ตอน บทที่ 40 สาเหตุที่แกล้งทำเป็นขาพิการ จาก หวานเย็น กรุ่นใจ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 40 สาเหตุที่แกล้งทำเป็นขาพิการ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ หวานเย็น กรุ่นใจ ที่เขียนโดย ช็อคโกแลต เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
นี่เป็นการคาดเดาของเธอเอง แต่หลังจากที่เมธาวินได้ยิน ในแววตาเต็มไปด้วยความนับถือ “ไม่เลวนี่นา พี่สะใภ้ ฉลาดมาก”
สาริศายิ้มแหย “ฉันดูละครการสงครามนางในมากเกินไปหน่อยค่ะ”
เมธาวิน “อุ๊บส์”เผลอหัวเราะออกมา “อันที่จริงตระกูลกีรติเมธานนท์มีธุรกิจขนาดใหญ่มาก ความซับซ้อนของมันก็ไม่ได้แตกต่างจากละครการสงครามนางในเลย สรุปก็คือ คุณอย่ามองว่าธนพัตคนนี้ ดูไปแล้วเหมือนสมบูรณ์แบบทุกอย่าง หลายปีมานี้ เขาใช้ชีวิตลำบากมาก ”
สาริศาชะงักงัน แต่สักพัก เธอก็พยักหน้าขึ้นลง
สิบปีเต็มๆ ทั้งที่ร่างกายแข็งแรงดีทุกอย่าง แต่กลับต้องนั่งอยู่บนรถเข็น แม้แต่คนในครอบครัวยังต้องระวัง แน่นอนว่าต้องลำบากอยู่แล้ว
“ดังนั้น” เมธาวินพูดขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะเก็บรอยยิ้ม แล้วทำสีหน้าจริงจัง “พี่สะใภ้ คุณต้องทำให้เขามีความสุขมากๆ นะครับ”
สาริศาคาดไม่ถึงว่าเมธาวินจะพูดแบบนี้ออกมากะทันหัน เธอจึงชะงักไปเล็กน้อย
ทำให้เขามีความสุขอย่างนั้นเหรอ?
แต่เธอ จะทำให้เขามีความสุขได้ยังไง
สาริศายังไม่ทันได้ตอบ เธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่มั่นคงเดินเข้ามาพร้อมกับเสียงเย็นชาว่า “พวกนายกำลังคุยอะไรกันอยู่”
สาริศาหันไปมองตามเสียง จึงเห็นธนพัตเดินกลับมาแล้ว
ธนพัตในเวลานี้กำลังยืนนิ่ง รูปร่างสูงโปร่ง เสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนแสดงให้เห็นรูปร่างที่สมบูรณ์แบบของเขาออกมาอย่างชัดเจน และขาที่เรียวยาว
แววตาของสาริศา เคร่งขรึมลงอย่างห้ามไม่อยู่
ผู้ชายที่โดดเด่นแบบนี้ กลับต้องอยู่บนรถเข็น เขาต้องรู้สึกยังไง?
“ฉันกำลังบอกพี่สะใภ้ ว่าฉันตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น และกำลังจะแย่งไปจากนาย” พอเมธาวินเห็นธนพัต จึงทำท่าทางเสเพล และไม่ใส่ใจอีกครั้ง “ธนพัต นายเองก็รู้ว่าฉันมีเสน่ห์มากแค่ไหน มีผู้หญิงจำนวนมากแค่ไหนที่ติดใจในตัวฉัน ดังนั้นนายต้องระวังไว้ด้วย”
“อย่าเอาสาริศาไปเปรียบเทียบกับพวกผู้หญิงรอบตัวนาย” ธนพัตพูดเสียงเรียบนิ่ง ก่อนจะเดินไปข้างโต๊ะอาหาร แล้วใช้อุปกรณ์ไขจุกเปิดไวน์แดงในมือของเขาออก “เธอไม่มีทางชอบนาย”
“โอ๊ะ มั่นใจในตัวเองจริงๆ” เมธาวินส่งเสียงฮึออกมาทางจมูก
สำหรับอาหารมื้อนี้ เพราะมีเมธาวินหนุ่มเจ้าสำราญอยู่ด้วย ตั้งแต่เริ่มกินข้าวจนถึงมื้ออาหารสิ้นสุดลงไม่มีสถานการณ์อึดอัดใจเลยสักนิด สาริศาโดนเมธาวินปล่อยมุกตลกจนหัวเราะบ่อยๆ หลังจากกินของหวานเป็นชุดสุดท้าย เมธาวินก็เช็ดปาก แล้วลุกขึ้นยืนอย่างไม่เต็มใจ
“เอาล่ะ พี่สะใภ้ วันนี้ผมมีนัดเดท ไม่อยู่รบกวนคุณกับธนพัตแล้ว แล้วเจอกันใหม่นะครับ”
สาริศาลุกขึ้นยืนเพื่อส่งแขกพร้อมกับธนพัต แล้วยืนมองรถสปอร์ตสีแดงของเมธาวินขับรถออกไปจนลับสายตา ถึงจะกลับไปที่ห้องอาหาร ธนพัตกำลังเก็บจานที่ใช้แล้วกลับไปที่ห้องครัว
“ฉันเก็บเองค่ะ” สาริศารีบพูดขึ้นมา คิดจะไปหยิบจานอาหารในมือของธนพัตมา แต่กลับถูกเขายกมือขึ้นห้ามซะก่อน
สมแล้วที่เป็นผู้หญิงที่เขาชอบ
“อืม” ธนพัตจูงมือสาริศาเดินออกจากห้องครัว “เมธาวินเป็นคนพูดเก่งกว่าผม”
ความหมายของคำพูดนี้ก็คือ ให้เมธาวินเป็นคนพูดเรื่องนี้ บางทีอาจจะพูดได้ชัดเจนกว่าให้เขาพูดเอง
“สำหรับรายละเอียดลึก” ธนพัตลังเลอยู่สักพัก ก่อนจะพูดเสริมว่า “ผมยังบอกคุณไม่ได้จริงๆ ยิ่งรู้มากขึ้น ก็ยิ่งเป็นอันตรายต่อคุณ ผมหวังว่าคุณจะเข้าใจ”
สาริศาพยักหน้าเข้าใจ “ฉันรู้ค่ะ ว่าคุณอยากปกป้องฉัน”
คำพูดของสาริศาเบามาก มันเบาราวกับขนนก ที่พัดผ่านหัวใจของธนพัตอย่างนุ่มนวล ทำให้เขาบีบมือที่อ่อนนุ่มของสาริศาไว้แน่นมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว
สาริศารู้สึกได้ว่าธนพัตกำลังจับมือเธออยู่ แก้มของเธอจึงร้อนผ่าวขึ้นมา และในขณะที่เธอกำลังจะพูดอะไร ก็ได้ยินเสียโทรศัพท์มือถือของเธอที่วางอยู่ในห้องนั่งเล่นดังขึ้นมาซะก่อน
“คือว่า ฉันขอไปรับโทรศัพท์ก่อนนะคะ” เธอก้มหน้าลงแล้วพูด ก่อนจะรีบดึงมือของเธอออก แล้วเดินไปที่ห้องนั่งเล่น
พอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจากโต๊ะ พอเห็นหมายเลขผู้โทรมา สาริศาก็ขมวดคิ้วแน่น
เธอรับโทรศัพท์ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ไรยา เธอโทรมาหาฉันทำไม”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...