หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 325

พอได้ยินคำถามของธีร์ สาริศาก็รู้สึกหวาดวิตกเล็กน้อย หรือว่าลูกชายของเธอจะสังเกตเห็นบางอย่างแล้ว?

ไม่ มันเป็นไปไม่ได้ สาริศาปลอบใจตัวเองในใจ ไม่ว่าธีร์จะเป็นเด็กฉลาดแค่ไหน เขาก็เป็นแค่เด็กอายุห้าขวบ เธอกับชัชวาลไม่เคยบอกเขาเรื่องธนพัต แค่บอกเขาว่าพ่อของเขาตายไปก่อนที่เขาจะเกิดแล้ว ดังนั้นเขาไม่มีทางคิดมากแน่นอน

สาริศาบังคับตัวเองให้ยิ้มบางออกมา แล้วพูดเกลี้ยกล่อมธีร์ว่า “ธีร์ ลูกตัวเล็กขนาดนี้ แต่เขาตัวใหญ่ขนาดนั้น ลูกคิดว่าเขาเหมือนลูกตรงไหน”

ที่จริงแล้วธีร์ไม่เหมือนธนพัตจริงๆ แต่หน้าตาเหมือนเธอมากกว่า แต่มีบางครั้งท่าทางที่เขาแสดงออกมาจะทำให้สาริศานึกถึงธนพัตขึ้นมา ก่อนจะถอนหายใจเพราะยังไงทั้งสองก็เป็นพ่อลูกกัน

“ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันครับ” น้ำเสียงของเด็กน้อยค่อนข้างสับสน “ผมแค่รู้สึกว่าเขาเหมือนผมมาก เหมือนเคยเจอเขาที่ไหนสักแห่ง แต่ผมจำไม่ได้”

ธีร์เกาศีรษะพยายามนึกเรื่องของธนพัตให้ออก แต่เห็นได้ชัดว่ามันไม่มีทางนึกออกได้

รู้สึกอย่างนั้นเหรอ? พอได้ยินคำพูดของลูกชาย สาริศาก็ทั้งรู้สึกขบขันและหวาดหวั่นในเวลาเดียวกัน นี่เป็นครั้งแรกที่ธีร์ได้เห็นธนพัต อีกทั้งยังเห็นผ่านโทรทัศน์ แต่เขากลับมีความรู้สึกแบบนี้ ถ้าได้เจอคนจริงๆ ถ้าอย่างนั้น... ถ้าในอนาคตธนพัตเห็นธีร์ เขาจะรู้สึกแบบเดียวกันไหม?

พอนึกได้แบบนี้ สาริศาก็จับมือธีร์ไว้แน่น ความรู้สึกหวาดกลัวอย่างอธิบายไม่ถูกก็ปรากฏขึ้นในใจของเธอ ไม่มีทาง ธีร์เป็นของเธอเพียงคนเดียว!

“แม่ครับ ผมเจ็บ” ธีร์ขมวดคิ้วและพยายามสะบัดมือออกจากมือของสาริศา

“หะ?” สาริศารีบปล่อยมือที่จับธีร์ไว้แน่นหลังจากได้สติกลับมา “ธีร์แม่ขอโทษ ขอโทษนะลูก แม่ใช้แรงมากไปใช่ไหมจ๊ะ เดี๋ยวแม่เป่าให้นะลูก” เธอพูด สาริศารีบนั่งยองๆ แล้วช่วยเป่ามือให้ธีร์ด้วยสีหน้าสงสาร

ธีร์แอบกลอกตามองบน คุณแม่นี่ล่ะก็ เขาอายุเท่าไหร่แล้ว ทำไมถึงยังทำเหมือนเขาเป็นเด็กไปได้

“แม่ครับ แม่คิดว่าคุณลุงคนนั้นเหมือนผมมากไหมครับ” ธีร์ถามสาริศาต่อ

“อย่างนั้นเหรอ?” สีหน้าของสาริศาเริ่มเคร่งขรึม “แม่ไม่คิดว่าลูกเหมือนเขานะ”

เธอลูบมือเล็กที่นุ่มนิ่มของธีร์เบาๆ สาริศาลุกขึ้นยืนแล้วจูงมือเขาออกไป “เอาล่ะธีร์ คุณลุงยังรอเราอยู่ที่บ้าน ลูกไม่ได้บอกว่าลูกคิดถึงคุณลุงเหรอจ๊ะ? พวกเรารีบกลับบ้านกันดีไหม?”

“โอเคครับ!” พอพูดถึงคุณลุง ธีร์ก็ลืมคำถามที่เขาสงสัยไปทันที เขาวิ่งไปข้างหน้าอย่างอารมณ์ดี “แม่ครับ เร็วเข้า! พวกเราไปหาคุณลุงกันเถอะครับ!”

“ได้จ้ะ” พอเห็นลูกชายอารมณ์ดี อารมณ์ของสาริศาก็ดีขึ้นเช่นกัน “อย่าวิ่งเร็วสิลูก ระวังรถ”

ไม่นาน หนึ่งผู้ใหญ่หนึ่งเด็กก็เดินทางมาถึงตระกูลนิธิธราสกุล

“คุณลุงครับ!” ทันทีที่เห็นชัชวาล ธีร์ก็ปล่อยมือออกจากมือของสาริศา แล้ววิ่งไปหาชัชวาลด้วยขาที่แสนสั้นทั้งสองข้างของเขา

หลังจากที่ชัชวาลชะงักไปเล็กน้อย เขาก็ย่อตัวลง พร้อมกับกางแขนออกเพื่อรอให้เจ้าตัวเล็กกระโจนเข้าใส่ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเอ็นดูและคิดถึง

เด็กน้อยกระโจนเข้าใส่ชัชวาล ศีรษะของเด็กน้อยถูไถอยู่ที่หน้าอกของชัชวาล ในดวงตาของเขามีน้ำตาคลอ “ผมคิดถึงคุณลุงจังเลยครับ”

ตั้งแต่เล็กจนโตนอกจากแม่ของเขาแล้ว ก็มีแต่คุณลุงของเขาที่รักเขามากที่สุด นี่เป็นครั้งแรกที่เขาต้องพลัดพรากจากคุณลุงเป็นเวลานานแบบนี้ ก็ต้องคิดถึงเขามากเป็นธรรมดา

พอได้ยินเจ้าตัวเล็กในอ้อมกอดบอกเล่าถึงความคิดถึงของเขา ของเขาชัชวาลก็อดรู้สึกสงสารไม่ได้ “ลุงก็คิดถึงหลานเหมือนกัน เป็นยังไงบ้าง หลายวันนี้เชื่อฟังคำพูดของแม่หรือเปล่า?”

หลังจากได้ยินคำถามของชัชวาล ธีร์ที่กำลังอารมณ์ดีอยู่ก็อดที่จะขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้ ทำไมถึงชอบทำเหมือนเขาเหมือนเด็กไปได้ เขาโตแล้วนะ เป็นผู้ใหญ่ในร่างเด็กแล้วนะ?

หลังจากบ่นอุบอิบในใจเล็กน้อย ธีร์ก็เงยหน้าขึ้นจากอ้อมแขนของชัชวาล แล้วมองดูการตกแต่งภายในห้องอย่างอยากรู้อยากเห็น “คุณลุงครับ นี่คือบ้านอีกหลังของเราเหรอครับ?”

“ใช่ครับ” ชัชวาลลูบศีรษะธีร์ “ชอบไหม เดี๋ยวลุงให้คนพาหลานไปที่ห้องดีไหมครับ ถ้ามีตรงไหนไม่ชอบ ลุงจะเปลี่ยนใหม่ให้ธีร์หลานรักทันที”

“ได้ครับ!” ธีร์กระโดดออกจากอ้อมแขนของชัชวาลทันที “คุณลุงครับ ห้องของผมอยู่ที่ไหนเหรอครับ!” ต้องเข้าใจว่าห้องนอนเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเขา เขาให้ความสำคัญกับมันมากนะจะบอกให้

พอเห็นว่าเด็กน้อยที่แอบร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของเขา ตอนนี้กลับมีท่าทางตื่นเต้นและตั้งตารอ ชัชวาลตึงส่ายหน้าอย่างเอ็นดู ยังไงก็เป็นเด็กอยู่ดี

ชัชวาลสั่งให้คนใช้ที่อยู่ข้างๆ พาธีร์ขึ้นไปดูห้องของเขา ก่อนจะสั่งการซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้ดูแลธีร์ให้ดี

“พี่เอาใจเขามากเกินไปแล้วนะคะ” พอเห็นคนใช้พาธีร์ออกไปแล้ว สาริศาก็หันหน้ามามองชัชวาลอย่างจนใจ

“วางใจได้ พี่รู้ความพอดี ไม่เอาใจจนลูกชายสุดที่รักของน้องนิสัยเสียแน่นอน” ชัชวาลรับกระเป๋าของสาริศามาแขวนไว้บนไม้แขวนข้างๆ แล้วพูดติดตลก

สาริศาส่ายหน้าไปมาอย่างจนใจ ก่อนจะนั่งลงบนโซฟา ชัชวาลจึงนั่งลงตรงข้ามเธอ

“จะกลับมาทำไมไม่บอกพี่ก่อน พี่จะได้ไปรับน้องที่สนามบิน พี่นึกว่าอีกหลายวันกว่าน้องจะเดินทางกลับมา”

“เดิมทีฉันก็ตั้งใจว่ารออีกสองวันค่อยเดินทางค่ะ แต่ว่า ธีร์เอาแต่ร้องหาคุณลุงของเขา ฉันก็เลยต้องเดินทางกลับมาก่อน” สาริศาพูดด้วยรอยยิ้ม “ที่ไม่ได้บอกพี่เพราะกลัวว่าพี่จะกำลังยุ่ง รบกวนพี่ทำงานคงไม่ดี”

“ไม่ว่าพี่จะงานยุ่งแค่ไหนแต่คงไม่ถึงกับไม่มีเวลาแม้แต่จะไปรับน้องสาวกับหลานชายของพี่หรอกนะ” ชัชวาลเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย “น้องคิดว่าพี่เป็นพี่ชายของน้องจริงๆ ไหม”

“โอเคค่ะ ยอมแล้ว” สาริศารีบยกมือยอมแพ้และยิ้มออกมา หลายปีผ่านไป เธอกลัวคำพูดนี้ของชัชวาลที่สุด “พี่คะ เราเป็นครอบครัวเดียวกันไม่จำเป็นต้องเกรงใจกันแบบนี้นะคะ แล้วอีกอย่าง ฉันกับธีร์ก็เดินทางมาถึงอย่างปลอดภัยแล้วนี่คะ พอมาถึงพี่คงไม่อยากให้ฉันเห็นพี่หน้าบึ้งแบบนี้หรอกใช่ไหมคะ”

สุดท้ายสีหน้าของชัชวาลก็ผ่อนคลายลง ก่อนที่จะมีรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา ในช่วงสองปีมานี้น้องสาวของเขาคนนี้นับวันก็ยิ่งรู้วิธีการออดอ้อนเขาแล้ว ในเมื่อเธอพูดถึงขนาดนั้นแล้ว ตนเองตะโกรธเธอลงได้ยังไง

แต่ว่า พอมองไปทางสาริศาที่กำลังยิ้มอย่างมีความสุข ในดวงตาของเขาก็ปรากฏความกังวลออกมา นี่เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้วจริงๆ เหรอ?

“พี่คะ มีอะไรหรือเปล่าคะ?” สาริศาไม่รู้ว่าทำไมชัชวาลถึงมองเธอด้วยสายตาแบบนี้

ชัชวาลสีหน้าเคร่งเครียด “หลังจากกลับมาที่นี่รู้สึกยังไงบ้าง ถ้าน้องไม่อยากอยู่ที่นี่จริงๆ พี่จะจัดคนส่งพวกน้องกลับไปก่อน”

“ไม่เป็นไรค่ะ” สาริศายิ้มสบายใจ จากนั้นก็มองหน้าชัชวาลแล้วพูดอย่างจริงจัง “พี่คะ ในตอนนั้นฉันไม่ได้ทำอะไรผิด ดังนั้นกลับมาจึงไม่มีอะไรที่ฉันไม่กล้าเผชิญหน้า อีกอย่าง ฉันไม่อยากหนีไปเหมือนเมื่อห้าปีก่อน ครั้งนี้ ฉันจะต้องเผชิญหน้ากับปัญหาทั้งหมดให้ได้”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ