“อะไรนะ!” สาริศาเมื่อได้ยินคำพูดจากคุณหมอก็เหมือนถูกอัสนีฟาดอย่างไรอย่างนั้น ธนพัตไม่ใช่นัดการตรวจครรภ์ให้กับตัวเองเหรอ ทำไมถึงให้คุณหมอมาทำแท้งลูกคนนี้ล่ะ”
ความคิดเปลี่ยนกะทันหัน สาริศานึกอะไรบางอย่างได้ ฉับพลันเหมือนร่างกายจะพังทลาย ที่แท้ธนพัตหลอกตัวเองมาโดยตลอด เขาไม่ได้ยอมรับลูกคนนี้เลย อีกทั้งยังแอบจะทำแท้งลูกคนนี้ไม่ให้เธอรู้!
ใช้แรงดิ้นหลุดจากการถูกพันธนาการจากพยาบาลเหล่านั้น แล้วสาริศาก็โดดลงจากเตียง วิ่งเท้าเปล่าออกมาจากห้องผ่าตัด น้ำตารินไหล สาริศารู้สึกผิดหวังในใจอย่างมาก ธนพัตทำไมถึงทำแบบนี้กับตัวเอง เธอไม่เชื่อและต้องการจะไปถามธนพัตให้กระจ่างชัดเจน!
หลังจากที่วิ่งออกมาจากโรงพยาบาล สาริศาก็เห็นชรัณที่รออยู่หน้ารถที่จอดอยู่หน้าประตู ไม่คำนึงถึงสภาพของตัวเองในตอนนี้ สาริศาพุ่งไปด้านหน้าดึงชรัณแล้วกล่าวถาม “ชรัณ นายรีบบอกฉันมาว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ธนพัตต้องการเอาเด็กออกจริง ๆ เหรอ”
เมื่อสักครู่ที่เห็นสาริศาวิ่งออกมาจากโรงพยาบาลนั้น สีหน้าของชรัณก็ตกใจ ตอนนี้ได้ยินสาริศาถามตัวเองแบบนี้ ก็ยิ่งไม่กล้าที่จะสบตากับสาริศาอีก หรี่ตาลงด้วยความรู้สึกผิด และก็รู้สึกจนปัญญา
“ครับ” หลังจากนั้นไม่นาน ชรัณก็ก้มหน้าแล้วเปล่งเสียงตอบออกมา
เมื่อได้ยินคำพูดของชรัณ สาริศารู้สึกว่ากำลังทั้งหมดในร่างกายของเธอนั้นดูเหมือนจะถูกดูดไปหมด ปล่อยมือลงจากการดึงตัวของชรัณไว้ ใบหน้าของเธอเขียนเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทำไมเขาต้องหลอกฉัน” สาริศาน้ำตาไหลรินบ่นพึมพำ “เป็นไม่ได้ ฉันไม่เชื่อ……”
ถึงแม้ปากจะบอกว่าไม่อยากเชื่อ แต่ว่าในใจนั้นกลับเชื่อในคำพูดของชรัณไปหมดแล้ว ชรัณคือคนที่ธนพัตเชื่อใจมากที่สุด ในเมื่อเขาบอกว่าใช่ อย่างนั้นก็เป็นความหมายของธนพัตอย่างแน่นอน
ที่แท้ความอ่อนโยนและความห่วงใยของธนพัตที่มีต่อตัวเองในหลายวันที่ผ่านมา ความจริงแล้วความต้องการของเขาก็คือเรื่องนี้ สาริศารู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเหมือนกับถูกบางสิ่งบดก็ไม่ปาน เจ็บปวดทรมานสุด ๆ
น้ำตาหลั่งรินไม่หยุด สาริศาไม่เข้าใจว่าทำไมธนพัตถึงต้องทำเรื่องอย่างไร้ความปรานีเช่นนี้ หากว่าเขาไม่สามารถยอมรับเด็กคนนี้ได้ สามารถบอกกับเธอได้ หากไม่ไหวจริง ๆ พวกเขาก็หย่ากัน ทำไมถึงต้องหลอกตัวเองด้วย
“ไปจับเธอกลับมา เร็ว!” ขณะที่สาริศากำลังเสียใจอยู่นั้น ฉับพลันก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบร้อนดังมาจากด้านหลัง ที่ดูเหมือนจะวิ่งมาทางเธอ
หันหลังกลับไปมอง สาริศาเห็นคนเหล่านั้นที่อยู่ในห้องผ่าตัดในโรงพยาบาลวิ่งตามออกมา
“ชรัณ เร็ว……” ภายใต้ความลนลาน สาริศารีบคว้ามือของชรัณ ต้องการให้เขารีบพาตัวเองออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
แต่ว่าสาริศาก็นึกขึ้นทันใดว่าธนพัตเป็นคนให้ชรัณพาตัวเองมาที่โรงพยาบาล อย่างนั้นชรัณจะต้องไม่มีทางช่วยพาตัวเองหนีอย่างแน่นอน ไม่แน่บางทีอาจจะยังช่วยคนเหล่านั้นพาตัวเองกลับไปยังเตียงผ่าตัด
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ สาริศาก็รีบปล่อยมือจากการคว้าชรัณไว้แล้วถอยหลังสองก้าวอย่างลนลาน จากนั้นก็หันหลังวิ่งออกไปยังถนน ตัวเองจะต้องไม่ถูกจับโดยพวกเขา ใครก็อย่ามาคิดทำร้ายลูกในท้องของเธอ!
มองดูแผ่นหลังการวิ่งหนีไปของสาริศา ชรัณกำมือตัวเองไว้แน่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด “ขอโทษด้วย คุณนายน้อย ผมต้องขอโทษด้วย ขอโทษ……”
ในขณะที่ชรัณรำพึงรำพันคำขอโทษอยู่นั้น โทรศัพท์ในกระเป๋าของเขาฉับพลันก็ดั่งสั่นขึ้น หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วดูสายเรียกเข้าแล้ว สีหน้าของชรัณประกายความเคียดแค้น
“เป็นไงบ้าง จัดการเรื่องไปถึงไหนแล้ว” เสียงหญิงสาวที่สบาย ๆ ลอยดังจากปลายสาย
“เรื่องที่คุณให้ผมจัดการ ผมได้จัดการเรียบร้อยแล้ว คุณรีบปล่อยพ่อแม่ผมเดี๋ยวนี้!” ชรัณตะคอกใส่โทรศัพท์ด้วยความโกรธ
คนปลายสายยิ้มแล้วกล่าวเบา ๆ “นายวางใจ ขอเพียงเชื่อฟังแล้วทำตามคำสั่งฉัน ฉันรับรองว่าคุณพ่อคุณแม่ของคุณจะต้องปลอดภัยอย่างแน่นอน”
“ทางที่ดีคุณควรคำไหนคำนั้น!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...