หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 39

สรุปบท บทที่ 39 เรื่องเมื่อสองปีที่แล้ว: หวานเย็น กรุ่นใจ

บทที่ 39 เรื่องเมื่อสองปีที่แล้ว – ตอนที่ต้องอ่านของ หวานเย็น กรุ่นใจ

ตอนนี้ของ หวานเย็น กรุ่นใจ โดย ช็อคโกแลต ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 39 เรื่องเมื่อสองปีที่แล้ว จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

เมธาวินตกตะลึง จากนั้นดวงตาของเขาก็เป็นประกายขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

โอ๊ะโอ ธนพัตกำลังหึงอยู่ใช่ไหม? น่าสนใจจริงๆ

เมธาวินยกยิ้ม และจู่ ๆ ก็นึกสนุกขึ้นมา เขาขยับตัวเข้าใกล้สาริศา แกล้งทำเป็นกำลังกระซิบพูด “พี่สะใภ้ ผมจะบอกอะไรให้นะ นายธนพัตคนนี้เป็นพวกซื่อบื้อเรื่องความรู้สึกแต่ไม่เป็นไรนะครับ ในภายภาคหน้าถ้าคุณรู้สึกเหงาและเบื่อก็มาหาผมได้ ผมน่าสนใจกว่าเขาเยอะ”

สาริศาตัวสั่น แล้วยกยิ้มแหยอย่างทำตัวไม่ถูก “คุณเมธาวิน ชอบพูดเล่นจริงๆ นะครับ”

ในเวลานี้สีหน้าของธนพัตบึ้งตึงมาก เขาจับมือของสาริศา แล้วมุ่งหน้าไปที่ห้องอาหาร

หลังจากป้าแหวนกับลุงชัยเตรียมอาหารแล้ว พวกเขาก็อ้างว่าที่บ้านมีธุระจึงขอตัวกลับไปก่อน ตอนนี้จึงมีเพียงสาริศา, ธนพัต และเมธาวินเท่านั้นที่ถูกทิ้งไว้ในบ้านพัก

เมธาวินกระดิกเท้าไปมา แล้วพูดอย่างเอาแต่ใจ “อ๊ะ ทำไมไม่มีไวน์ล่ะ ธนพัต นายไปเอาไวน์มาเลย โธ่เอ้ย ที่นี่ไม่มีคนนอกอยู่แล้ว นายยังจะนั่งอยู่บนรถเข็นบ้าๆ นั่นทำไมอีก!”

สาริศาตกตะลึงพอได้ยินคำพูดดังกล่าว เธอเห็นธนพัตลุกขึ้นมาจากรถเข็นจริงๆ ก่อนจะตักน้ำซุปใส่ชาม แล้วยื่นให้สาริศา ก่อนจะพูดเสียงเรียบ “ดื่มซุป”

จากนั้นก็หันหลังเดินไปที่ห้องเก็บไวน์

ตอนนี้สาริศาถึงได้เข้าใจ ว่าความสัมพันธ์ของเมธาวินกับธนพัตนั้นดีมากจริงๆ แม้แต่เรื่องที่ธนพัตไม่ได้ขาพิการ ก็ยังบอกให้เขารู้

เมธาวินเห็นว่าธนพัตเดินออกไป จึงเก็บรอยยิ้มที่สบาย ๆ ตรงมุมปากของเขา แล้วหันหน้าไปมองสาริศา

“พี่สะใภ้ ขอบคุณมากนะครับ”

สาริศารู้สึกไม่คุ้นเคยกับท่าทีที่เปลี่ยนเป็นจริงจังอย่างกะทันหันของเขา “ขอบคุณเรื่องอะไรคะ”

“ขอบคุณที่ยอมแต่งงานกับธนพัตครับ” เมธาวินเอนหลังพิงเก้าอี้ แล้วยิ้มออกมา ครั้งนี้เป็นรอยยิ้มที่จริงใจกว่าเดิม “คุณเป็นคนที่สองที่รู้ความจริงเกี่ยวกับขาของธนพัต แสดงว่าเขาเชื่อใจในตัวคุณมากจริงๆ”

สาริศานึกถึงสถานการณ์ตอนที่ธนพัตลุกขึ้นเดินในคืนนั้น ใบหน้าของเธอก็แดงเล็กน้อย แต่ก็ยังยกยิ้ม แล้วพูดว่า “เพราะเป็นสามีภรรยากัน เดิมทีก็ควรจะเชื่อใจซึ่งกันและกันนี่คะ”

เมธาวินมองไปยังผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขา ดวงตาของเขาเป็นประกาย ก่อนจะพูดว่า “พี่สะใภ้ ธนพัตเคยบอกคุณไหมว่าทำไมเขาถึงแกล้งทำเป็นขาพิการ?”

สาริศารู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

เมธาวินกับธนพัตช่างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง นิสัยแบบนี้ เขาน่าจะเป็นที่นิยมในหมู่สาวๆ มาก

“ฉันเดาว่า” สาริศาแสร้งทำเป็นพยายามคิดอย่างจริงจัง “เขาทำเพื่อให้คนในตระกูลกีรติเมธานนท์ ไม่สงสัยในตัวเขาใช่ไหมคะ?”

ในความเป็นจริงเรื่องที่ธนพัตแกล้งทำเป็นขาพิการ ในตอนนั้นไม่ใช่ว่าสาริศาจะไม่เคยคิด ดังนั้นในใจของเธอจึงมีการคาดเดาอยู่แล้ว

ไม่ว่ายังไงเธอก็เป็นนักข่าวคนหนึ่ง ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของตระกูลใหญ่ แต่ถึงแม้เธอจะไม่เคยประสบกับปัญหาแบบนี้มาก่อน แต่ไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่เคยได้ยิน เธอพอจะคาดเดาได้บ้าง ที่ธนพัตพยายามปกปิดเรื่องที่ขาของเขาหายดี ต้องเกี่ยวข้องกับคนในตระกูลกีรติเมธานนท์แน่นอน

เธอไม่เคยพบพี่ชายคนโตของธนพัต หรือก็คือบุรินทร์พ่อของธีภพมาก่อน แต่ภายนอกกลับมีข่าวลือออกมาอย่างกว้างขวางว่า บุรินทร์เป็นผู้ชายที่มีความทะเยอทะยานสูง ฝีมือในการจัดการก็โหดร้าย ในปัจจุบันท่านประเสริฐอายุมากแล้ว ตอนนี้บุรินทร์เป็นคนบริหารธุรกิจหลักทั้งหมดของตระกูลกีรติเมธานนท์

ส่วนธนพัตนั้น เขาแยกตัวออกมาจากตระกูลกีรติเมธานนท์อย่างสิ้นเชิง และเริ่มสร้างตัวจากมือเปล่า พอนึกได้แบบนี้ เกรงว่าเขาคงจะทำแบบนี้เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความขัดแย้งกับพี่ชายคนโตของเขา

พอคิดแบบนี้ ที่เขาแกล้งทำเป็นขาพิการ เพราะอยากหลบเลี่ยงพี่ชายของตัวเองสินะ?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ