หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 309

สรุปบท บทที่ 309 รองเท้าส้นสูงที่หน้าประตู: หวานเย็น กรุ่นใจ

บทที่ 309 รองเท้าส้นสูงที่หน้าประตู – ตอนที่ต้องอ่านของ หวานเย็น กรุ่นใจ

ตอนนี้ของ หวานเย็น กรุ่นใจ โดย ช็อคโกแลต ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 309 รองเท้าส้นสูงที่หน้าประตู จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

“อะไรนะ!” สาริศาเมื่อได้ยินคำพูดจากคุณหมอก็เหมือนถูกอัสนีฟาดอย่างไรอย่างนั้น ธนพัตไม่ใช่นัดการตรวจครรภ์ให้กับตัวเองเหรอ ทำไมถึงให้คุณหมอมาทำแท้งลูกคนนี้ล่ะ”

ความคิดเปลี่ยนกะทันหัน สาริศานึกอะไรบางอย่างได้ ฉับพลันเหมือนร่างกายจะพังทลาย ที่แท้ธนพัตหลอกตัวเองมาโดยตลอด เขาไม่ได้ยอมรับลูกคนนี้เลย อีกทั้งยังแอบจะทำแท้งลูกคนนี้ไม่ให้เธอรู้!

ใช้แรงดิ้นหลุดจากการถูกพันธนาการจากพยาบาลเหล่านั้น แล้วสาริศาก็โดดลงจากเตียง วิ่งเท้าเปล่าออกมาจากห้องผ่าตัด น้ำตารินไหล สาริศารู้สึกผิดหวังในใจอย่างมาก ธนพัตทำไมถึงทำแบบนี้กับตัวเอง เธอไม่เชื่อและต้องการจะไปถามธนพัตให้กระจ่างชัดเจน!

หลังจากที่วิ่งออกมาจากโรงพยาบาล สาริศาก็เห็นชรัณที่รออยู่หน้ารถที่จอดอยู่หน้าประตู ไม่คำนึงถึงสภาพของตัวเองในตอนนี้ สาริศาพุ่งไปด้านหน้าดึงชรัณแล้วกล่าวถาม “ชรัณ นายรีบบอกฉันมาว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ธนพัตต้องการเอาเด็กออกจริง ๆ เหรอ”

เมื่อสักครู่ที่เห็นสาริศาวิ่งออกมาจากโรงพยาบาลนั้น สีหน้าของชรัณก็ตกใจ ตอนนี้ได้ยินสาริศาถามตัวเองแบบนี้ ก็ยิ่งไม่กล้าที่จะสบตากับสาริศาอีก หรี่ตาลงด้วยความรู้สึกผิด และก็รู้สึกจนปัญญา

“ครับ” หลังจากนั้นไม่นาน ชรัณก็ก้มหน้าแล้วเปล่งเสียงตอบออกมา

เมื่อได้ยินคำพูดของชรัณ สาริศารู้สึกว่ากำลังทั้งหมดในร่างกายของเธอนั้นดูเหมือนจะถูกดูดไปหมด ปล่อยมือลงจากการดึงตัวของชรัณไว้ ใบหน้าของเธอเขียนเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

“ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทำไมเขาต้องหลอกฉัน” สาริศาน้ำตาไหลรินบ่นพึมพำ “เป็นไม่ได้ ฉันไม่เชื่อ……”

ถึงแม้ปากจะบอกว่าไม่อยากเชื่อ แต่ว่าในใจนั้นกลับเชื่อในคำพูดของชรัณไปหมดแล้ว ชรัณคือคนที่ธนพัตเชื่อใจมากที่สุด ในเมื่อเขาบอกว่าใช่ อย่างนั้นก็เป็นความหมายของธนพัตอย่างแน่นอน

ที่แท้ความอ่อนโยนและความห่วงใยของธนพัตที่มีต่อตัวเองในหลายวันที่ผ่านมา ความจริงแล้วความต้องการของเขาก็คือเรื่องนี้ สาริศารู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเหมือนกับถูกบางสิ่งบดก็ไม่ปาน เจ็บปวดทรมานสุด ๆ

น้ำตาหลั่งรินไม่หยุด สาริศาไม่เข้าใจว่าทำไมธนพัตถึงต้องทำเรื่องอย่างไร้ความปรานีเช่นนี้ หากว่าเขาไม่สามารถยอมรับเด็กคนนี้ได้ สามารถบอกกับเธอได้ หากไม่ไหวจริง ๆ พวกเขาก็หย่ากัน ทำไมถึงต้องหลอกตัวเองด้วย

“ไปจับเธอกลับมา เร็ว!” ขณะที่สาริศากำลังเสียใจอยู่นั้น ฉับพลันก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบร้อนดังมาจากด้านหลัง ที่ดูเหมือนจะวิ่งมาทางเธอ

หันหลังกลับไปมอง สาริศาเห็นคนเหล่านั้นที่อยู่ในห้องผ่าตัดในโรงพยาบาลวิ่งตามออกมา

“ชรัณ เร็ว……” ภายใต้ความลนลาน สาริศารีบคว้ามือของชรัณ ต้องการให้เขารีบพาตัวเองออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด

แต่ว่าสาริศาก็นึกขึ้นทันใดว่าธนพัตเป็นคนให้ชรัณพาตัวเองมาที่โรงพยาบาล อย่างนั้นชรัณจะต้องไม่มีทางช่วยพาตัวเองหนีอย่างแน่นอน ไม่แน่บางทีอาจจะยังช่วยคนเหล่านั้นพาตัวเองกลับไปยังเตียงผ่าตัด

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ สาริศาก็รีบปล่อยมือจากการคว้าชรัณไว้แล้วถอยหลังสองก้าวอย่างลนลาน จากนั้นก็หันหลังวิ่งออกไปยังถนน ตัวเองจะต้องไม่ถูกจับโดยพวกเขา ใครก็อย่ามาคิดทำร้ายลูกในท้องของเธอ!

มองดูแผ่นหลังการวิ่งหนีไปของสาริศา ชรัณกำมือตัวเองไว้แน่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด “ขอโทษด้วย คุณนายน้อย ผมต้องขอโทษด้วย ขอโทษ……”

ในขณะที่ชรัณรำพึงรำพันคำขอโทษอยู่นั้น โทรศัพท์ในกระเป๋าของเขาฉับพลันก็ดั่งสั่นขึ้น หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วดูสายเรียกเข้าแล้ว สีหน้าของชรัณประกายความเคียดแค้น

“เป็นไงบ้าง จัดการเรื่องไปถึงไหนแล้ว” เสียงหญิงสาวที่สบาย ๆ ลอยดังจากปลายสาย

“เรื่องที่คุณให้ผมจัดการ ผมได้จัดการเรียบร้อยแล้ว คุณรีบปล่อยพ่อแม่ผมเดี๋ยวนี้!” ชรัณตะคอกใส่โทรศัพท์ด้วยความโกรธ

คนปลายสายยิ้มแล้วกล่าวเบา ๆ “นายวางใจ ขอเพียงเชื่อฟังแล้วทำตามคำสั่งฉัน ฉันรับรองว่าคุณพ่อคุณแม่ของคุณจะต้องปลอดภัยอย่างแน่นอน”

“ทางที่ดีคุณควรคำไหนคำนั้น!”

หลังจากสงบความโกรธได้แล้ว สาริศาหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าตัวเองต้องการที่จะโทรหาธนพัต เธอต้องการอยากถามให้กระจ่าง ว่าทำไมธนพัตถึงได้ทำเช่นนี้!

หลังจากที่โทรศัพท์แล้ว ดวงตาของสาริศาก็เต็มไปด้วยเปลวเพลิงแห่งความโกรธ ในใจคิดคำพูดที่จะตำหนิติด่าธนพัตในอีกสักครู่ ครั้งนี้เขานั้นได้ทำเกินไปจริง ๆ ตัวเองไม่มีทางให้อภัยเขาได้อย่างแน่นอน

แต่ว่าโทรศัพท์ของธนพัตเมื่อโทรติดแล้ว นานสองนานกลับไม่มีคนรับสาย วางสายลง จากนั้นสาริศาก็ทำการโทรอีกครั้ง แต่ผลก็ยังเหมือนเดิม

เขาตอนนี้ไม่กล้ารับสายของตัวเองเหรอ สาริศาโยนโทรศัพท์ทิ้งด้วยความอารมณ์หุนหัน ครุ่นคิดในใจ ก็จริง ชรัณจะต้องรายงานเรื่องที่ตัวเองวิ่งหนีออกมาได้ให้กับเขาแล้ว เขาตอนนี้คงกำลังหลบตัวเองอยู่

ยืนสงบอารมณ์โกรธของตัวเองอยู่ข้างถนน สาริศาก็ยื่นมือมาโบกรถหนึ่งคัน จากนั้นบอกที่อยู่ให้กับคนขับรถ

อย่างไรเสียเขาก็จะต้องกลับมาบ้าน ตัวเองจะรอเขากลับมาที่บ้าน ครั้งนี้เธอจะต้องคุยกับธนพัตให้รู้เรื่อง ถ้าหากว่ายอมรับเด็กคนนี้ไม่ได้ อย่างนั้นพวกเขาก็จะหย่ากันทันที เขาจะได้ไม่ต้องใช้วิธีต่ำ ๆ เช่นนี้กับเธออีก!

เมื่อมาถึงบ้าน สาริศาก็ไม่มีกะจิตกะใจไปสนใจเท้าที่ได้รับบาดเจ็บจากการวิ่งเมื่อสักครู่ แล้วรีบวิ่งไปยังบ้านของตัวเอง ไม่แน่บางทีธนพัตอาจจะอยู่ในบ้าน ตัวเองต้องการจะเผชิญหน้ากับเขา!

แต่นึกไม่ถึงว่าเมื่อเปิดประตูบ้านนั้น สาริศากลับเห็นรองเท้าส้นสูงคู่หนึ่งที่หน้าประตู อีกทั้งยังคุ้นตามาก

ครุ่นคิดครู่หนึ่ง ในที่สุดสาริศาก็นึกออกได้ ว่าเธอเคยเห็นพชิราใส่รองเท้าคู่นี้มาก่อน

หรือว่าพชิรานั้นจะอยู่ในบ้านของตัวเอง เธอมาที่นี่ทำไม!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ