ออสตินที่คอยสังเกตสาริศาอยู่ตลอด เมื่อเห็นท่าทีของเธอเขาก็ก้าวเท้าออกไปด้วยความเป็นห่วง เพราะกลัวว่าร่างกายของเธอจะรู้สึกไม่สบายตรงไหนขึ้นมา
ทว่าก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว ออสตินก็ต้องชะงักฝีเท้า ไม่รู้ว่าเขาคิดถึงอะไรขึ้นมา เขาได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่นก่อนที่จะถอยกลับมายืนอยู่ที่เดิม
ธนพัตกับสาริศา ต่างกำลังฟังคำตอบจากพชิราอย่างตั้งใจ ท่าทีก้าวออกไปแล้วถอยกลับนี้ จนท้ายที่สุดก็ไม่มีใครสังเกตเห็นเลยนอกจากออสติน
เมื่อได้ยินคำถามของธนพัต พชิรากระตุกมุมปากยิ้มอย่างหมดความอดทน ก่อนที่จะเอ่ยปากตอบคำถาม
"ใช่ ภายหลังฉันก็นึกขึ้นได้ว่าถ้าหากต้องการให้นิธิธราสกุลกรุ๊ปหลุดพ้นจากวิกฤติในตอนนั้น มีทางเดียวคือต้องขอความช่วยเหลือจากกีรติเมธานนท์กรุ๊ปเท่านั้น แต่ถึงฉันจะไปหาคุณแล้วมันจะมีประโยชน์อะไร ตอนนั้นฉันกับคุณอายุก็ไม่ได้ต่างกันมาก ไม่ได้มีอำนาจอะไรอยู่ในมือเลยสักอย่าง ไม่มีแม้กระทั่งหุ้นของกีรติเมธานนท์กรุ๊ป แล้วจะช่วยอะไรฉันได้"
เมื่อได้ยินพชิราพูดแบบนั้น แววตาของธนพัตหม่นหมองลงเล็กน้อย ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะเกลียดชังพชิราผู้ร้ายกาจคนนี้มาก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าตอนที่เขายังหนุ่มเขารักแฟนสาวคนนี้ของเขามาก ในสายตาของเขานอกจากท่านประเสริฐแล้วก็มีแค่เธอคนนี้ที่สำคัญที่สุด
ถ้าตอนนั้นเธอมาหาเขาละก็ เขาคงจะพยายามคิดหาหนทางอย่างเต็มที่เพื่อไปขอร้องคุณปู่ให้รับปากช่วยเหลือนิธิธราสกุลกรุ๊ปให้รอดพ้นวิกฤตในครั้งนั้น และคุณปู่ก็รักเขามากขนาดนั้น คิดว่าสุดท้ายท่านก็คงตอบตกลงเช่นกัน
แต่กลับกลายเป็นว่าในใจของเธอ ตอนนั้นเขาเป็นแค่คุณชายที่ไร้ประโยชน์คนหนึ่งเท่านั้น ไม่มีคุณค่าพอที่จะขอความช่วยเหลือเลยด้วยซ้ำ
"แล้วเธอก็เลยไปขอให้บุรินทร์ช่วย?" สาริศาถามกลับต่อทันที นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมตอนนั้นพวกเขาถึงร่วมมือกันลักพาตัวธนพัตอย่างนั้นเหรอ?
หล่อนหลบสายตาไม่กล้ามองธนพัต น้ำเสียงของพชิราสั่นเครือเล็กน้อย “ใช่ ฉันไปหาบุรินทร์ แต่ฉันไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนั้นมีแค่เขาคนเดียวที่สามารถช่วยฉันได้ มีแค่เขาเท่านั้นที่จะตอบตกลงช่วยเหลือฉัน กีรติเมธานนท์กรุ๊ปต้องร่วมมือกับนิธิธราสกุลกรุ๊ปเท่านั้น นิธิธราสกุลกรุ๊ปถึงจะมีโอกาสฟื้นคืนมาได้อีกครั้ง”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ แววตาของพชิราก็เต็มไปด้วยความเย้ยหยัน “แต่ฉันรู้ว่าบุรินทร์ไม่มีทางช่วยเหลือฉันโดยไม่มีเหตุผลแน่ ไม่ว่าใครก็ไม่มีทางช่วยฉันโดยไม่มีเหตุผล ทุกคนสนใจแต่ผลประโยชน์ของตัวเอง ถ้าไม่มีผลดีกับตัวเอง ไม่ว่าใครก็ไม่มีทางทำหรอก”
“แล้วเธอรับปากอะไรเขาไป!?” ธนพัตกำหมัดแน่น เกร็งจนเส้นเลือดปรากฏบนหน้าผากอย่างชัดเจน ราวกับว่าเขากัดฟันถามประโยคนี้ออกมา ในใจของเขาพอจะเดาได้แล้วว่าเรื่องราวมันเป็นไปยังไงต่อ แต่เขาไม่อยากจะเชื่อ ทำไมพวกเขาถึงทำมันได้!
พชิรามองธนพัตด้วยดวงตาที่เคลือบคลอไปด้วยน้ำตา เมื่อเห็นท่าทีของเขาเธอก็ไม่กล้ามองเขาอีก เอาแต่ก้มหน้าก้มตาแล้วพึมพำว่า “ดังนั้น...ดังนั้นฉันก็เลยทำข้อตกลงกับบุรินทร์ ฉันบอกกับเขาว่า ขอเพียงแค่เขาสามารถช่วยให้ตระกูลนิธิธราสกุลหลุดพ้นจากวิกฤติ ฉัน ฉันจะช่วยเขากำจัดเสี้ยนหนามที่คอยขวางหูขวางตาเขา ซึ่งก็คือคุณ น้องชายแท้ ๆ ของเขา”
พูดจบ พชิราก็เงยหน้าขึ้นอีกครั้งแล้วอธิบายอย่างกระวนกระวายใจว่า “ธนพัต ตอนนั้นที่ฉันพูดแบบนั้นก็เพราะต้องการเกลี้ยกล่อมเขา ฉันไม่เคยคิดที่จะร่วมมือกับเขาทำร้ายคุณเลย คุณเชื่อฉันนะ! ฉันแค่อยากจะเกลี้ยกล่อมเขาก่อน ให้เขาช่วยตระกูลนิธิธราสกุลให้รอดพ้นวิกฤตก่อนเท่านั้น”
แม้ว่าเมื่อก่อนเขาจะเคยได้ยินสาริศาพูดว่าคดีลักพาตัวในครั้งนั้นพชิรากับบุรินทร์วางแผนร่วมกัน และธนพัตก็เตรียมใจเอาไว้แล้ว แต่เมื่อได้ยินจากปากของพชิราเองแบบนี้ หัวใจของเขาก็ยังไม่สามารถซ่อนความตกใจและความโกรธเอาไว้ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...