ในที่สุดสาริศาก็ได้สติขึ้นบ้าง
ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า คาดไม่ถึงว่าต้องการจะแต่งงานกับเธอจริง ๆ
แต่นี่เป็นเพียงการพบกันครั้งที่สองของพวกเขาเท่านั้นนะ นี่มันช่างน่าขัน!
“คุณคะ คุณอย่าพูดเล่นเลยค่ะ”
สาริศาอยากจะคืนเงินให้อีกฝ่ายและรีบไป แต่ผู้ชายคนนั้นก็ได้แต่พูดขึ้นอย่างไม่ทุกข์ร้อน
“คุณสาริศา คุณถึงขนาดยอมให้โอกาสผู้ชายพรรค์นั้นเมื่อวานนี้ ทำไมถึงไม่ยอมให้โอกาสผมล่ะ?” สิ่งที่ผู้ชายคนนั้นพูดเหมือนกำลังจะต้องการให้สาริศาเห็นด้วย แต่น้ำเสียงของกลับไม่อ่อนข้อให้ “หรือว่าผมสู้เขาไม่ได้? อ้อ ผมเข้าใจแล้ว คุณสาริศาดูถูกที่ผมเป็นคนพิการ?”
“แน่นอนว่าไม่ใช่แบบนั้น” สาริศาโพล่งออกมา แต่เมื่อเธอได้พบกับแววตาของชายคนนั้นที่กึ่งยิ้มกึ่งนิ่ง เธอตระหนักว่าดูเหมือนเธอจะถูกชายคนนั้นจูงจมูกเดินเสียแล้ว
สาริศากัดริมฝีปากของเธอด้วยความหงุดหงิดและพูดด้วยท่าทางจริงจัง “คุณคะ พวกเราต่างไม่รู้จักอีกฝ่าย การตัดสินใจแบบนี้มันฉุกละหุกเกินไป”
“ผู้ชายที่คุณเดตด้วย คุณเองก็ไม่รู้จัก” ชายหนุ่มตอบกลับอย่างเฉยเมย แต่มันก็ตรงไปตรงมามาก สาริศาไม่ใช่คนพูดเก่ง เพียงพริบตาก็ถูกต้อนจนพูดไม่ออก
“คุณสาริศา” ชายหนุ่มประสานมือวางไว้ที่บนขาเรียวของเขาบนรถเข็นนั้นและเงยหน้ามองสาริศาด้วยสายตาเป็นประกาย “ผมเชื่อว่าคุณต้องการการแต่งงานครั้งนี้มาก ถ้าหากครั้งนี้คุณพลาดไป คุณคิดโอกาสครั้งต่อไปของคุณจะเป็นเมื่อไหร่?”
ต้องพูดว่าผู้ชายคนนี้เป็นนักเจรจาที่เก่งกาจจริงๆ และทุกประโยคก็จับจุดอ่อนของสาริศาได้จนดิ้นไม่หลุด
ใช่แล้ว เธอต้องการการแต่งงานมากจริง ๆ
จะพูดให้ถูกก็คือเธอต้องการสามีในเมืองนี้จริง ๆ
ถ้าไม่อย่างนั้นเธอคงจะไม่เดตกับผู้ชายเยอะขนาดนี้ภายในระยะเวลาสามเดือน หรือแม้กระทั่งเจอกับผู้ชายแปลก ๆ อย่างกรภัค
สาริศายอมรับว่าเขาพูดถูกและไม่สามารถจะปฏิเสธได้เลย เขาเพียงแค่จ้องไปที่ชายที่นั่งรถเข็นที่อยู่ข้างหน้าเป็นเวลานานก่อนที่จะพูดออกมา “คุณ...เป็นคนเมืองSรึเปล่า?”
เมื่อได้ยินคำนี้ ริมฝีปากของผู้ชายก็ยกขึ้น “ใช่”
สาริศาไม่พูดอะไรอีก เพียงแค่แอบจับบัตรประชาชนแน่นด้วยมือของเธอในกระเป๋า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...