พชิราถูกถามจนอึ้งไปเลย “ริศา เธอพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง ทำไมฉันถึงไม่ค่อยเข้าใจเลย?”
“ฉันจำได้ว่าเมื่อ 5 ปีก่อนฉันเคยบอกเธอนะ ว่าแม่แท้ๆ ของเธอกันยาเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ต้องการไขกระดูกของเธออย่างเร่งด่วนเพื่อช่วยชีวิต แต่ว่าหลายปีมานี้เธอไม่เคยไปเยี่ยมแม่เลยเหรอ?”
สาริศาโกรธมาก ที่แท้พชิราก็ไม่สนใจกันยาจนถึงขั้นนี้เลย ช่างทำให้คนโกรธจนหัวร้อนไปหมด!
“ฉันเคยไปเยี่ยมเธอ ฉัน……”พชิราพยายามหาเหตุผลมาอธิบายเรื่องนี้ แต่เธอก็คิดไม่ออก ได้แต่พึมพำ สีหน้าก็ดูแย่ขึ้น
เพราะว่ากันยาอีกแล้ว ครั้งที่แล้วก็เป็นเพราะว่ายัยผู้หญิงแก่คนนี้ ทำให้เธอต้องสูญเสียฐานะคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลนิธิธราสกุลไป แถมครั้งนี้ยังจะมาขัดขวางแผนการของเธออีก มันเป็นเรื่องที่แม่แท้ๆ ควรจะทำที่ไหนกัน เธอเป็นศัตรูตัวของพชิราสิถึงจะถูก!
พอนึกถึงภาพกันยาที่ยิ้มและพยายามจะเอาใจตัวเอง พชิราก็รู้สึกรังเกียจ เธอไม่มีทางมีแม่แบบนี้หรอก แม่ของเธอต้องเป็นคนที่สง่างาม สูงส่ง และสวย ไม่ใช่คนรับใช้ที่เป็นแม่บ้านของคนอื่นไปทั่ว!
เธอจะมีแม่ที่ยากจนแบบนี้ได้ยังไงกัน มันมีแต่จะทำให้เธอขายหน้าเท่านั้น ลองนึกถึงภาพคุณหญิงคุณนายในสังคมชั้นสูงชี้มาที่ตัวเองสิ และคนอื่นก็จะเรียกเธอว่าลูกคนใช้ลับหลัง แค่นี้เธอก็รู้สึกเหมือนตัวเองจะเป็นบ้า ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการที่ต้องเผชิญมันกับตัวเลย!
หลายปีมานี้ ความจริงตอนแรกก็ไม่ใช่ว่ากันยาไม่เคยมาหาเธอ แต่ทุกครั้งพชิราจะรู้สึกหงุดหงิด รู้สึกว่าเธอเป็นจุดด่างพร้อยของตัวเอง แทบทนไม่ไหวที่จะให้เธอตายไปซะ หายไปจากโลกใบนี้ ถ้าเป็นแบบนั้นเธอจะได้ไม่ต้องกังวลว่าตัวตนที่แท้จริงจะถูกเปิดเผยตลอดเวลาแบบนี้!
แน่นอนว่าเธอไม่ช่วยกันยาหรอก แทบไม่ต้องคิดเลยด้วยซ้ำ! ถ้าเกิดว่าไม่ใช่เธอ ตัวเองคงไม่ต้องลดฐานะจากคุณหนูใหญ่ของตระกูลนิธิธราสกุลจนกลายมาเป็นคนที่ต้องอาศัยอยู่กับคนอื่นหรอก!
ทั้งหมดเป็นเพราะความผิดของยัยผู้หญิงแก่คนนั้น!
พอเห็นพชิราดูอึดอัดพูดอะไรไม่ออก สาริศาก็ถามออกมาต่อว่า “สรุปแล้วเธอจะยอมบริจาคไขกระดูกให้แม่หรือเปล่า? อาการของเธอตอนนี้รอไม่ไหวแล้วนะ”
ยัยผู้หญิงชั้นต่ำ เรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับเธอด้วย!ทั้งๆ ที่ยัยหญิงชราที่ยากจนและค่ำคืนนั้นคือแม่ของเธอ !แล้วทำไมต้องมาถามฉัน
พชิราด่าสาริศาอย่างรุนแรงในใจ แล้วก็หากเหตุผลเพื่อกลบเกลื่อนเรื่องนี้ไป
ตอนนี้เธอไม่สามารถฉีกหน้าตัวเองกับสาริศาได้ ต้องได้รับความเชื่อใจจากเธอก่อนถึงจะถูก แบบนี้จะได้มีประโยชน์ต่อแผนการของเธอ พอสาริศาตกมาอยู่ในกำมือของตัวเองเมื่อไหร่ จะดูซิว่าจะกล้าพูดกับเธออย่างเย่อหยิ่งแบบนี้อีกต่อไปหรือเปล่า
เธอทำท่าทางเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม พร้อมกับพูดด้วยดวงตาที่เปียกปอนว่า “ริศา ฉันก็อยากจะบริจาคไขกระดูกให้เธอเหมือนกันนะ ถึงแม้ว่าเธอกับฉันจะไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกัน แต่ถึงยังไงก็เป็นชีวิตหนึ่งชีวิต แต่ว่า……
พชิรามองไปที่ขาของตัวเองอย่างยากลำบาก “แต่ว่าตอนนี้ร่างกายของฉันไม่ค่อยดี ต่อให้อยากช่วยมากเท่าไหร่ก็ทำไม่ได้ หลายปีมานี้ฉันก็เอาแต่ตามหาคนที่มีไขกระดูกที่เหมาะสม ถ้าเกิดว่าได้ข่าวคราวเมื่อไหร่ฉันจะรีบจัดการผ่าตัดให้เลย”
“ร่างกายไม่ค่อยดีงั้นเหรอ?”สาริศามองพชิราด้วยสายตาสงสัย ไม่รู้ว่าสรุปแล้วเธอพูดความจริงหรือไม่จริง
“ฉันรู้จักหมอที่มีประสบการณ์ในการจับคู่ไขกระดูกมาก ให้ขอลองตรวจดูไหมว่ามีปัญหาอะไรกันแน่? ฉันจะโทรหาเขาตอนนี้เลย แล้วเดี๋ยวพวกเราก็ไปโรงพยาบาลกัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...