สาริศาร้องไห้จนผล็อยหลับไป ตอนที่ตื่นขึ้นในวันรุ่งขึ้นก็พบว่าตอนเองนอนอยู่ในผ้าห่มอย่างดี คิดว่าน่าจะเป็นธนพัตเข้ามาช่วยห่มผ้าให้เธอ
แต่สาริศาไม่เห็นตัวธนพัต ทว่าแบบนี้ก็ดี ตอนนี้เธอไม่อยากเจอเขา
หลังจากล้างหน้าล้างตาเสร็จ สาริศาก็ลงมากินข้าวชั้นล่าง ตอนแรกคิดว่าธนพัตออกจากบ้านไปแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะเจอเขาที่โต๊ะอาหาร
สาริศายืนอยู่กับที่ คิดว่าจะหันหน้าแล้วเดินไปเลย หรือว่านั่งลงกินข้าวดี
“ริศา คุณตื่นแล้วเหรอ” ธนพัตเองก็สังเกตเห็นการมาถึงของสาริศา พูดกับเธอด้วยสีหน้าไม่เป็นธรรมชาติเท่าไหร่นัก “รีบมากินข้าวเถอะ”
ในเมื่อธนพัตเอ่ยปากแล้ว สาริศาได้แต่เดินไปที่โต๊ะอาหาร ไม่ได้นั่งข้างธนพัตหรือฝั่งตรงข้ามอย่างที่ผ่านมา สาริศาเลือกนั่งที่นั่งห่างออกไปจากธนพัตเล็กน้อย
ธนพัตเองก็รู้ว่าสาริศาโกรธตัวเองอยู่ เมื่อคืนตอนเขากลับมาที่ห้องนอน พบว่าสาริศาหลับไปแล้ว หลังจากช่วยจัดท่านอนเธอให้ดี ห่มผ้าให้เธอแล้ว ในตอนแรกธนพัตก็คิดจะนอนข้างๆเธอ แต่เมื่อนึกถึงว่าก่อนหน้านี้ทั้งสองคนทะเลาะกันธนพัตจึงหมุนตัวไปนอนที่ห้องรับแขก
ธนพัตนอนไม่หลับตลอดคืน มัวแต่คิดหาวิธีเกลี้ยกล่อมสาริศา แต่สุดท้ายก็คว้าน้ำเหลว
ถ้าสาริศาคิดว่าเธอตั้งท้องลูกของพวกเขา เช่นนั้นเขาจะเกลี้ยกล่อมเธอให้เอาเด็กออกอย่างไรกัน ครั้งแรกที่ธนพัตรู้สึกว่าตนเองโง่เขลา
ลังเลอยู่พักหนึ่งธนพัตมองสาริศาที่นั่งอยู่ห่างจากเขา ก้มหน้าก้มตากินข้าวพลางพูดว่า “ริศา เรื่องนั้นที่เราปรึกษากันเมื่อคืน ผม……”
ได้ยินว่าธนพัตยังพูดถึงเรื่องนั้น สาริศาจับตะเกียบในมือแน่น จนนิ้วมือขาวซีด เขาใจร้ายจะให้ตนเองเอาเด็กคนนี้ออกให้ได้เลยใช่มั้ย
ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ธนพัตพูดว่า“ริศา คุณก็เชื่อฟังที่ผมพูด อย่าดื้อรั้นได้มั้ย พวกเราเก็บเด็กคนนี้ไว้ไม่ได้จริง”
“ฉันดื้อรั้นหรอ!” สาริศาสะกดกลั้นความโกรธในใจไม่ไหวแล้ว ปลดปล่อยออกมาทันที “ธนพัต นี่เป็นลูกของพวกเราสองคนนะ ต่อให้ไม่ใช่ เขาก็เป็นชีวิตหนึ่ง ทำไมคุณถึงใจร้ายจะเอาเขาออก!ตอนนี้คุณยังหาว่าฉันดื้อรั้น!”
ได้ยินคำพูดของสาริศา จู่ๆธนพัตที่มีสีหน้าอ่อนโยนในตอนแรกก็เย็นเยือกลง “แม้ว่าคุณจะไม่ได้ตั้งท้องลูกของเรา คุณก็ยืนกรานว่าจะคลอดเขาให้ได้ใช่มั้ย”
“คุณหมายความว่าอะไร” สาริศาตกใจในคำพูดของธนพัต “ทำไมฉันจะไม่ได้ท้องลูกของพวกเราตกลงว่าคุณคิดจะพูดอะไรกันแน่!”
ธนพัตกลับนิ่งเงียบ เม้มริมฝีปากแน่นไม่พูดอะไร แผ่รังสีความเย็นเยือกไปทั่วทั้งร่าง
สาริศาคิดว่าธนพัตพูดด้วยความโมโห จึงไม่ได้คิดอะไรมาก “ธนพัต ฉันจะบอกคุณนะ นี่คือลูกของฉัน ฉันจะไม่มีทางยอมให้ใครทำร้ายเขาเด็ดขาด”
ธนพัตไม่ได้เอ่ยปากตอบโต้อะไรสาริศา ห้องอาหารตกอยู่ในความเงียบงันไปชั่วขณะ ความโกรธเคืองไหลเวียนอยู่ระหว่างคนสองคน ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมถอย
“เด็กคนนี้จำเป็นต้องเอาออก” หลังจากนั้นพักใหญ่ ธนพัตก็พูดประโยคนี้ออกมา จากนั้นก็ลุกขึ้นเดินออกจากห้องอาหาร พร้อมหยิบกระเป๋าเอกสารเดินไปทางประตู
ทะเลาะกันแบบนี้ต่อไปไม่ใช่เรื่องดีแน่ กลัวว่าสาริศาจะไม่ยอมฟังตัวเอง ไปโรงพยาบาลเพื่อเอาเด็กออก หรือว่ารอให้ทั้งสองคนใจเย็นลงก่อน เขาต้องคิดหาวิธีอื่นถึงจะได้
“เพล้ง!” สาริศาปัดชามตรงหน้าลงบนพื้นอย่างแรง น้ำตาไหลนองหน้าทันที
พอนึกถึงคำพูดสุดท้ายของธนพัต สาริศาก็รู้สึกเจ็บปวดใจ เพื่อกำจัดอุปสรรคที่ขวางกั้นการเริ่มต้นใหม่ของเขากับพชิรา ธนพัตถึงขั้นใจร้ายทำลายลูกตัวเองได้ลงคอเลยเหรอ
หลังจากปลดปล่อยความโกรธของตนเองแล้ว สาริศาก็ค่อยๆนั่งลงอย่างใจเย็น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...