางเอ่ยถาม

ใช่ ท่านประเสริฐคิดในใจว่า ถ้าสาริศาไม่ได้ถูกข่มขืนจริง คุณหมอก็ไม่มีเหตุผลต้องโกหก

เมื่อคิดเช่นนี้แล้ว ท่านประเสริฐก็พูดด้วยความจริงใจว่า “ริศา คุณหมอไม่มีเหตุผลที่ต้องโกหก เธออาจจะลืมเรื่องนี้ไปแล้วจริงๆ เชื่อปู่นะ ไปโรงพยาบาลเอาเด็กคนนี้ออกได้มั้ย”

“คุณปู่คะ หนูไม่ได้ลืมจริงๆนะคะ คุณปู่เชื่อหนูได้มั้ยคะ เรื่องนี้หนูรู้ดีกว่าใคร” สาริศารู้สึกว่ายิ่งอธิบายยิ่งยุ่งเหยิงไปกันใหญ่

มิน่าเล่าช่วงนี้ธนพัตไม่ยอมแตะต้องตัวเองเลย เขาก็เหมือนกับคุณปู่ คิดว่าตนเองถูกขอทานสี่คนนั้นข่มขืนเหรอ

ต้องเป็นแบบนี้แน่นอน คุณปู่ไม่รู้รายละเอียดตอนที่ตนเองถูกจับตัวไป เรื่องพวกนี้ธนพัตต้องเป็นคนบอกแน่นอน

แต่ตอนนั้นธนพัตก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ รู้ได้อย่างไรว่าตนเองถูกข่มขืน แล้วก็ทำไมคุณหมอถึงได้บอกธนพัตอย่างนี้

ย้อนนึกถึงตอนที่เกิดเรื่องนี้อย่างละเอียด ตอนที่นึกถึงใครคนหนึ่ง ในที่สุดสาริศาก็เข้าใจเรื่องราวทั้งหมด พชิรา!

เธอยังจำได้ว่าตอนแรกธนพัตบอกตนว่า ชัชวาลกับพชิราเป็นคนช่วยเธอ ตอนนั้นเธอกลัวว่าธนพัตจะไม่เชื่อตนเอง จึงไม่ได้บอกธนพัตว่าพชิราเป็นคนจับตัวเธอไป

ตอนนี้มาคิดดูแล้ว ต้องเป็นพชิราที่วางแผนกับหมอไว้แล้ว ร่วมมือกันหลอกลวงธนพัต บอกเขาว่าตนเองถูกคนข่มขืน จุดประสงค์ก็คืออยากทำลายความสัมพันธ์ของตนเองกับธนพัตเช่นในตอนนี้

ในใจสาริศาตอนนี้เต็มไปด้วยความแค้นที่มีต่อพชิรา เธอหาคนมาจับตัวตนเอง คิดจะทำเรื่องแบบนั้นกับตนไม่เท่าไหร่ คิดไม่ถึงว่าที่พชิราช่วยเหลือตนเอง หลังจากแผนการลอบทำร้ายเธอล้มเหลว เธอกลับใส่ร้ายป้ายสีตนเองอย่างใจดำอำมหิต

ไม่ได้ ตนเองจะปล่อยให้ธนพัตเข้าใจผิดแบบนี้ต่อไปไม่ได้เด็ดขาด! เมื่อคิดเช่นนี้แล้ว สาริศาก็หมุนตัววิ่งออกไปจากห้องหนังสือของคุณปู่

ตอนนี้เธอต้องไปหาธนพัตเพื่อคุยเรื่องนี้ให้รู้เรื่อง เธอตั้งท้องลูกของเธอกับธนพัต เรื่องนี้ธนพัตต้องไม่เข้าใจผิด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ